ASTVผู้จัดการ - "เพื่อไทย" ลุยเปิด 30 เวทีทั่วประเทศ โจมตี ปชป. - ศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมจัดตั้งกองทัพนักรบไซเบอร์ ดึงนักท่องอินเทอร์เน็ตกว่าร้อยชีวิตเป็นแนวร่วม นำโดย "โอ๊ค" พานทองแท้ ด้าน"เต้น-ตู่" นำทีมบุกอุตรดิตถ์ ช่วยผู้สมัคร นายกอบจ.อุตรดิตถ์ หาเสียง "มัลลิกา" แฉ "โอ๊คเฟซบุ๊ก" ตัวจริงเป็นนักข่าวตกงาน เย้ยไร้กึ๋นเขียนเอง
รท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ประกาศเพิ่มเวทีปราศัย "เพื่อไทย…พบประชาชน" กว่า 30 เวทีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 ก.ค.55 เพื่อตอบโต้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินสายเปิดเวทีใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนักพูดคนสำคัญของพรรค นำทีมโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. รวมทั้งส.ส.ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะขึ้นเวทีชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับพี่น้องประชาชน โดยตั้งเป้าเดินสายปราศรัย ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 เวที ในทุกภาคของประเทศ
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยัง ได้เปิดแนวรบในโลกไซเบอร์ โดยได้เชิญนักท่องอินเทอร์เน็ต ที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์กว่า 100 คน โดยมีแนวร่วมคนสำคัญ อาทิ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในโลกออนไลน์ขณะนี้ และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พร้อมด้วยนักวิชาการ และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ ที่มาร่วมเป็นกองทัพนักรบไซเบอร์ ของพรรค เบื้องต้นเราจะเน้นการใช้ทวิตเตอร์ เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักที่มีความรวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลก โดยโมเดลการใช้ทวิตเตอร์จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ที่เคยใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิมาแล้ว ภายใต้รหัสทวิตเตอร์ (twitter)@ptcybertalk เพื่อตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ ที่บิดเบือนข้อมูลบนโลกออนไลน์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ยังขอเชิญชวนผู้ที่รักประชาธิปไตยมาร่วม “ทวิตเตอร์…สร้างประชาธิปไตย…สยบประชาธิปัตย์” ไปด้วยกัน
รท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวถึง ปรากฏการณ์ ที่ประชาชนออกมาขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ ตามเวทีปราศรัยต่างๆว่า ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อาจเป็นเวรกรรม ที่ก่อไว้กับประชาชน จึงถูกขับไล่ทั้งแผ่นดิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ต้องทำใจ เพราะประชาชนอาจยังไม่ให้อภัย ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปราบปรามประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต 98 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน โดยที่ นายอภิสิทธิ์ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังล้มเหลวในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะค้านแบบไม่สร้างสรรค์ จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยตัวอย่างล่าสุดกรณีนาซา ถอนโครงการจากประเทศไทย จึงอาจเป็นไปได้ที่ผู้ประท้วงอาจจะอยากไปถามนายอภิสิทธิ์ ที่เวทีว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะค้านจนชาติพังเลยหรืออย่างไร
** "เต้น"นำทีมบุกอุตรดิตถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 1 ก.ค.) ที่ บ้านห้วยคา ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บ้านเกิด พระยาพิชัยดาบหัก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายกนก ลิ้มตระกูล และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยช่วย นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ เพื่อหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 8ก.ค.