ผ่าประเด็นร้อน
ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือว่าข่าวร้ายกับข่าวที่ศาลอาญาเลื่อนนัดฟังคำสั่งกรณีถูกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยื่นคำร้องให้เพิกถอนประกันตัว หลังจากถูกระบุว่ามีพฤติกรรมข่มขู่คุกคาม ปลุกระดมให้เกลียดชังศาล โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (23 กรกฎาคม) หลังจากที่มีการไต่สวนแล้วศาลอาญาได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 9 สิงหาคม
อย่างไรก็ดี หากมองแบบผิวเผินอาจไม่เห็นความผิดปกติอะไร แต่ถ้าลองย้อนกลับไปดูข่าวเก่าๆ จะพบว่า ในวันที่ 9 สิงหาคม เป็นวันที่ศาลอาญาได้นัดฟังคำสั่งในกรณีเดียวกันกับพวก “หัวโจก” คนเสื้อแดง เช่น ก่อแก้ว พิกุลทอง และเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วย ที่ถูก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ร้องให้เพิกถอนประกันในคดีก่อการร้าย โดยมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับ จตุพร พรหมพันธุ์ ขณะเดียวกัน ในวันเดียวกันศาลยังนัดพิจารณาคดีก่อการร้ายของ 23 แกนนำคนเสื้อแดงอีกด้วย เช่น วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, วิภูแถลง พัฒนภูมิไท, อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง, ยศวริศ ชูกล่อม เนื่องจากมีพฤติกรรมคล้ายกันคือหมิ่นเหม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล
แต่เมื่อนับนิ้วดูวันเวลา คือวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งถือว่าเลยวันเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญไปแล้ว นั่นคือสภาจะเปิดประชุมตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป นั่นหมายความว่า พวกที่เป็น ส.ส.อย่าง เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และก่อแก้ว พิกุลทอง รวมไปถึงคนอื่นๆที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองชั่วคราวยื้อคดีไปได้อีกพักใหญ่ แต่ไม่รวมถึง จตุพร พรหมพันธุ์ แน่นอน เพราะได้พ้นสภาพ ส.ส.ไปแล้ว
สรุปในที่นี้ก็คือพวกที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ต้องไปลุ้นระทึกกันที่ศาลอาญาในวันที่ 9 สิงหาคม โดยเฉพาะ นายก่อแก้ว ที่ก่อนหน้านี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ทวี ประจวบลาภ ได้เน้นย้ำว่ามีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อสัญญาประกันตัว และ “เห็นว่ากระทบต่อสถาบันศาลยุติธรรม เป็นหน้าที่ของศาลอาญาที่ต้องทำ”
ในเครื่องหมายคำพูดดังกล่าว ต้องการเน้นย้ำให้เห็นเป็นพิเศษว่าท่าทีของศาลเป็นอย่างไร แต่ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากคำพูดของก่อแก้วก่อนหน้านี้ที่ปลุกระดมให้ “จับตัว” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถือว่าได้รอดพ้นคุกไปอย่างหวุดหวิด เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มเอาไว้ได้ชั่วคราว
เมื่อย้อนกลับมาที่ จตุพร ทั้งท่าทีและคำพูดที่แสดงออกมาได้กล่าวโจมตีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าใดนัก รวมไปถึงก่อนหน้านี้ก็เคยนำมวลชนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากถูกร้องถอนประกัน โดยอ้างว่าไปเพื่อสอบถามเหตุผลที่ต้องยื่นคำร้องดังกล่าว อีกทั้งยังประกาศล่วงหน้าถ้าศาลอาญาสั่งถอนประกันก็จะ “อดอาหาร” ประท้วง ซึ่งพิจารณาจากความหมายก็ไม่ต่างจากการกดดันศาลนั่นแหละ
นอกเหนือจากนี้เมื่อพิจารณาจากสถานะปัจจุบันของ เขาแล้วถือว่า “ขาลอย” เนื่องจากไม่ได้เป็น ส.ส.ดังกล่าว มันก็ยิ่งน่าหวาดเสียว และเมื่อศาลเลื่อนนัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 สิงหาคม มันก็ยิ่งลุ้นระทึกเข้าไปอีก เพราะยังเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มระหว่างใกล้ส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่จะมีการปรับในรอบ 1 ปี ทำให้กึกๆกักๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าชี้ขาดตั้งแต่เมื่อวานนี้ก็จะได้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าบวกหรือลบ ถ้ารอดก็มีลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี แต่เมื่ออยู่ในสภาพอย่างที่เห็น เป็นใครก็ต้องเครียด
หากพิจารณาจากท่าทีของศาลโดยประมวลจากคำพูดของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาที่ส่งเสียงเข้มว่า “หมิ่นเหม่” ผิดสัญญาปล่อยตัวชั่วคราว กรณีของก่อแก้ว กับพวก รวมทั้งเตือนในเรื่องการแสดงความคิดเห็นไม่ให้กระทบคนอื่น มาจนถึงกรณีของ จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ล่าสุดหลังจากมีการไต่สวนแล้วก็ได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 พร้อมกับหัวโจกคนอื่นๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือศาลได้กำชับไม่ให้แสดงความเห็นในลักษณะดังกล่าวนี้อีก
ดังนั้น ในวันที่ 9 สิงหาคมก็จะต้องแยกเป็นสองส่วน คือ พวกหัวโจกคนเสื้อแดงที่เป็น ส.ส.อย่าง เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, วิภูแถลง พัฒนภูมิไท จะต้องหยุดพิจารณาในเรื่องเพิกถอนประกันชั่วคราวออกไปก่อน เพราะติดสมัยประชุมสภามีเอกสิทธิ์คุ้มครอง รวมไปถึงคนอื่น เช่น นพ.เหวง โตจิราการ ในกรณีที่ศาลนัดพิจารณาคดีก่อการร้ายวันเดียวกัน แต่ สำหรับ จตุพร และคนอื่น จะต้องลุ้นระทึก เพราะเมื่อพิจารณาจากท่าทีเข้มๆดังกล่าวของศาลที่ผ่านมามันก็น่าหวาดเสียว ซึ่งสัญญาณที่ผ่านมารับรองว่ามีแต่ลบไม่มีบวกให้เห็นเลย!!