สสจ.ตราดเข้มงวดชายแดนไทย-เขมร หวั่นโรคปากเท้าเปื่อยระบาดเข้าไทย

ตราด- สสจ.ตราด สั่งเข้มงวดชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นโรคปากเท้าเปื่อยระบาดเข้าไทย เผยที่ผ่านมาเคยตรวจพบ แต่รักษาหายเรียบร้อยแล้ว ขณะ ฉก.นย.ตราดเข้มทุกด่าน

จากกรณีที่พบเด็กในประเทศกัมพูชา ป่วยเป็นโรคปากเท้าเปื่อย และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 50 คนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา เข้มงวดในเรื่องนี้

นายแพทย์โชคชัย สาครพานิช ผู้ช่วยสาธารณสุขจังหวัดตราด กล่าวว่า จากปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) ทางกระทรวงได้ทำหนังสือแจ้งให้มีการเข้มงวดตามแนวชายแดน ซึ่งได้สั่งการไปยังโรงพยาบาลคลองใหญ่ สถานีอนามัยทุกแห่ง เพื่อร่วมกันคัดกรองโรค ด้วยการสืบสอบจากประวัติตัวผู้เดินทางเข้าออก โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 5 ขวบ หากพบว่ามีไข้ หรือมีการสัมผัสโรค จะทำการคัดแยกและตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากพบก็จะแจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบ

“สำหรับจังหวัดตราด พบมีการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย ที่เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อว่า คอกซากี้ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ไม่รุนแรง เมื่อเด็กติดเชื้อจะมีอาการไข้ ตัวร้อน มือ เท้ามีตุ่มสีแดง และในปาก ซึ่งเด็กจะมีอาการ และหายได้ภายใน 7 วัน ซึ่งหากผู้ปกครองพบอาการเหล่านี้ให้รีบพบแพทย์ ซึ่งที่จังหวัดตราดพบมีการระบาดของโรคที่ อ.แหลมงอบ และ อ.เมืองตราด มีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 40 คน (ข้อมูลระหว่าง ม.ค.-ก.ค.) ได้มีการรักษาอาการเด็กจนหายป่วย พร้อมทั้งได้มีการปิดการเรียนการสอน และทำความสะอาดอาคารเรียน ภาชนะ และสื่อการเรียนการสอนไปแล้ว ปัจจุบันนี้ ไม่พบผู้ป่วยจากโรคดังกล่าว” นายแพทย์โชคชัยกล่าว

ด้าน น.อ.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เปิดเผยว่า พื้นที่ที่เกิดโรคระบาดในกัมพูชายังอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากชายแดน แต่อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายทหารนาวิกโยธินที่ควบคุมดูแลการเข้า-ออกชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราดทุกช่องทาง โดยได้สั่งการให้ทหารนาวิกโยธิน, ทหารพรานนาวิกโยธิน ที่ดูแลในพื้นที่ช่องทางเข้า-ออก โดยเฉพาะในจุดผ่อนปรนที่เปิดให้ชาวกัมพูชาเข้า-ออกเพื่อมาซื้อสินค้าในตลาดชายแดน ต้องเข้มงวดในเรื่องนี้ให้มากที่สุด และหากสงสัยจะไม่ให้เข้าม าหรือแจ้งให้สาธารณสุขจังหวัดได้รับทราบ

น.ส.สุกัญยา คณาญาติ หัวหน้าศูนย์ฯ เด็กเล็กวัดไผ่ล้อม จ.ตราด กล่าวว่า หลังจากที่ได้พบว่ามีเด็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปากในศูนย์ฯ ได้ทำการปิด และทำความสะอาดอาคารโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดอาคารในส่วนที่เด็กสัมผัส รวมทั้งสื่อการเรียนการสอนทุกชนิด

ส่วนภาชนะต่างๆ ได้ใช้วิธีการต้มในน้ำร้อน และนำไปตากแดดทุกวัน และเมื่อเปิดเรียนมาก็จะทำการคัดกรองเด็กด้วยการตรวจดูตามร่างกายเพื่อสังเกตอาการ เมื่อผู้ปกครองนำเด็กมาส่งก่อนเข้าห้องเรียนทุกวัน พร้อมกันนี้ ได้แนะนำผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของตนเองด้วย หากพบอาการดังกล่าวให้นำไปพบแพทย์ทันที