นี้ พร้อมกล่าวคำชี้แจงกรณี การผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแกนนำต่างสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัย มุ่งโจมตีไปที่พรรคประชาธิปัตย์ และ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของการ์ดนปช. อุตรดิตถ์ มีกลุ่มเสื้อแดง ชาว อ.พิชัย อ.ตรอน และ อ. ลับแล ร่วมฟังกันเป็นจำนวนมาก
ร.ท.หญิง สุณิสา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำเรื่องการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ของนาซา เพื่อสำรวจสภาวะอากาศ จนสุดท้ายก็ทำให้นาซา ตัดสินใจถอนเรื่องออกไปจากประเทศไทยนั้น ถือว่าประเทศไทยกำลังเสียโอกาสอันดี ที่จะได้รู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ทั้งที่นาซา มีเจตนาดีต่อภูมิภาคเอเชีย ต่อการรับมือภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และจะค้านจนทำให้ชาติพังเสียหาย การทำหน้าที่ฝ่ายค้านครั้งนี้ ล้มเหลว เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ก็ล้มเหลวมาตลอด
"วันนี้พรรคเพื่อไทย กำลังถูกพรรคประชาธิปัตย์ และ อำมาตย์ ที่แฝงอยู่ในองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยทำลายล้าง เพื่อเรียกร้องความถูกต้อง ทางพรรคเพื่อไทย จึงต้องเปิดเวทีเพื่อชี้แจงและตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคมีเป้าหมายเปิดเวทีลักษณะนี้ 30 เวทีทั่วประเทศ"
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากเวที บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหักแล้ว กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ ยังเปิดเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาโรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อีก 1 แห่งด้วย เพื่อหาเสียงช่วย นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ผู้สมัคร นายก อบจ.อุตรดิตถ์ หมายเลข 1 พร้อมชูนโยบายการหาเสียงให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม จัดงบประมาณอย่างเป็นธรรม และทั่วถึง ตำบลละ 1 ล้าน หมู่บ้านละ 1 แสน โรงเรียนละ 1หมื่น เปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการคิดและ ตัดสินใจ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด และเข้มข้น เนื่องจากผู้สมัคร นายก อบจ.อุตรดิตถ์ ต่างเป็นคนของนักการเมืองระดับชาติ หลังจากมีการเปิดรับสมัครไปแล้วนั้น มีผู้สมัคร 3 ราย ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายชัยศิริ หรือ “เสี่ยเน่า” ศุภรักษ์จินดา กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ , หมายเลข 2 นายพีระศักดิ์ หรือ อัยการอ๋อง พอจิต อดีตนายก อบจ.อุตรดิตถ์ และ หมายเลข 3 นายพรชัย หรือ “เสี่ยพรชัย” อัมระนันท์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง
***แฉโอ๊คเฟซบุ๊กตัวปลอม
นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยควรจัดสรรค์ตำแหน่งใหม่ให้นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วางตัวเองเป็นโฆษกการเมืองคนล่าสุดของพรรคเพื่อไทยแต่อาจไม่มั่นใจที่จะยืนต่อหน้าสื่อมวลชนจังๆ เพราะมีบางอย่างซ่อนอยู่จึงได้แค่ทำตัวลับๆ ล่อๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเท่านั้น
นายพานทองแท้อาจสืบสันดานพ่อและอาซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีมามากพอควร แม้แต่ตัวตนในเฟซบุ๊กก็มีนักข่าวแก่ตกงานอยู่เบื้องหลังร่างบทให้ใช่หรือไม่ เพราะสามารถจับโกหกได้จากภาษาที่ใช้ คำเชื่อมที่ใช้ในการเขียน คำส่อเสียดที่ใช้ล้วนเป็นสำนวนคนในวงข่าวการเมือง นายพานทองแท้ตัวปลอมประจำเฟซบุ๊กควรหยุดพฤติกรรมอคติต่อการตกงานของตัวเองโทษคนทั้งโลกแล้วใช้เฟซบุ๊กเด็กน้อยคนหนึ่งเป็นเครื่องมือให้ร้ายผู้อื่นแม้เจ้าตัวจะสมยอมก็ตามเพราะนั่นเป็นการดูถูกสื่อมวลชนและโกหกคนไม่จบสิ้นเพิ่มการกระทำผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ให้นายพานทองแท้เข้าไปอีก ผู้อยู่หลังฉากควรหยุดพฤติกรรมหากินกับอาชีพการเขียนบทแล้วหลบซุกเด็กคนนี้ได้แล้ว
