ASTVผู้จัดการรายวัน - สธ.มั่นใจคุมมือเท้าปากได้ดีกว่าหวัด 2009 พร้อมตั้งเป้าการตายต้องเป็นศูนย์ และผู้ป่วยต้องไม่เกิน 18,000 คน คาดหลัง ส.ค.สถานการณ์จะดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยาเผย ผู้ใหญ่มีโอกาสติดเชื้อ 10% ขณะที่ผลสอบสวนโรคชี้เด็ก 2 ขวบไม่ได้ตายเพราะมือเท้าปาก ด้านสพฐ.สั่งปิดโรงเรียน 14 แห่งทั่วประเทศ รวมร.ร.กรุงเทพคริสเตียนด้วย ผบ.ทบ.กำชับทหาร เฝ้าระวังมือเท้าปากตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
วานนี้ (19 ก.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกุมารแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์โรคมือเท้าปาก โดยได้ทำการหารือกันใน 3 เรื่องหลัก คือ 1.สถานการณ์โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่พบตามฤดูกาลซึ่งเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคม สถานการณ์ก็จะดีขึ้น ดังนั้นช่วงนี้เราจึงควรเตรียมความพร้อมและให้ความรู้กับผู้ปกครองเป็นหลัก 2.รีบหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ และหากพบเด็กป่วยมีอาการต้องสงสัยก็ให้ส่งเด็กกลับบ้านและทำความสะอาดโรงเรียน และ 3.หามาตราการลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยคือทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตน้อยที่สุด โดยเมื่อปี 2554 พบผู้ป่วย 18,000 คน และเสียชีวิต 6 คน แต่ปีนี้ 2555 พบผู้ป่วยประมาณ 13,000 คน แต่จะพยายามให้การตายเป็นศูนย์ และตั้งเป้ายอดผู้ป่วยไม่เกิน 18,000 คน ซึ่งตอนนี้ภาคอีสานและภาคกลางพบการระบาดมากสุด
"สธ.มั่นใจว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้ไม่เหมือนตอนที่ไข้หวัด 2009 ระบาดใหม่ๆที่เราไม่รู้อะไรเลย แต่โรคมือเท้าปากเรารู้หมดว่าเชื้อจะเข้าทางปากออกทางอุจจาระ ดังนั้นถ้าเรารักษาความสะอาดกินร้อนช้อนกลางก็จะช่วยลดการระบาดได้"
**ผู้ใหญ่เสี่ยงติดเชื้อ "มือเท้าปาก" 10%
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโอกาสที่ผู้ใหญ่จะติดเชื้อไวรัสมือ เท้า ปาก ว่า เป็นไปได้อยู่แล้ว เนื่องจากโรคนี้พบมากในเด็กเล็กถึงร้อยละ 90 ดังนั้น ที่เหลืออีกร้อยละ 10 ย่อมเกิดขึ้นได้ในผู้ใหญ่ โดยจะเกิดในรายที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือไม่เคยเป็นมาก่อน
**เด็ก 2 ขวบ ไม่ได้ตายเพราะมือเท้าปาก
นพ.ภาสกร อัครอัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่เสียชีวิต ที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี ซึ่งผลการตรวจออกมาว่า ไม่ได้เป็นโรคมือเท้าปาก แค่มีลักษณะอาการใกล้เคียง ว่า กรณีดังกล่าวในการสอบสวนทางระบาดวิทยา มีการสอบสวนโรคและสรุปอย่างย่อ โดยสอบประวัติเด็กพบว่า เด็กไม่ได้คลุกคลีกับเด็กอื่นๆ เพราะไม่ได้เข้าศูนย์เด็กเล็ก แม้ว่าครอบครัวจะทำกิจการรถรับส่ง แต่ก็ไม่พบว่า ครอบครัวมีประวัติการเจ็บป่วย ฉะนั้น เมื่อไม่มีปัจจัยเสี่ยงทางการระบาดก็ต้องตัดสาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคมือเท้าปากออก ส่วนจะสรุปว่าเด็กเสียชีวิตด้วยเชื้ออะไรนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาและอาศัยผลทางห้องปฏิบัติการในการสอบสวนโรค
**ปิด ร.ร.สังกัดสพฐ. 14 โรง ยอด นร.ป่วยพุ่ง 211 คน
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า นักเรียนสังกัดสพฐ.ที่พบว่าได้รับเชื้อโรคมือเท้าปาก โดยข้อมูลวันที่19 ก.ค.พบว่า มีนักเรียนได้รับเชื้อโรคทั้งหมด 211 คน จาก 35 โรงเรียน ใน 23 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ โดยสั่งปิดแล้ว 14 โรงเรียน แบ่งเป็นพื้นที่กทม. 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนวัดพลับพลาชัย และโรงเรียนอนุบาลปรินายก โดยทั้ง 3 โรงเรียนจะเปิดเรียนในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ และหากโรงเรียนใดพบนักเรียนมีอาการป่วยด้วยโรคดังกล่าว 5 คนขึ้นไปควรสั่งปิดสถานศึกษาทันที ทั้งนี้ผู้บริหารสถานศึกษามีอำนาจสั่งปิดได้เป็นเวลา 7 วัน
