xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติโล่ง!เงินเฟ้อลด ชี้ดอกเบี้ยนโยบาย 3% เอื้อต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าแบงก์ชาติเผยแรงกดดันเงินเฟ้อชะลอลง ทำให้ความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อมีน้อยกว่าความเสี่ยงการเติบโตเศรษฐกิจ ล่าสุดปรับประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปเหลือ 3.3% จากเดิม 3.5% ชี้ปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายระดับ 3% เอื้อต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระบุหน้าที่หลักธนาคารกลางควรดูแลประเทศให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีความผันผวนหนักหากสงบแล้วก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคลี่คลายเรื่องทุนติดลบ

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เท่าที่ติดตามในขณะนี้เห็นว่าแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง ทำให้ความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อมีน้อยกว่าความเสี่ยงการเติบโตเศรษฐกิจ สาเหตุหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างยุโรปและสหรัฐ ทำให้อุปสงค์ของสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงานและน้ำมันลดลง ทำให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ผ่านมาได้ปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.5% ของปีนี้
“ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ต้องติดตามข้อมูลอีกสักหน่อย ข้อมูลประเทศไทยในขณะนี้ อุปสงค์ในประเทศก็เติบโตพอสมควร สถาบันการเงินมีการขยายตัวสินเชื่อค่อนข้างสูง ซึ่งต้องติดตามและดูให้เหมาะสม จึงเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3% ในระดับปัจจุบัน เอื้อต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เทียบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 3.3%
ซึ่งเราต้องดูแลไม่ให้เงินเฟ้อสูงเกินไปจนกระทบความสามารถแข่งขันของประเทศด้วย” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวและว่าการประชุมบอร์ดกนง.ในวันที่ 25 ก.ค.นี้จะนำแนวโน้มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรปและสหรัฐมาเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาด้วย
แม้โดยรวมภูมิภาคนี้ยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี จึงคาดจะมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ แต่ระยะหลัง ตลาดการเงินโลกมีความอ่อนไหวค่อนข้างมากและตอบสนองข่าวรุนแรง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งเกิดความผันผวนค่อนข้างสูง ซึ่งบางช่วงเกิดขึ้นถี่และรุนแรง ทำให้ธปท.ต้องเผื่อแนวทางการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายไว้ทั้ง 2 ทิศทาง ซึ่งเป็นหน้าที่ของธนาคารกลางในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ผู้ที่มีรายได้เงินตราต่างประเทศควรมีการบริหารความเสี่ยงเช่นกัน ขณะที่แผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศที่ใช้ปฏิบัติในปี 55-56 ยังเป็นแนวทางเดิม แต่หากเกิดความผันผวนรุนแรงก็อาจปรับกฎเกณฑ์ตามความเหมาะสมได้
ผู้ว่าการธปท.กล่าวถึงกรณีการแก้ไขปัญหาส่วนของทุนติดลบว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งมีทั้งกรรมการในคณะกรรมการ ธปท. (บอร์ดแบงก์ชาติ) และพนักงานภายใน ธปท.ร่วมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามในหลักการ ธนาคารกลางควรทำหน้าที่หลักในการดูแลประเทศให้อยู่รอดปลอดภัยก่อน โดยเฉพาะความผันผวนตลาดการเงินระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้อยู่ หากภาวะดังกล่าวสงบแล้วก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคลี่คลายเรื่องทุนติดลบ
สำหรับเรื่องที่รัฐบาลมีแผนจะกู้เงินภายในประเทศจำนวน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศมองว่าไม่กระทบต่อสภาพคล่องในระบบการเงิน เนื่องจากเป็นแผนที่ทยอยทำและมีกรอบเวลาหลายปี และเห็นว่าแนวทางการกู้เงินในประเทศมากกว่ากู้นอกประเทศจะช่วยลดภาระการดูดซับสภาพคล่องของ ธปท.ในตัว ซึ่ง ธปท.ต้องพยายามสร้างบรรยากาศให้เอื้อโดยรวมให้มีความสมดุลด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันธปท.มีภาระดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินกว่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของการซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันประมาณ 5-6 แสนล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น