นางสาวมัลลิกากล่าวว่า ในฐานะเป็นตนเคยสัมภาษณ์พูดคุยกันมานั้นขอแนะนำนายพานทองแท้ว่าเอาเวลาไปตั้งรับกับบูมเมอแรงในคดีรับของโจรจากสำนวนที่อัยการสั่งฟ้องกรณีเงินกู้ 9,000 ล้านบาทของธนาคารกรุงไทยจะดีกว่าเพราะความผิดพร้อมหลักฐานสำเร็จแล้วประกอบกับอายุความหลายสิบปีไม่ว่าจะมีอำนาจหรือหมดอำนาจของพ่ออายุความของคดีนี้ยังอยู่แน่นอน ล่าสุดฝ่ายกฏหมายพรรคและฝ่ายกฏหมายผู้เสียหายกำลังเตรียมเรื่องดำเนินคดีเองแล้วโปรดเติมโตเต็มวัยและใช้สมองให้สมกับอายุของตัวได้แล้ว มีเงินมีอำนาจมีกำลังคนรอบตัวก็ใช่ว่าจะรอดพ้นได้
"โตได้แล้วเพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราจนแก่เฒ่า อำนาจก็ไม่ได้อยู่กับเราไปจนตาย มีเงินทองมากมายกองไว้ถ้าใช้ไม่เป็นปล่อยขบวนเหลือบเกาะอย่างนี้ไม่นานก็อาจไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนพ่อก็ได้ แล้วอย่าลืมว่าคดีรับของโจรจากเรื่องกรุงไทยคุณโอ๊คพลาดเพราะใคร ใช่เหลือบที่แฝงมาเป็นพวกเป็นเพื่อนในยามที่พ่อมีอำนาจใช่หรือไม่" นางสาวมัลลิกากล่าวและว่า ถ้านายพานทองแท้อยากเป็นนักการเมืองจริงๆ อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะคิดว่าน่าจะได้รับมรดกทางการเมืองของพ่อมากกว่าก็ขอแนะนำว่าให้ก้าวออกมาจากเฟซบุ๊คเปิดตัวในที่สว่างแสดงภูมิปัญญาให้สัมภาษณ์อย่างจริงจังต่อหน้าไมค์ของสื่อมวลชนอย่างชาญฉลาดเปิดตัวทำงานการเมืองไปเลยอาจทำได้ดีกว่านางสาวยิ่งลักษณ์ก็เป็นได้อย่าปล่อยให้เหลือบเกาะกินอยู่ตลอดชีวิตเยี่ยงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตรโพสต์เฟซบุ๊ก ttp://www.facebook.com/oakpanthongtaeref=ts เตรียมจัดทัวร์ให้แฟนเพจที่โพสต์ข้อความถูกใจทีมงานในเฟซบุ๊ก จะได้เดินทางไปเยี่ยมคนแดนไกล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (บิดา) อีกประมาณไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครั้งละประมาณ 15-20 คน เน้นประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์
"มาเข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ สำหรับผู้ที่สนใจจะไป "เยี่ยมคนแดนไกลให้หายคิดถึง" กับผมนั้น บุคคลที่จะได้รับเลือกให้ไปด้วยกัน คร่าวๆ ก็จะคัดมาจาก 1. แฟนเพจที่คอมเมนต์แล้วเข้าตาทีมงาน ประมาณ 3-5 ท่าน 2. แฟนเพจที่แชร์และส่งข่าวให้เพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอ 3-5 ท่าน 3. แฟนเพจที่เพื่อนแฟนเพจด้วยกันคอมเมนต์เชียร์ให้เป็นตัวแทนไป 3-5ท่าน 4. จับสลากจากแฟนเพจทั้งหมดอีก 5 ท่าน คร่าวๆ ประมาณนี้นะครับ รายละเอียดต่างๆ จะให้ทีมงานไปตระเตรียม และจะโพสต์ให้ทราบเร็วๆ นี้ครับ".
รท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ประกาศเพิ่มเวทีปราศัย "เพื่อไทย…พบประชาชน" กว่า 30 เวทีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 ก.ค.55 เพื่อตอบโต้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินสายเปิดเวทีใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนักพูดคนสำคัญของพรรค นำทีมโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. รวมทั้งส.ส.ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะขึ้นเวทีชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับพี่น้องประชาชน โดยตั้งเป้าเดินสายปราศรัย ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 เวที ในทุกภาคของประเทศ
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยัง ได้เปิดแนวรบในโลกไซเบอร์ โดยได้เชิญนักท่องอินเทอร์เน็ต ที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์กว่า 100 คน โดยมีแนวร่วมคนสำคัญ อาทิ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในโลกออนไลน์ขณะนี้ และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พร้อมด้วยนักวิชาการ และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ ที่มาร่วมเป็นกองทัพนักรบไซเบอร์ ของพรรค เบื้องต้นเราจะเน้นการใช้ทวิตเตอร์ เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักที่มีความรวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลก โดยโมเดลการใช้ทวิตเตอร์จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ที่เคยใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิมาแล้ว ภายใต้รหัสทวิตเตอร์ (twitter)@ptcybertalk เพื่อตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ ที่บิดเบือนข้อมูลบนโลกออนไลน์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ยังขอเชิญชวนผู้ที่รักประชาธิปไตยมาร่วม “ทวิตเตอร์…สร้างประชาธิปไตย…สยบประชาธิปัตย์” ไปด้วยกัน
