xs
xsm
sm
md
lg

ชงสตง.-ปปช.-สตง.เชือด"ดำรงค์" ขนจนท.หนุมม็อบแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธาน กมธ.การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติ ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ให้ตรวจสอบกรณีที่มีการระดมเจ้าหน้าที่จาก 3 หน่วยงานคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวม 2,500 นาย โดยอ้างโครงการอบรมธรรมมะ ที่วัดธรรมกายบังหน้า และมีเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยาานฯ ประมาณ 500 คน เข้าไปอยู่ในสวนสัตว์ดุสิต เพื่อสนับสนุนการชุมนุมทางการเมือง บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 55
แม้ว่านายดำรงค์ พิเดช อธบดีกรมอุทยานฯ จะชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดิน เป็นการเดินทางไปในนามส่วนตัว ทางกรมอุทยานฯ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กรรมาธิการพิจารณาแล้วมีข้อสรุป เชื่อว่าจนท.ถูกส่งไปสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองจริง จึงมีมติส่งเรื่องนี้ให้ สตง. ตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณ กว่า 5 ล้านบาท ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะมีการอนุมัติโครงการในวันที่ 5 มิ.ย. 55 จากนั้นระดมคน วันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งถือเป็นโครงการฉุกเฉิน เร่งด่วน ผิดสังเกตอย่างมาก จึงส่งเรื่องให้ สตง. ตรวจสอบเรื่องการใช้จ่ายเงิน อีกทั้งยังปรากฏว่า มีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก แม้ว่าทางกรมอุทยานฯ จะพยายามชี้แจงว่า ไม่ใช่เป็นคนของกรม แต่เรื่องนี้ กมธ.คิดว่า ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง จึงส่งให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบโดย กมธ.จะส่งหลักฐานให้ว่าบุคคลเหล่านี้ เป็นใครมาจากไหน อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีมติส่งเรื่องนี้ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพราะเชื่อมีการสั่งราชการโดยมิชอบ เพื่อให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ว่า การสั่งราชการดังกล่าว ชอบหรือไม่
นายนริศ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การเคลื่อนไหวเรื่องกำลังพลของกรมอุทยานฯ มักจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีการชุมนุมทางการเมืองเสมอ เช่น ในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สวนลุมพินี ก็มีการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ส่วนคราวที่แล้วที่อ้างโครงการอบรมธรรมมะ แต่ส่งเจ้าหน้าที่ไปที่เขาดิน ก็ตรงกับการเคลื่อนไหวที่หน้ารัฐสภา โดยมีพยานหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าที่ไปอยู่ที่เขาดิน ประมาณ 500 นาย และส่งข้าวห่อจากวัดธรรมกาย ไปเป็นเสบียงให้
" ผมคิดว่าอันตรายมาก ถ้ามีการใช้หน่วยงานนี้มาสนับสุนทางการเมือง เพราะเป็นหน่วยงานที่มีกองกำลังกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ การสนธิกำลังจะต้องทำอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยในช่วงหลังปฏิวัติ 2549 ทหารเคยยึดปืนกลับไปแล้วครั้งหนึ่ง เพราะเชื่อว่ามีการนำเจ้าหน้าที่และอาวุธ ไปสนับสนุนรัฐบาลในขณะนั้น ดังนั้นหากถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจริง ก็จะถือเป็นกองกำลังน้อยๆ ได้เลย เพราะมีบุคลากรร่วมหมื่นคน เป็นอันตรายแน่ หากนำมาใช้สนับสนุนกลุ่มการเมือง ผมขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ว่า ต้องมีอุดมการณ์รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่รับใช้ในทางการเมือง" นายนริศ กล่าว

** จี้ "ปู-เหลิม"ปรามเสื้อแดงหยุดป่วน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กลุ่มคนเสื้อแดง ยังตามราวีการลงพื้นที่ทำงานของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งล่าสุดเกิดขึ้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่า เหตุการณืเช่นนี้ เกิดขึ้นซ้ำซาก หลายครั้ง ตั้งแต่หลังจากการเลือกตั้ง จนพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะออกมาห้ามปราบ ทั้งๆที่เป็นการละเมิดสิทธิ และทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีการใช้สื่อทีวีเสื้อแดง ผ่านดาวเทียม ออกมาปลุกระดม โดยเฉพาะนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนสำคัญของ แดงอุดรฯ ที่ประกาศผ่านทีวีดาวเทียมว่า จะไม่ให้มีกลุ่มพันธมิตรฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปเหยียบผืนแผ่นดินอีสาน โดยจะระดมคนเสื้อแดงภาคอีสาน ต่อต้านในทุกพื้นที่ ที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางไป
"การพูดดังกล่าวของนายขวัญชัย เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แล้วยังเป็นการละเมิดสิทธิทางการเมืองของพรรคการเมืองในการทำกิจกรรม ซึ่งหากแกนนำรัฐบาล ยังไม่มีท่าทีชัดเจนเรื่องนี้ เชื่อว่าที่สุดจะนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างมวลชน ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรฯ ที่รักนายอภิสิทธิ์ ก็คงจะไม่ปล่อยให้กระทำเพียงฝ่ายเดียว เพระความอดทนของคนมีขีดจำกัด หากถึงวันนั้น คงไม่มีใครห้ามปรามใครกันได้ เพราะผู้มีอำนาจตามกฎหมายคือรัฐบาล ก็ไม่ใส่ใจที่จะดูแลป้องกันปัญหา" นายเทพไท กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น