สพฐ.คลอด 6 มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโรคมือเท้าปาก แขวนไว้ในเว็บ ให้เขตพื้นที่ฯและโรงเรียนนำไปปฏิบัติ พร้อมเผย 6 เขตพื้นที่ฯ รายงานพบนักเรียนป่วยโรคดังกล่าว ยันไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในกัมพูชา
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แจ้งทาง SMS ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก ระบาดในสถานศึกษา โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประสานกับสาธารณสุขจังหวัด ขอคำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์เมื่อพบการระบาดของโรคมือ เท้า ปากระบาด แล้วให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานำข้อแนะนำดังกล่าวจากสาธารณสุขจังหวัดมาให้โรงเรียนในพื้นที่ปฏิบัติตาม หากมีความจำเป็น อนุญาตให้ผู้บริหารโรงเรียนประสานกับผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ประกาศปิดเรียนเป็นการชั่วคราวได้ ทั้งนี้ สพฐ.ได้สั่งการให้เขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง รายงานสถานการณ์มายังส่วนกลางภายในสัปดาห์นี้
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีเขตพื้นที่การศึกษา 6 แห่ง ได้รายงานข้อมูลมาแล้ว พบว่า ในพื้นที่ดังกล่าว มีการระบาดของโรคมือ เท้า ปากอยู่ 5 โรงเรียน นักเรียนป่วยรวม 38 คน แต่ไม่ใช่โรคมือ เท้า ปากสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในประเทศกัมพูชา โดยในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จ.สระแก้ว เขต 1 พบ นักเรียนของโรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว ป่วยเป็นไข้ 7 คน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ทางโรงเรียนจึงได้ประกาศหยุดเรียนชั่วคราว ตั้งแต่ 12-18 ก.ค. เพื่อให้ให้สาธารณสุขเข้ามาทำความสะอาดห้องเรียน
สพป.กรุงเทพมหานคร พบ นักเรียนอนุบาล1/4 ของ โรงเรียนพญาไท มีอาการโรคมือ เท้า ปาก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.จึงปิดการเรียนการสอนชั่วคราวในชั้นเรียนดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.เพื่อทำความสะอาดห้องเรียน
สพป.ราชบุรี เขต 1 พบ นักเรียนชั้นนุบาล 1 จำนวน 2 คนของ โรงเรียนวัดราษฎร์สมานฉันท์ มีอาการป่วย โรงเรียนจึงปิดการเรียนการสอนในชั้นอนุบาล 1 และ 2 ตั้งแต่ 28 มิ.ย.-3 ก.ค. และปิดชั้น ป.1-ป.6 ตั้งแต่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค.ส่วน สพป.ราชบุรี เขต 2 พบนักเรียนอนุบาลจำนวน 10 คน ของ โรงเรียนอุดมวิทยา อ.บ้านโป่ง และนักเรียน ป.1 จำนวน 2 คน มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.จึงได้ประกาศปิดเรียนชั่วคราวตั้งแต่ 11 ก.ค.เพื่อเชิญแพทย์มาดูแล นักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียน นอกจากนั้น ยังพบ นักเรียนชั้น ป.1 จำนวน 16 คน ของโรงเรียนแย้มวิทยาการ อ.โพธาราม มีการป่วย จึงได้ประกาศปิดเรียนชั้วคราง ตั้งแต่ 13-22 ก.ค.
สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 พบ นักเรียนอายุ 5-9 ขวบ ใน 3 ตำบลของอำเภอเมือง มีอาการป่วยจำนวน 12 คน ขณะนี้อยู่ในความดูแลแพทย์ใกล้ชิด แต่ยังไม่มีการปิดเรียน และได้ประสานสาธารณสุขจังหวัดเข้ามาช่วยดูแล ส่วน สพป.ปราจีนบุรี เขต 1 รายงานข้อมูลว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ก.ค.มีนักเรียน.เป็นโรคมือเท้าปาก เฉลี่ยเดือนละ 15 คน ส่วนใหญ่อายุ 1-3 ขวบ
นายชินภัทร กล่าวต่อว่า สพฐ.ได้ออก 6 มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคมือ เท้า ปาก ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาปฏิบัติตาม และได้นำมาตรการดังกล่าวขึ้นในเว็บไซต์ของ สพฐ.ด้วย เพื่อย้ำเตือนสถานศึกษา ดังนี้ 1.ให้สถานศึกษาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้แก่ผู้ปกครอง นักเรียน โดยอ้างอิงตามเอกสารของของกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข 2.ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แจ้งกำชับสถานศึกษาเฝ้าระวัง และป้องกันการระบาดของโรคนี้ ตามแนวทางป้องกันและควบคุมโรคมือ เท้า ปากในศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานศึกษาของกรมควบคุมโรคติดต่อ ฉบับที่ ฉบับ 12 ก.ค. 3.ให้เขตพื้นที่การศึกษากำชับโรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดน ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโรงเรียนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 4.ให้เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ศึกษารายละเอียดหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับโรคนี้จากสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ โทร.02 590 3158 หรือ Call Center 1422 5.หากเกิดการระบาดในสถานศึกษา ต้องประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัด เพื่อวางมาตรการร่วมกันในการควบคุมโรค และ 6.ให้ สพท.ที่เกิดโรคมือ เท้า ปาก ในสถานศึกษา รายงานมายัง สพฐ.โดยด่วนที่สุด อย่างไรก็ตาม สพฐ.ได้เฝ้าระวังและติดตามมิถุนายน