**เผย3เขตพบผู้ป่วยมากสุด
วันเดียวกันเวลา 13.30 น. ที่อาคารสำนักระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก สำนักอนามัย กทม. โดยรับรายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ก.ค.2555 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,557 รายเขตที่มีอัตราป่วยมากที่สุดคือ เขตสะพานสูง รองลงมา ราชเทวีและบางกะปิ คาดในเดือน ส.ค.สถานการณ์จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ มีโรงเรียนที่ปิดด้วยโรคมือเท้าปากไปแล้วทั้งหมด 23 โรงเรียน ซึ่ง 19 โรงเรียน เปิดการเรียนการสอนแล้ว ล่าสุดเหลือเพียง 4 โรงเรียนที่ปิดอยู่ ได้แก่ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนอนุบาลใจดี และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นใน สันนิษฐานฐานเนื่องจากเด็กไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้เหมือนเด็กที่อาศัยอยู่รอบนอกที่ไม่พบผู้ป่วยเลย
**ปิดชั้นเรียน ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน
จากนั้นเมื่อเวลา 14.30 น. แพทย์หญิงมาลินี ได้ลงพื้นที่ตรวจร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนล่าสุดที่พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ทางโรงเรียนรายงานว่า พบนักเรียนป่วยโรคมือเท้าปาก จำนวน 11 ราย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา 9 ราย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 ราย และได้ปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย ให้ปิดเรียนในชั้นเรียนที่พบผู้ป่วย โดยโรงเรียนได้ปิดเรียนในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีอาคารเรียนต่อเนื่องกัน ตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. พร้อมประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา และฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เขตบางรัก ทำความสะอาดกำจัดเชื้อไวรัสและหยุดการแพร่เชื้อโรค
**ผบ.ทบ.สั่งเฝ้าระวังเข้มชายแดนไทย-เขมร
วันนี้ (19 ก.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากในประเทศกัมพูชา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนและเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนั้น ผบ.ทบ.ได้กำชับให้กองกำลังชายแดนกำกับดูแล และอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตามด่านตรวจ และช่องทางที่มีการผ่านเข้า-ออก ระหว่างประเทศ
**จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทำความสะอาดโรงเรียน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ได้ให้กรมควบคุมโรคตั้งวอร์รูมรับแจ้งกรณีสถานศึกษาหรือสถานรับเลี้ยงเด็กมีเด็กป่วยมากผิดปกติ เพื่อเข้าไปดูแลควบคุมป้องกันโรคอย่างใกล้ชิด และในวันที่ 20 ก.ค.จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
**โพลล์เชื่อรัฐบาลคุมโรคมือเท้าปากได้
"สวนดุสิตโพล" สำรวจความคิดเห็น ปชช.กรณีโรคมือเท้าปากกำลังระบาดในขณะนี้ พบร้อยละ 43.70 ค่อนข้างวิตกกังวล แต่ปชช.พอมีความรู้เรื่องโรคบ้าง ผ่านจากสื่อทีวี นสพ. และอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 73.18 ขณะที่ความตื่นตัวของรัฐบาล ร้อยละ 53.91 คิดว่าค่อนข้างตื่นตัว ส่วนการป้องกันบุตรหลาน ร้อยละ 30.23 เลือกวิธีการสังเกตอาการผิดปกติ ร้อยละ 35.12 ฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโรคอย่างทั่วถึง ขณะที่การรับมือของรัฐบาล ร้อยละ 58.38 คิดว่าคงจะรับมือได้
