ถอดรหัสคำสำราก “โอ๊ค” “อย่าให้พ่อกูกลับมา” เก่งไม่กลัวกลัวแต๋วแตก

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- เรียกว่า กร่างอย่างไม่บันยะบันยังทีเดียวสำหรับทารกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่าง “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” หลังจากขึ้นแท่นเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพนักรบไซเบอร์ของพรรคเพื่อไทยกับกรณีคำสำรากเที่ยวล่าสุดที่มนุษย์ผู้นี้มีต่อ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ”

“ผมเชื่อว่า คุณพ่อผมไม่เคยทำร้ายประเทศไทยนะครับ มีแต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิปไตย รุมทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ ตัวผมเองในฐานะตัวแทนของลูกหลานที่โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวลีอมตะ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ว่า กูไม่กลัวมึงนะครับ แต่คุณพ่อผมเบรกไว้ บอกว่า โอ๊คต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนพ่อ และลงท้ายว่า ไม่เป็นไรครับ...ขู่ได้ขู่ไป...อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน”

คำสำรากดังกล่าวของเสี่ยโอ๊คเที่ยวนี้ ถ้าไม่นับความสะใจในอารมณ์แล้ว ก็ต้องบอกว่า ยังแฝงเร้นเอาไว้ด้วยภาพสะท้อนที่ฝังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจของเสี่ยโอ๊คได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะคำลงท้ายที่โพสต์เอาไว้ว่า “ไม่เป็นไรครับ...ขู่ได้ขู่ไป...อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน”

ประโยคนี้ไม่ต่างอะไรไปจากวลีเด็ดที่ออกมาจากปากลูกชายนักเลงใหญ่ย่านบางบอนที่ว่า “มึงรู้ไหมกูลูกใคร”

และประโยคนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถ้อยคำที่บรรดานักเรียนนักเลงไปพ่นข้อความเอาไว้ตามสถานที่สาธารณะเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ว่า “กู(....)พ่อทุกสถาบัน”

ประหนึ่งว่า เป็นพวก “อยากใหญ่” ที่ครอบครัวขาดความอบอุ่น หรือไม่ตัวเองก็มีปมด้อยในด้าน “ความเป็นชาย” จนลูกหลานต้องออกมาแสดงความกร่างนอกบ้านเพื่อลบปมด้อยที่มีอยู่ในจิตใจ

ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมอะไรบางอย่างในตัวของ นช.ทักษิณ ผู้เป็นพ่อได้เป็นอย่างดี เพราะถ้า นช.ทักษิณไม่มีพฤติกรรมที่สำแดงถึงความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้เห็นแล้ว นายพานทองแท้คงไม่กล้าประกาศว่า “อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน” ออกมาให้สาธารณชนได้รับทราบ

ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ คำสำรากของนายพานทองแท้ยังเป็นการประกาศเจตจำนงให้สังคมได้รับทราบในลักษณะของพันธะสัญญาว่า เมื่อใดก็ตามที่ นช.ทักษิณสามารถเดินทางกลับมาเหยียบประเทศไทยได้ เมื่อนั้นเหล่าศัตรูทางการเมืองของเขาจะต้องถูกกำราบ ถูกล้างแค้นและถูกเอาคืนชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟันเลยทีเดียว

หรือพูดง่ายๆ คือเป็นการแสดงความอาฆาตมาดร้ายให้เห็นกันอย่างโจ่งแจ้ง

นอกจากนี้ ถ้าหากย้อนกลับไปดูคำพูดแรกๆ ของนายพานทองแท้ก็จะเห็นข้อเท็จจริงประการสำคัญว่า นช.ทักษิณดำรงตนอยู่เหนือกฎหมายโดยที่มิเคยยอมรับความผิดที่ตนเองเป็นผู้ก่อเลยแม้แต่น้อย แถมยังอ้างอย่างหน้าด้านๆ ว่า พ่อของเขาไม่เคยทำร้ายประเทศไทยแต่กลับถูกข่มขู่ถูกรุมทำร้าย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว นช.ทักษิณถูกพิพากษาให้มีความผิดต่างกรรมต่างวาระในคดีทุจริตประพฤติมิชอบในหลายคดีด้วยกัน
 

