เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันโลกวานนี้ (28) ดิ่งแรงจากการทำกำไของนักลงทุนท่ามกลางความกังวลว่าราคาพลังงานที่พุ่งสูงอาจกระทบอุปสงค์และทำร้ายเศรษฐกิจโลก ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกพอประมาณ จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.62 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ราคาน้ำมันร่วงลงสืบเนื่องจากความกังวลว่าราคาที่พุ่งสูงจะส่งผลให้อุปสงค์พลังงานหดหาย” นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว “มีความคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าอุปสงค์พลังงานโลกในปีนี้จะไม่เติบโตหากว่าราคายังขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (28) ปิดบวกเล็กน้อย แต่ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเหนือ 13,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 25.05 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,006.56 นับเป็นการปิดระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008 แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.61 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,986.77 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,372.28
วอลล์สตรีททะยานขึ้นหลังจากเปิดตลาด หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของโลกในเดือนกุมภาพันธ์ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี อันเป็นผลมาจากมุมมองด้านดีเกี่ยวกับตลาดแรงงาน แม้ว่าผู้บริโภคมีความกังวลต่อราคาน้ำมันที่สูงลิ่วก็ตาม
กระนั้นก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ลดความร้อนแรงหลัง จากข้อมูลที่น่าผิดหวังของคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมกราคม ที่ลดต่ำสุดในรอบเดือน 3 ปี เช่นเดียวกับราคาบ้านที่ตกต่ำในเดือนธันวาคม