วานนี้ (19 ก.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้มีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกุมารแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์โรคมือเท้าปาก โดยได้ทำการหารือกันใน 3 เรื่องหลัก คือ 1.สถานการณ์โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่พบตามฤดูกาลซึ่งเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคม สถานการณ์ก็จะดีขึ้น ดังนั้นช่วงนี้เราจึงควรเตรียมความพร้อมและให้ความรู้กับผู้ปกครองเป็นหลัก 2.รีบหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ และหากพบเด็กป่วยมีอาการต้องสงสัยก็ให้ส่งเด็กกลับบ้านและทำความสะอาดโรงเรียน และ 3.หามาตราการลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยคือทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตน้อยที่สุด โดยเมื่อปี 2554 พบผู้ป่วย 18,000 คน และเสียชีวิต 6 คน แต่ปีนี้ 2555 พบผู้ป่วยประมาณ 13,000 คน แต่จะพยายามให้การตายเป็นศูนย์ และตั้งเป้ายอดผู้ป่วยไม่เกิน 18,000 คน ซึ่งตอนนี้ภาคอีสานและภาคกลางพบการระบาดมากสุด
"สธ.มั่นใจว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้ไม่เหมือนตอนที่ไข้หวัด 2009 ระบาดใหม่ๆที่เราไม่รู้อะไรเลย แต่โรคมือเท้าปากเรารู้หมดว่าเชื้อจะเข้าทางปากออกทางอุจจาระ ดังนั้นถ้าเรารักษาความสะอาดกินร้อนช้อนกลางก็จะช่วยลดการระบาดได้"
**ผู้ใหญ่เสี่ยงติดเชื้อ "มือเท้าปาก" 10%
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโอกาสที่ผู้ใหญ่จะติดเชื้อไวรัสมือ เท้า ปาก ว่า เป็นไปได้อยู่แล้ว เนื่องจากโรคนี้พบมากในเด็กเล็กถึงร้อยละ 90 ดังนั้น ที่เหลืออีกร้อยละ 10 ย่อมเกิดขึ้นได้ในผู้ใหญ่ โดยจะเกิดในรายที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือไม่เคยเป็นมาก่อน
**เด็ก 2 ขวบ ไม่ได้ตายเพราะมือเท้าปาก
นพ.ภาสกร อัครอัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่เสียชีวิต ที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี ซึ่งผลการตรวจออกมาว่า ไม่ได้เป็นโรคมือเท้าปาก แค่มีลักษณะอาการใกล้เคียง ว่า กรณีดังกล่าวในการสอบสวนทางระบาดวิทยา มีการสอบสวนโรคและสรุปอย่างย่อ โดยสอบประวัติเด็กพบว่า เด็กไม่ได้คลุกคลีกับเด็กอื่นๆ เพราะไม่ได้เข้าศูนย์เด็กเล็ก แม้ว่าครอบครัวจะทำกิจการรถรับส่ง แต่ก็ไม่พบว่า ครอบครัวมีประวัติการเจ็บป่วย ฉะนั้น เมื่อไม่มีปัจจัยเสี่ยงทางการระบาดก็ต้องตัดสาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคมือเท้าปากออก ส่วนจะสรุปว่าเด็กเสียชีวิตด้วยเชื้ออะไรนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาและอาศัยผลทางห้องปฏิบัติการในการสอบสวนโรค
**ปิด ร.ร.สังกัดสพฐ. 14 โรง ยอด นร.ป่วยพุ่ง 211 คน
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า นักเรียนสังกัดสพฐ.ที่พบว่าได้รับเชื้อโรคมือเท้าปาก โดยข้อมูลวันที่19 ก.ค.พบว่า มีนักเรียนได้รับเชื้อโรคทั้งหมด 211 คน จาก 35 โรงเรียน ใน 23 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ โดยสั่งปิดแล้ว 14 โรงเรียน แบ่งเป็นพื้นที่กทม. 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนวัดพลับพลาชัย และโรงเรียนอนุบาลปรินายก โดยทั้ง 3 โรงเรียนจะเปิดเรียนในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ และหากโรงเรียนใดพบนักเรียนมีอาการป่วยด้วยโรคดังกล่าว 5 คนขึ้นไปควรสั่งปิดสถานศึกษาทันที ทั้งนี้ผู้บริหารสถานศึกษามีอำนาจสั่งปิดได้เป็นเวลา 7 วัน