เหมือนดังที่นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาตอบโต้นายพานทองแท้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Mallika Boonmeetrakool

“ขอเรียนเป็นการส่วนตัวว่า ดิฉันคิดว่า นายพานทองแท้ และเทียมที่ทรงกันมา คงลุแก่อำนาจ เดินหลงอยู่บนเสียงเยินยอจนลืมความจริงไปหลายอย่าง ที่ว่าคุณทักษิณ พ่อเขาไม่ได้ทำร้ายประเทศ ผิดล่ะค่ะโอ๊ค!! ฟังนะคะเด็กหน้าแก่ (หนังหน้าจะแก่กว่าวัยด้วยอะไรก็แล้วแต่อ่ะนะ) พ่อคุณโคตรทำลาย และทำร้ายประเทศไทยค่ะ” น.ส.มัลลิกา ระบุ

ทั้งนี้ นางสาวมัลลิกาได้ระบุถึงคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษคดีเด็ดขาด และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับของทางราชการ 5 คดี คือ 1.คดีที่ดินรัชดาภิเษก พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์ให้ภรรยาซื้อที่ดินราคาต่ำ 2.คดีหวยบนดิน 3.คดีเอ็กซิมแบงก์ 4.คดีแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต 5.คดีก่อการร้าย โดยอ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ปลุกระดมมวลชนจนเกิดเหตุจลาจลในกรุงเทพมหานคร

“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อคุณ ซึ่งเป็นนักโทษคดีเด็ดขาด และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับของทางราชการ 5 คดี คือ 1.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 หมายเลขแดงที่ อม.1/2550 (คดีที่ดินรัชดาภิเษก ทั้งพ่อทั้งแม่คุณโกงที่ดินด้วยการใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ เขาขายกันอาจได้มากว่า 1,000 ล้าน แต่แม่คุณประมูลได้ต่ำๆ คือ 700 ล้าน> ทำร้ายชาติ) 2.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2551 (คดีหวยบนดิน พ่อคุณออกระเบียบรองรับการเล่นหวย 2-3 ตัวพลิกมันมาบนดินแต่จัดกฎหมาย> ทำร้ายชาติ) 3.หมายจับศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 (คดีเอ็กซิมแบงก์) 4.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 (คดีแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต) 5.หมายจับคดีอาญาของศาลอาญา หมายจับเลขที่ 10862/2553 (คดีก่อการร้าย นี่ล่ะที่คนเห็นกันทั่วโลกที่พ่อคุณปลุกระดมคนออกมาตายแทนตัวเอง ปลุกระดมจนคนบ้าคลั่งมาเผาบ้านเผาเมือง เอาน้ำมันมาล้านขวด เผากรุงเทพฯเป็นทะเลเพลิง คุณปัญญาอ่อนรึจึงดูทีวีถ่ายทอดไม่รู้เรื่อง กลับไปดูเทปที่สถานีวอยซ์ของคุณดูสิ)” น.ส.มัลลิกา ระบุ

นี่ไม่รวมถึงคดีที่อัยการเพิ่งสั่งฟ้องกู้ธนาคารกรุงไทย 9,000 ล้านบาทไปสดๆ ร้อนๆ กับคดีให้พม่ากู้3,000 ล้าน ที่นายพานทองแท้ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงคดีบ้านเอื้ออาทร และคดีซีทีเอ็กซ์ ซึ่งเมื่อรวมทุกคดีประเทศชาติเสียหายเกือบ 2 แสนล้านบาท

