เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (17) ปิดในแดนบวก จากข่าวดีต่างๆ นานา ทั้งผลประมูลพันธบัตรสเปน และรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์มะกันอันสดใส ขณะที่ไอเอ็มเอฟก็ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 10 เซ็นต์ ปิดที่ 118.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เกตส์ ระบุว่า “ผลประมูลพันธบัตรที่ดีเกินคาดหมายของสเปน และไอเอ็มเอฟประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกดีขึ้นเล็กน้อย คือปัจจัยหนุนแก่นักลงทุน ตลาดทุนปรับขึ้นเช่นดียวกับราคาน้ำมันดิบ”
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับข้อมูลอันสดใสเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการบริษัทยักษ์หลายแห่งในสหรัฐฯ ส่งผลให้วานนี้ (17) ตลาดหุ้นอเมริกา ปิดบวกอย่างแรง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 194.13 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,115.54 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 54.42 จุด (1.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,042.82 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.21 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,390.78 จุด
การประมูลพันธบัตรของสเปนที่ประสบความสำเร็จเกินคาดหมายดันให้ตลาดหุ้นทั่วยุโรปปิดในแดนบวกอย่างถ้วนหน้าและกระแสความสดชื่นนี้ก็แผ่ลามมาถึงวอลล์สตรีทด้วย เนื่องจากมันช่วยคลายกังวลต่อวิกฤตหนี้สินรอบใหม่ในยูโรโซน
นักลงทุนมีความกระชุ่มกระชวยมากยิ่งขึ้นหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยแพร่รายงานครึ่งปีเกี่ยวกับเสถียรภาพของระบบการเงิน โดยปรับเพิ่มประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกขึ้นอีกเล็กน้อยเป็นร้อยละ 3.5
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพุ่งขึ้นอย่างมั่นคง จากรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โกลด์แมนแซค และโคคา-โคลา ดับความกังวลก่อนหน้านี้ที่คาดหมายว่าผลประกอบการของบริษัทต่างๆ อาจออกมาไม่สดใสนัก
ขณะเดียวกัน แนสแดคได้แรงหนุนจากหุ้นของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5.1 หลังจากก่อนหน้านี้หุ้นของบริษัทแห่งนี้ขยับลงมา 5 วันติด