รองผู้ว่าฯ กทม.รุดเยี่ยม ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน หลังพบเด็กป่วยมือเท้าปาก พร้อมกำชับ 50 สำนักงานเขต เร่งทำความสะอาดพื้นที่และเครื่องเล่นทุกชนิดในแหล่งชุมชน ส่วนยอดป่วยมือเท้าปากสะสมของเด็ก กทม.เพิ่มเป็น 2,557 ราย ปิดโรงเรียนแล้ว 23 แห่ง
วันนี้ (19 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อาคารสำนักระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง แพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก สำนักอนามัย กทม.โดยรับรายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ก.ค.55 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,557 รายคิดเป็นอัตราป่วยสะสม 45.41 รายต่อประชากร 100,000 คน ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยที่พบสูงสุดในกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมา 5-9 ปี และ 10-14 ปีตามลำดับ เขตที่มีอัตราป่วยมากที่สุด คือ เขตสะพานสูง รองลงมา ราชเทวี และ บางกะปิ พบผู้ป่วยสูงสุดในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เดือน ก.ค.ผู้ป่วยเริ่มลดลง และคาดการณ์ในเดือน ส.ค.สถานการณ์จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 ม.ค.-18 ก.ค. มีโรงเรียนที่ปิดด้วยโรคมือเท้าปากไปแล้วทั้งหมด 23 โรงเรียน ซึ่ง 19 โรงเรียน เปิดการเรียนการสอนแล้ว ล่าสุด เหลือเพียง 4 โรงเรียนที่ปิดอยู่ ได้แก่ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนอนุบาลใจดี และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน สันนิษฐานเนื่องจากเด็กไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้เหมือนเด็กที่อาศัยอยู่รอบนอกที่ไม่พบผู้ป่วยเลย
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก จะทำหน้าที่เฝ้าระวังโรคติดต่อตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด 84 โรค ดูแลคนกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 ล้านคน ด้วยแนวทางการเฝ้าระวัง ดังนี้ เริ่มจากรับรายงานข้อมูลจากโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่งของกทม.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล วิเคราะห์ คัดแยกโรค จัดทำสถานการณ์โรค ส่งรายงานข้อมูลไปยังเครือข่ายควบคุมโรค ทั้งในส่วนของ กทม.และกระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้บริหารกำหนดและดำเนินการมาตราการป้องกันควบคุมโรคทันที การเฝ้าระวังโรคมือเท้าปากในพื้นที่กทม.ศูนย์ปฏิบัติการได้ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่มีโรคติดต่อหลายโรคกระจายอยู่
จากนั้นเมื่อเวลา 14.30 น.แพทย์หญิง มาลินี ได้ลงพื้นที่ตรวจ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนล่าสุดที่พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ทางโรงเรียนรายงานว่า พบนักเรียนป่วยโรคมือเท้าปาก จำนวน 11 ราย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา 9 ราย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 ราย และได้ปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย ให้ปิดเรียนในชั้นเรียนที่พบผู้ป่วย โดยโรงเรียนได้ปิดเรียนในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีอาคารเรียนต่อเนื่องกัน ตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. พร้อมประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา และฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เขตบางรัก ทำความสะอาดกำจัดเชื้อไวรัสและหยุดการแพร่เชื้อโรค
แพทย์หญิง มาลินี กล่าวว่า ได้สั่งการสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ดูแลความสะอาดพื้นที่และเครื่องเล่นทุกชนิดในแหล่งชุมชน เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น รวมถึงแนะนำผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ ไม่ควรนำบุตรหลานเข้าไปเล่นเครื่องเล่นสาธารณะที่มีเด็กเล่นเป็นจำนวนมาก และดูแลรักษาความสะอาดให้บุตรหลานมีสุขภาพอนามัยที่ดี
วันนี้ (19 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อาคารสำนักระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง แพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก สำนักอนามัย กทม.โดยรับรายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปากในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 ก.ค.55 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,557 รายคิดเป็นอัตราป่วยสะสม 45.41 รายต่อประชากร 100,000 คน ยังไม่พบผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยที่พบสูงสุดในกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมา 5-9 ปี และ 10-14 ปีตามลำดับ เขตที่มีอัตราป่วยมากที่สุด คือ เขตสะพานสูง รองลงมา ราชเทวี และ บางกะปิ พบผู้ป่วยสูงสุดในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เดือน ก.ค.ผู้ป่วยเริ่มลดลง และคาดการณ์ในเดือน ส.ค.สถานการณ์จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 ม.ค.-18 ก.ค. มีโรงเรียนที่ปิดด้วยโรคมือเท้าปากไปแล้วทั้งหมด 23 โรงเรียน ซึ่ง 19 โรงเรียน เปิดการเรียนการสอนแล้ว ล่าสุด เหลือเพียง 4 โรงเรียนที่ปิดอยู่ ได้แก่ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนอนุบาลใจดี และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบจะอยู่ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน สันนิษฐานเนื่องจากเด็กไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้เหมือนเด็กที่อาศัยอยู่รอบนอกที่ไม่พบผู้ป่วยเลย
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการโรคมือเท้าปาก จะทำหน้าที่เฝ้าระวังโรคติดต่อตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด 84 โรค ดูแลคนกรุงเทพมหานคร จำนวน 10 ล้านคน ด้วยแนวทางการเฝ้าระวัง ดังนี้ เริ่มจากรับรายงานข้อมูลจากโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่งของกทม.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล วิเคราะห์ คัดแยกโรค จัดทำสถานการณ์โรค ส่งรายงานข้อมูลไปยังเครือข่ายควบคุมโรค ทั้งในส่วนของ กทม.และกระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้บริหารกำหนดและดำเนินการมาตราการป้องกันควบคุมโรคทันที การเฝ้าระวังโรคมือเท้าปากในพื้นที่กทม.ศูนย์ปฏิบัติการได้ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่มีโรคติดต่อหลายโรคกระจายอยู่
จากนั้นเมื่อเวลา 14.30 น.แพทย์หญิง มาลินี ได้ลงพื้นที่ตรวจ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนล่าสุดที่พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ทางโรงเรียนรายงานว่า พบนักเรียนป่วยโรคมือเท้าปาก จำนวน 11 ราย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา 9 ราย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 ราย และได้ปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย ให้ปิดเรียนในชั้นเรียนที่พบผู้ป่วย โดยโรงเรียนได้ปิดเรียนในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีอาคารเรียนต่อเนื่องกัน ตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. พร้อมประสานศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา และฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เขตบางรัก ทำความสะอาดกำจัดเชื้อไวรัสและหยุดการแพร่เชื้อโรค
แพทย์หญิง มาลินี กล่าวว่า ได้สั่งการสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ดูแลความสะอาดพื้นที่และเครื่องเล่นทุกชนิดในแหล่งชุมชน เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น รวมถึงแนะนำผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานเป็นพิเศษ ไม่ควรนำบุตรหลานเข้าไปเล่นเครื่องเล่นสาธารณะที่มีเด็กเล่นเป็นจำนวนมาก และดูแลรักษาความสะอาดให้บุตรหลานมีสุขภาพอนามัยที่ดี