**เผย3เขตพบผู้ป่วยมากสุด
วันเดียวกันเวลา 13.30 น. ที่อาคารสำนักระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก สำนักอนามัย กทม. โดยรับรายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ก.ค.2555 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,557 รายเขตที่มีอัตราป่วยมากที่สุดคือ เขตสะพานสูง รองลงมา ราชเทวีและบางกะปิ คาดในเดือน ส.ค.สถานการณ์จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ มีโรงเรียนที่ปิดด้วยโรคมือเท้าปากไปแล้วทั้งหมด 23 โรงเรียน ซึ่ง 19 โรงเรียน เปิดการเรียนการสอนแล้ว ล่าสุดเหลือเพียง 4 โรงเรียนที่ปิดอยู่ ได้แก่ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนอนุบาลใจดี และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นใน สันนิษฐานฐานเนื่องจากเด็กไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้เหมือนเด็กที่อาศัยอยู่รอบนอกที่ไม่พบผู้ป่วยเลย
**ปิดชั้นเรียน ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน
จากนั้นเมื่อเวลา 14.30 น. แพทย์หญิงมาลินี ได้ลงพื้นที่ตรวจร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนล่าสุดที่พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ทางโรงเรียนรายงานว่า พบนักเรียนป่วยโรคมือเท้าปาก จำนวน 11 ราย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา 9 ราย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 ราย และได้ปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย ให้ปิดเรียนในชั้นเรียนที่พบผู้ป่วย โดยโรงเรียนได้ปิดเรียนในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีอาคารเรียนต่อเนื่องกัน ตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. พร้อมประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา และฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เขตบางรัก ทำความสะอาดกำจัดเชื้อไวรัสและหยุดการแพร่เชื้อโรค
**ผบ.ทบ.สั่งเฝ้าระวังเข้มชายแดนไทย-เขมร
วันนี้ (19 ก.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากในประเทศกัมพูชา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนและเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนั้น ผบ.ทบ.ได้กำชับให้กองกำลังชายแดนกำกับดูแล และอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตามด่านตรวจ และช่องทางที่มีการผ่านเข้า-ออก ระหว่างประเทศ
**จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทำความสะอาดโรงเรียน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ได้ให้กรมควบคุมโรคตั้งวอร์รูมรับแจ้งกรณีสถานศึกษาหรือสถานรับเลี้ยงเด็กมีเด็กป่วยมากผิดปกติ เพื่อเข้าไปดูแลควบคุมป้องกันโรคอย่างใกล้ชิด และในวันที่ 20 ก.ค.จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
**โพลล์เชื่อรัฐบาลคุมโรคมือเท้าปากได้
"สวนดุสิตโพล" สำรวจความคิดเห็น ปชช.กรณีโรคมือเท้าปากกำลังระบาดในขณะนี้ พบร้อยละ 43.70 ค่อนข้างวิตกกังวล แต่ปชช.พอมีความรู้เรื่องโรคบ้าง ผ่านจากสื่อทีวี นสพ. และอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 73.18 ขณะที่ความตื่นตัวของรัฐบาล ร้อยละ 53.91 คิดว่าค่อนข้างตื่นตัว ส่วนการป้องกันบุตรหลาน ร้อยละ 30.23 เลือกวิธีการสังเกตอาการผิดปกติ ร้อยละ 35.12 ฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโรคอย่างทั่วถึง ขณะที่การรับมือของรัฐบาล ร้อยละ 58.38 คิดว่าคงจะรับมือได้