“ยังไม่นับคดี อัยการสั่งฟ้องกู้กรุงไทย 9,000 ล้านบาท ล่าสุด ที่คุณรับเงินปากถุงไปไม่ใช่เหรอ 17 หรือ 21 ล้านบาทล่ะ ที่โอนเข้าบัญชี จน คตส.เขาจับได้นั่น คดีให้พม่ากู้ 3,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย ดอกเบี้ยต่ำ แต่กรุงไทยไปเอาเงินออมสินของเด็กมาแล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่า แล้วพ่อคุณใช่ไหมล่ะที่ให้พม่าเอาเงินนั้นมาซื้ออุปกรณ์บริษัท ชิน ของคุณน่ะโอ๊ค ตอนนั้นยังเด็กเจอพ่อแม่รังแกฉันเข้าไปเป็นไงล่ะ คดีบ้านเอื้ออาทร คุณเห็นไหมเวลาไปเจอบ้านแบบรังนก สร้างบนที่ดินควายนอน ไม่มีสาธารณูปโภคทั่วประเทศ วันนี้ตั้งเด่เป็นอนุสาวรีย์โกงของพ่อคุณ ของอดีตรัฐมนตรียุคพ่อคุณ วัฒนา เมืองสุข และ อริสมันต์ ที่มันเป็นนักร้องตอนนั้นแล้วเอาที่ดินควายนอนไปยัดให้การเคหะซื้อ ไปทำบ้านเอื้อ และมีคดีรับค่านายหน้าเป็นหลักฐานไง ไม่เคยรู้หรือพานทองแท้ คดีซีทีเอ็กซ์ ที่โกงจนเจ้าหน้าที่ฝรั่งอเมริกันจับได้จากคนจ่ายใต้โต๊ะประเทศเขาแล้ว เขียนระบุว่า “จ่ายนอกระบบให้รัฐมนตรีประเทศไทย” นั่นนะตอนพ่อคุณเป็นนายกฯไงคดีซุกหุ้นไว้ชื่อคนอื่นยึดคืนแผ่นดินมาได้ 4.6หมื่นล้านบาท ตามที่คุณแฉพ่อตัวเองในเฟซบุ๊กหลายวันก่อนนั่นไง รวมแล้วทุกคดีประเทศไทยเสียหายเกือบ 2 แสนล้านบาท ถ้าพ่อคุณไม่โกงคนไทยทั้งแผ่นดิน จะเป็นหนี้ติดตัวตั้งแต่เกิดคนละเกือบ 4 หมื่นบาท เพราะอายิ่งลักษณ์ของคุณไปกู้มาหมาดๆ ได้ไง” น.ส.มัลลิกา ระบุ

ที่เด็ดสะระตี่ไม่แพ้กันคือ “เจ๊ติ่ง” ตบท้ายด้วยวลีเด็ดว่า “ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างของการทำร้ายประเทศไทย และไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอก นะคะ พานทองแท้ เพราะที่นี่ประเทศไทย ไม่มีใครกลัวมึง ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เช่นกัน ที่ว่า กูไม่กลัวมึงนะคะ พานทองแท้ แต่แถมให้ด้วยว่า .. กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้ นะคะ อ่อ..ที่พ่อคุณอยากได้วีซ่าอเมริกาหนักหนา ขนาดยอมเอาผลประโยชน์ชาติไปแลกจนเขาแถลงแฉ เพราะจับได้คาเว็บไซต์นาซานั่นใช่หรือไม่ คุณช่างเป็นเด็กหน้าแก่ที่ไร้เดียงสา และไร้ปัญญาเสียจริง นั่นเพราะพ่อคุณไม่คิดกลับมาแล้ว ยังฝันว่าพ่อจะกลับมาอีกหรือเด็กน้อย”

งานนี้ นอกจาก “ปลาบู่ชนเขื่อน” ชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์” ที่ผูกปีเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันแล้ว ในบัญชีแค้นของนายพานทองแท้น่าจะมีเพิ่มชื่อ “มัลลิกา บุญมีตระกูล” เพิ่มเข้าไปอีกคน เพราะแต่ละถ้อยคำที่ “เจ๊ติ่ง” สรรหามาตอบโต้นั้น เรียกว่าสะท้านเข้าไปในต่อมแต๋วของนายพานทองแท้จนยากที่จะลืมเลือนได้ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า บทบาทแม่ทัพนักรบไซเบอร์ของนายพานทองแท้คงจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะเขาและทีมงานที่ว่าจ้างให้มาตอบโต้ศัตรูทางการเมืองคงจะทำหน้าที่พิทักษ์พ่อแม่ วงศ์วานว่านเครือและผู้คนซึ่งเป็นข้าทาสบริวารของระบอบทักษิณอย่างขะมักเขม้นต่อไป

ส่วนใครจะตกเป็นเหยื่อคำสำรากรายใหม่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน....