พท.ปัด “แม้ว” สไกป์จวก “ค้อนปลอม” ปั้น “โอ๊ค-ลายจุด” แม่ทัพทวีตโต้ ปชป.

โฆษกเพื่อไทย เผย “ยงยุทธ” นำทีมแจงศาลรัฐธรรมนูญ 6 ก.ค. บีบ “อานันท์” ถอนตัวพ้นพยาน “สมเจตน์” ปัด “ทักษิณ” สไกป์ด่า “สมศักดิ์” พูดถอนปรองดอง ยันนายกฯ ยังไม่มีสัญญาณปรับครม. อ้าง “ปลอดประสพ” ไม่มีเวลาจึงถอยให้ “ภูมิธรรม” นั่งผอ.พรรคแทน ปฏิเสธ พท.สั่งแดงไล่ “อภิสิทธิ์” ที่ปทุมฯ โบ้ยข้อมูลนาซาฝ่ายค้านมั่ว ด้านรองโฆษก แย้มส่งโจกแดงจ้อ 30 เวทียาวจนถึงวันพุธ ปั้น “พานทองแท้-สมบัติ” แม่ทัพไซเบอร์ทวิตเตอร์ตอบโต้ ปชป. อ้างเจอตามไล่เป็นเวรกรรม


วันนี้ (1 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมตัวชี้แจงการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 5-6 กรกฎาคม ว่าในวันที่ 6 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทยโดย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ได้จดแจ้งทะเบียนพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเชื่อว่าพรรคสามารถชี้แจงได้ และการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นตามปกติของฝ่ายนิติบัญญัติ ตามเอกสิทธิ์ ซึ่งไม่สามารถก้าวล่วงกันได้

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจ และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ล้มล้างการปกครองโดยเด็ดขาด ส่วนกรณีที่พยานผู้ถูกร้องขอให้ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึง นายสมคิด เลิศไพทูร อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเป็นพยาน ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของฝ่ายผู้ร้อง แต่ตนรู้สึกแปลกใจที่นายอานันท์ ลงมาเป็นพยานในภาวะที่ยังความขัดแย้ง ซึ่งเรื่องนี้มองว่ามีความผิดปกติจึงอยากให้นายอานันท์ พิจารณาให้รอบคอบ และอย่าทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขา โดยส่วนตัวอยากให้นายอานันท์ ถอนตัวจากการเป็นพยาน เพราะวันนี้อาจจะถูกเชื่อมโยงได้ว่ามีนัยอะไรแอบแฝงหรือเปล่า เนื่องจากถูกเสนอชื่อโดย นายสมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา อดีตสภานิติบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญปี 50 สาย คมช.

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้รัฐบาล และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถอน พ.ร.บ.ปรองดองออกจากสภา ว่า เป็นเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์หลังหมดเรื่องนาซา ซึ่งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี จะไปบังคับสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ ซึ่งการจะถอนหรือไม่นั้นต้องขอให้สมาชิกรัฐสภาเห็นชอบ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ควรนำเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า พ.ร.บ.ปรองดอง เอื้อประโยชน์เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์มาตำหนิ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอให้ถอน พ.ร.บ.ปรองดอง ออกจากการพิจารณาของสภานั้น นายพร้อมพงศ์ ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเข้ามาแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติแต่อย่างใด จึงคาดว่าเป็นการปล่อยข่าวโยนบาปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่า โดยนำเอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ปรองดองมารวมกัน เพื่อสร้างชนวนให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่

โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวด้วยว่า จากที่ผลสำรวจประชาชนของสวนดุสิตโพลที่ต้องการให้ถอย พ.ร.บ.ปรองดอง และแก้ไขรัฐธรรมยูญนั้น ถือว่าเป็นความเห็นของประชาชนที่อยากให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม ซึ่งเรื่องนี้เป็นตัวส่งสัญญาณให้ฝ่ายตรงข้าม ให้เลิกค้านรัฐบาลทั้งใต้ดิน และบนเดิน เพราะประชาชนอยากให้รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ดังนั้น ประชาธิปัตย์ควรรับฟัง และเคารพกติกา

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลอาจอยู่ไม่ถึงสิ้นปีนั้น ก็ถือว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ถูกนำไปขยายผล และเชื่อว่า การออกมาให้ข่าวของนายสุชาติ นั้นไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวจนครบ 4 ปี

ส่วนกรณีที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยแทน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่ความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทย การที่นายปลอดประสพลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวนั้นเนื่องจากไม่มีเวลาทำงานในส่วนนี้ และเห็นว่านายภูมิธรรม มีความรู้ความสามารถ จึงลาออก เพื่อให้นายภูมิธรรมมาช่วยทำหน้าที่ส่วนนี้แทน ในการดูแลปากท้อง เศรษฐกิจสังคม ในช่วงปีที่ 2 ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้พรรคแข็งแกร่งขึ้น

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลังคนเสื้อแดงที่ไปประท้วงการจัดเวทีปราศรัยที่จังหวัดปทุมธานีว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งการแสดงออกของคนเสื้อแดงในวันนั้นพรรคเพื่อไทยถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเป็นการไม่ถูกต้องที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาข่มขู่ว่า เมื่อเสื้อแดงทำได้ ก็จะเอาม็อบไปประท้วงนายกรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งตนขอประณามว่า การพูดดังกล่าวไม่ใช่วุฒิภาวะของฝ่ายค้าน และขอให้นายอภิสิทธิ์ ย้อนกลับดูผลงานในอดีตว่าทำความเจ็บช้ำให้แก่คนเสื้อแดงอย่างไร ซึ่งจนถึงวันนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังไม่เคยออกมาขอโทษประชาชนเลย ดังนั้น การที่คนเสื้อแดงออกมาแสดงความรู้สึกพรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องยอมรับ และคนเสื้อแดงต้องแสดงออกให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ถ้าหากผิดกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถจัดการได้ตามกฎหมาย ไม่ใช่ขู่เอาม็อบมากดดันนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.ประชาธิปัตย์นำข้อมูลของกองทัพที่ออกมาเตือนรัฐบาลว่า การที่นาซาจอขอใช้อู่ตะเภานั้นอาจกระทบความมั่นคง ว่า เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เพราะผู้นำกองทัพ และโฆษกกองทัพบก ก็ออกมายืนยันแล้วว่า นาซามาศึกษาภูมิอากาศเท่านั้น และไม่กระทบต่อความมั่นคงแต่อย่างใด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เชื่อมั่นในกองทัพ และ ผบ.ทบ. ที่ออกมาปฏิเสธในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ในการเปิดสภาเดือนสิงหาคม ก็คงจะได้เห็นว่าโครงการเริ่มมาจากสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นรัฐบาล ซึ่งจะได้รู้ว่า ประชาธิปัตย์ค้านเพราะอะไร หรือเพียงเพื่อต้องการให้ประชาชนเกิดความสับสน และทำให้โครงการเดินต่อไม่ได้เท่านั้น

ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอประกาศเพิ่มเวทีปราศัย “เพื่อไทย…พบประชาชน” กว่า 30 เวทีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 6 ก.ค.55 และส่วนจะเพิ่มเวทีอีกหรือไม่ทางพรรคจะมีการประเมินสถานการณ์ตามความเหมาะสมอีกครั้ง สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มเวทีปราศรัยครั้งนี้เพื่อตอบโต้ข้อมูลอันเป็นเท็จของพรรคประชาธิปัตย์ที่เดินสายเปิดเวทีใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนักพูดคนสำคัญของพรรค นำทีมโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมทั้งส.ส. ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะขึ้นเวทีชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่พี่น้องประชาชน โดยตั้งเป้าเดินสายปราศรัยไม่ต่ำกว่าวันละ 5 เวที ในทุกภาคของประเทศ

ร.ท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยยังได้เปิดแนวรบในโลกไซเบอร์ โดยได้เชิญนักท่องอินเทอร์เน็ตที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์กว่า 100 คน โดยมีแนวร่วมคนสำคัญ เช่น นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในโลกออนไลน์ขณะนี้ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พร้อมด้วยนักวิชาการและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ ที่มาร่วมเป็นกองทัพนักรบไซเบอร์ของพรรค เบื้องต้น เราจะเน้นการใช้ทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักที่มีความรวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลก โดยโมเดลการใช้ทวิตเตอร์จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ที่เคยใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิมาแล้ว ภายใต้รหัสทวิตเตอร์ (twitter)@ptcybertalk เพื่อตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ได้บิดเบือนข้อมูลบนโลกออนไลน์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ ยังขอเชิญชวนผู้ที่รักประชาธิปไตยมาร่วม “ทวิตเตอร์…สร้างประชาธิปไตย…สยบประชาธิปัตย์” ไปด้วยกัน

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า ส่วนปรากฎการณ์ที่ประชาชนออกมาขับไล่ นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ตามเวทีปราศรัยต่างๆ นั้น พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อาจเป็นเวรกรรมที่ก่อไว้กับประชาชนจึงถูกขับไล่ทั้งแผ่นดิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ต้องทำใจประชาชนอาจยังไม่ให้อภัย ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปราบปรามประชาชนจนมีผู้เสียชีวิต 98 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน โดยที่ นายอภิสิทธิ์ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังล้มเหลวในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะค้านแบบไม่สร้างสรรค์จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยตัวอย่างล่าสุด กรณีนาซาถอนโครงการจากประเทศไทย จึงอาจเป็นไปได้ที่ผู้ประท้วงอาจจะอยากไปถามนายอภิสิทธิ์ที่เวทีว่า “พรรคประชาธิปัตย์จะค้านจนชาติพังเลยหรืออย่างไร”