อำมาตย์แดงฟันธง ศาลไม่ถอนประกัน “จตุพร” อ้างศาล รธน.ทำสิ่งที่ไม่มีอำนาจ ส่วนการเข้าชื่อถอดถอนตุลาการ อ้างเป็นสิทธิ์ รับท่าทีแกนนำต้องระวัง ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว โอดต้องเดินตัวลีบตัวงอ โวยคนอื่นต้องระวังล้ำเส้นด้วย ยืนยันไม่ยอมรับอำนาจศาล รธน.
วันนี้ (23 ก.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาเลื่อนการพิจารณาถอนประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงไปเป็นวันที่ 9 ส.ค.ว่า หลังจากที่ตนได้เข้าร่วมติดตามผลการไต่สวนในช่วงต้น ก็ทำให้มีความมั่นใจว่าศาลจะให้ความเมตตา และไม่มีการถอนประกันตัวนายจตุพร หรือคนอื่นๆ เพราะสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นพี่น้องประชาชนก็เห็นว่าไม่ใช่ว่าอยู่ๆ พวกตนจะมาตั้งเวทีพูดถึงคนนั้นคนนี้ แต่เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการในสิ่งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ความวุ่นวาย การวิพากษ์วิจารณ์จึงเกิดขึ้น แต่ก็เป็นเพียงการแสดงเหตุผล การแสดงวาทะประกอบข้อเท็จจริง ไม่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมหรือการเรียกร้องใดๆ มากไปกว่านี้
“การเข้าชื่อกันเพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ทำตามบทบัญญัติของกฎหมาย ผมจึงคิดว่าศาลคงเข้าใจสถานการณ์และเมื่อรับทราบข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้วก็น่าจะอำนวยความยุติธรรมให้ได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ ท่าทีของกลุ่มคนเสื้อแดงจะต้องระมัดระวังขึ้นหรือไม่ เพราะศาลเองก็ได้มีการตักเตือนในเรื่องนี้ นายณัฐวุฒิกล่าวยอมรับว่า คงจะต้องมีความระมัดระวังในการแสดงความเห็น แต่คงไม่ใช่ให้คนเสื้อแดงระมัดระวังอยู่ฝ่ายเดียว เพราะบุคคลหรือหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองจะต้องระมัดระวังในการดำเนินการและการแสดงออกด้วย
“พวกผมทั้งถูกดำเนินคดี ไล่ล่า จับกุม คุมขัง ต้องระมัดระวังจนต้องเรียกว่าเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตัวลีบตัวงอกันไปหมด แต่หากปรากฎว่าส่วนอื่นๆ เดินตัวพอง ยื่นออกมานอกกรอบที่ตัวเองมีอำนาจหรือทำในสิ่งที่สังคมคลางแคลงโดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ผมก็ต้องขอความเห็นใจ เพราะหากไม่มีสถานการณ์อย่างนี้พวกเราก็เคลื่อนไหวกันตามปกติ ไม่มีเหตุต้องไปกระทบกระทั่งใครเป็นพิเศษ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
แกนนำ นปช.กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับกรณีของศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องบอกว่า ส่วนตัวไม่ยอมรับวิธีการนี้ และยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะมายับยั้งร่างรัฐธรรมนูญที่ดำเนินการโดยรัฐสภา เพราะเป็นจุดยืนของพวกตน และเป็นความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าไปที่ใดก็จะพูดอย่างนี้ ซึ่งจะพูดโดยระมัดระวัง แต่เราจะระวังจนไม่พูดความจริงไม่ได้ จะระวังจนทอดทิ้งหลักการที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะเวลานี้สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งเลือกบังคับใช้รัฐธรรมนูญตามความต้องการของตัวเองก็เท่ากับมีการฉีกรัฐธรรมนูญไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นความจริงที่ต้องพูด