รท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวถึง ปรากฏการณ์ ที่ประชาชนออกมาขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ ตามเวทีปราศรัยต่างๆว่า ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อาจเป็นเวรกรรม ที่ก่อไว้กับประชาชน จึงถูกขับไล่ทั้งแผ่นดิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ต้องทำใจ เพราะประชาชนอาจยังไม่ให้อภัย ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปราบปรามประชาชน จนมีผู้เสียชีวิต 98 ศพ บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน โดยที่ นายอภิสิทธิ์ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยังล้มเหลวในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะค้านแบบไม่สร้างสรรค์ จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยตัวอย่างล่าสุดกรณีนาซา ถอนโครงการจากประเทศไทย จึงอาจเป็นไปได้ที่ผู้ประท้วงอาจจะอยากไปถามนายอภิสิทธิ์ ที่เวทีว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะค้านจนชาติพังเลยหรืออย่างไร
** "เต้น"นำทีมบุกอุตรดิตถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 1 ก.ค.) ที่ บ้านห้วยคา ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บ้านเกิด พระยาพิชัยดาบหัก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายกนก ลิ้มตระกูล และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยช่วย นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ เพื่อหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 8ก.ค.นี้ พร้อมกล่าวคำชี้แจงกรณี การผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแกนนำต่างสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัย มุ่งโจมตีไปที่พรรคประชาธิปัตย์ และ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของการ์ดนปช. อุตรดิตถ์ มีกลุ่มเสื้อแดง ชาว อ.พิชัย อ.ตรอน และ อ. ลับแล ร่วมฟังกันเป็นจำนวนมาก
ร.ท.หญิง สุณิสา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำเรื่องการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ของนาซา เพื่อสำรวจสภาวะอากาศ จนสุดท้ายก็ทำให้นาซา ตัดสินใจถอนเรื่องออกไปจากประเทศไทยนั้น ถือว่าประเทศไทยกำลังเสียโอกาสอันดี ที่จะได้รู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ทั้งที่นาซา มีเจตนาดีต่อภูมิภาคเอเชีย ต่อการรับมือภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และจะค้านจนทำให้ชาติพังเสียหาย การทำหน้าที่ฝ่ายค้านครั้งนี้ ล้มเหลว เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ก็ล้มเหลวมาตลอด
"วันนี้พรรคเพื่อไทย กำลังถูกพรรคประชาธิปัตย์ และ อำมาตย์ ที่แฝงอยู่ในองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยทำลายล้าง เพื่อเรียกร้องความถูกต้อง ทางพรรคเพื่อไทย จึงต้องเปิดเวทีเพื่อชี้แจงและตอบโต้พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคมีเป้าหมายเปิดเวทีลักษณะนี้ 30 เวทีทั่วประเทศ"
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากเวที บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหักแล้ว กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ ยังเปิดเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาโรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ อีก 1 แห่งด้วย เพื่อหาเสียงช่วย นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ผู้สมัคร นายก อบจ.อุตรดิตถ์ หมายเลข 1 พร้อมชูนโยบายการหาเสียงให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม จัดงบประมาณอย่างเป็นธรรม และทั่วถึง ตำบลละ 1 ล้าน หมู่บ้านละ 1 แสน โรงเรียนละ 1หมื่น เปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการคิดและ ตัดสินใจ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด และเข้มข้น เนื่องจากผู้สมัคร นายก อบจ.อุตรดิตถ์ ต่างเป็นคนของนักการเมืองระดับชาติ หลังจากมีการเปิดรับสมัครไปแล้วนั้น มีผู้สมัคร 3 ราย ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายชัยศิริ หรือ “เสี่ยเน่า” ศุภรักษ์จินดา กลุ่มเพื่อไทยอุตรดิตถ์ , หมายเลข 2 นายพีระศักดิ์ หรือ อัยการอ๋อง พอจิต อดีตนายก อบจ.อุตรดิตถ์ และ หมายเลข 3 นายพรชัย หรือ “เสี่ยพรชัย” อัมระนันท์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง
***แฉโอ๊คเฟซบุ๊กตัวปลอม
นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยควรจัดสรรค์ตำแหน่งใหม่ให้นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วางตัวเองเป็นโฆษกการเมืองคนล่าสุดของพรรคเพื่อไทยแต่อาจไม่มั่นใจที่จะยืนต่อหน้าสื่อมวลชนจังๆ เพราะมีบางอย่างซ่อนอยู่จึงได้แค่ทำตัวลับๆ ล่อๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเท่านั้น
นายพานทองแท้อาจสืบสันดานพ่อและอาซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีมามากพอควร แม้แต่ตัวตนในเฟซบุ๊กก็มีนักข่าวแก่ตกงานอยู่เบื้องหลังร่างบทให้ใช่หรือไม่ เพราะสามารถจับโกหกได้จากภาษาที่ใช้ คำเชื่อมที่ใช้ในการเขียน คำส่อเสียดที่ใช้ล้วนเป็นสำนวนคนในวงข่าวการเมือง นายพานทองแท้ตัวปลอมประจำเฟซบุ๊กควรหยุดพฤติกรรมอคติต่อการตกงานของตัวเองโทษคนทั้งโลกแล้วใช้เฟซบุ๊กเด็กน้อยคนหนึ่งเป็นเครื่องมือให้ร้ายผู้อื่นแม้เจ้าตัวจะสมยอมก็ตามเพราะนั่นเป็นการดูถูกสื่อมวลชนและโกหกคนไม่จบสิ้นเพิ่มการกระทำผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ให้นายพานทองแท้เข้าไปอีก ผู้อยู่หลังฉากควรหยุดพฤติกรรมหากินกับอาชีพการเขียนบทแล้วหลบซุกเด็กคนนี้ได้แล้ว
นางสาวมัลลิกากล่าวว่า ในฐานะเป็นตนเคยสัมภาษณ์พูดคุยกันมานั้นขอแนะนำนายพานทองแท้ว่าเอาเวลาไปตั้งรับกับบูมเมอแรงในคดีรับของโจรจากสำนวนที่อัยการสั่งฟ้องกรณีเงินกู้ 9,000 ล้านบาทของธนาคารกรุงไทยจะดีกว่าเพราะความผิดพร้อมหลักฐานสำเร็จแล้วประกอบกับอายุความหลายสิบปีไม่ว่าจะมีอำนาจหรือหมดอำนาจของพ่ออายุความของคดีนี้ยังอยู่แน่นอน ล่าสุดฝ่ายกฏหมายพรรคและฝ่ายกฏหมายผู้เสียหายกำลังเตรียมเรื่องดำเนินคดีเองแล้วโปรดเติมโตเต็มวัยและใช้สมองให้สมกับอายุของตัวได้แล้ว มีเงินมีอำนาจมีกำลังคนรอบตัวก็ใช่ว่าจะรอดพ้นได้
"โตได้แล้วเพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราจนแก่เฒ่า อำนาจก็ไม่ได้อยู่กับเราไปจนตาย มีเงินทองมากมายกองไว้ถ้าใช้ไม่เป็นปล่อยขบวนเหลือบเกาะอย่างนี้ไม่นานก็อาจไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนพ่อก็ได้ แล้วอย่าลืมว่าคดีรับของโจรจากเรื่องกรุงไทยคุณโอ๊คพลาดเพราะใคร ใช่เหลือบที่แฝงมาเป็นพวกเป็นเพื่อนในยามที่พ่อมีอำนาจใช่หรือไม่" นางสาวมัลลิกากล่าวและว่า ถ้านายพานทองแท้อยากเป็นนักการเมืองจริงๆ อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะคิดว่าน่าจะได้รับมรดกทางการเมืองของพ่อมากกว่าก็ขอแนะนำว่าให้ก้าวออกมาจากเฟซบุ๊คเปิดตัวในที่สว่างแสดงภูมิปัญญาให้สัมภาษณ์อย่างจริงจังต่อหน้าไมค์ของสื่อมวลชนอย่างชาญฉลาดเปิดตัวทำงานการเมืองไปเลยอาจทำได้ดีกว่านางสาวยิ่งลักษณ์ก็เป็นได้อย่าปล่อยให้เหลือบเกาะกินอยู่ตลอดชีวิตเยี่ยงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตรโพสต์เฟซบุ๊ก ttp://www.facebook.com/oakpanthongtaeref=ts เตรียมจัดทัวร์ให้แฟนเพจที่โพสต์ข้อความถูกใจทีมงานในเฟซบุ๊ก จะได้เดินทางไปเยี่ยมคนแดนไกล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (บิดา) อีกประมาณไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครั้งละประมาณ 15-20 คน เน้นประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์
"มาเข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ สำหรับผู้ที่สนใจจะไป "เยี่ยมคนแดนไกลให้หายคิดถึง" กับผมนั้น บุคคลที่จะได้รับเลือกให้ไปด้วยกัน คร่าวๆ ก็จะคัดมาจาก 1. แฟนเพจที่คอมเมนต์แล้วเข้าตาทีมงาน ประมาณ 3-5 ท่าน 2. แฟนเพจที่แชร์และส่งข่าวให้เพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอ 3-5 ท่าน 3. แฟนเพจที่เพื่อนแฟนเพจด้วยกันคอมเมนต์เชียร์ให้เป็นตัวแทนไป 3-5ท่าน 4. จับสลากจากแฟนเพจทั้งหมดอีก 5 ท่าน คร่าวๆ ประมาณนี้นะครับ รายละเอียดต่างๆ จะให้ทีมงานไปตระเตรียม และจะโพสต์ให้ทราบเร็วๆ นี้ครับ".
