ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “พร้อมพงศ์” โฆษกเพื่อไทย และ “เกียรติอุดม” ส.ส.อุดรธานี คนละ 1 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท กรณีหมิ่นประมาทกล่าวหาประธานศาลรัฐธรรมนูญวางตัวไม่เป็นกลาง
ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ อ.1886/2553 ที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1 -2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2553 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองร่วมกันใส่ความโจทก์ โดยให้ข่าวแก่ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน อ้างว่าโจทก์ให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบเป็นการส่วนตัว ช่วงระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งกล่าวหาว่าโจทก์ประพฤติตนไม่เหมาะสม และขาดความเป็นกลาง เป็นเหตุทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ทำหน้าที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเคยเป็นอดีตผู้พิพากษามาเป็นเวลานาน ย่อมต้องมีความเป็นธรรม และเป็นกลาง ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญของอาชีพ การที่จำเลยทั้งสองแถลงข่าว ย่อมเล็งเห็นผลจากการแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า โจทก์จะต้องได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์วางตัวไม่เป็นกลาง ขาดความยุติธรรม การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวหาโดยที่ไม่มีมูลความจริง ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต
พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับ 50,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้เผยแพร่คำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์จำนวน 3 ฉบับ เป็นเวลา 7 วัน
ภายหลัง นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาล แต่จะปรึกษาทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อไป ส่วนกรณีที่ศาลอาญามีหมายเรียกให้จำเลยคดีก่อการร้ายจำนวน 24 คน ทั้งที่เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.มาสอบถาม กรณีปราศรัยผิดเงื่อนไขเพิกถอนประกันตัวหรือไม่นั้น เชื่อทุกคนจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลได้