xs
xsm
sm
md
lg

ทูตมะกันทวิตรับสภาพ แขวนแผน“นาซา” “มาร์ค”ท้าเปิดวิสามัญถ้ารีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ทูตสหรัฐฯ ทวิตเคารพการตัดสินใจของรัฐบาลไทย ยันสานต่อความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม หลัง “ปึ้ง”ต่อสายเคลียร์ “ปชป.”ดาหน้าซัดรัฐบาล หลังถูกกล่าวหาขวางโครงการนาซ่าทำประเทศเสียประโยชน์ "มาร์ค" ท้าเปิดสภาวิสามัญได้ ถ้ารีบ จี้ถอด "ปลอดประสพ-สุรพงษ์” พ้นครม. "สุกำพล"เผยไม่รู้นาซาจะถอนโครงการหรือเปล่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 มิ.ย.) นางคริสตี้ เอ เคนนี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้เขียนข้อความลงในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ โดยใช้ชื่อว่า @KristieKenney https://twitter.com/#!/KristieKenney ตอบคำถามถึงการจะครบกำหนดที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) ประเทศสหรัฐอเมริกา จะดำเนินการโครงการการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่อาจมีผลกระทบต่อสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไทยว่า พวกเราเคารพการตัดสินใจของรัฐบาลไทย และยังคงสานต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์ของประชาชนทุกคน

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ก่อนที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปนครดูไบ ได้โทรศัพท์ไปแจ้งต่อนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องนาซ่าขอใช้สนามบินอู่ตะเภาตั้งฐานปฏิบัติเพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลสภาพภูมิอากาศว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความเข้าใจ และยืนยันที่จะให้การเคารพการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ ตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา จะดำเนินการแจ้งเรื่องนี้ต่อนาซ่าต่อไป ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับนาซ่าจะพิจารณา

**"มาร์ค"ท้าเปิดสภาวิสามัญได้ถ้ารีบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้หลังคนของรัฐบาลออกมาระบุว่าฝ่ายค้านเป็นคนทำให้โครงการต้องเลื่อนออกไป ว่า โครงการนี้ล้มไป เพราะการตัดสินใจของรัฐบาล ไม่ใช่เพราะฝ่ายค้านขัดขวางตามที่พยายามมีการกล่าวหา เพราะหากฝ่ายค้านท้วงติงแล้ว รัฐบาลยุติทุกเรื่อง ก็คงไม่มีปัญหาความวุ่นวายเหมือนในขณะนี้ อีกทั้งหากรัฐบาลมั่นใจว่าโครงการมีประโยชน์ ไม่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความมั่นคงก็เดินหน้าได้ โดยหากอยากนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ก็สามารถเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาให้ทันต่อการดำเนินโครงการภายในเดือนส.ค.นี้ได้เช่นเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการขยายสมัยประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งวันทั้งคืน และผลักดันร่างพ.ร.บ.ปรองดอง รัฐบาลก็ทำมาแล้ว

ส่วนกรณีนี้ รัฐบาลไม่ได้ใส่ใจที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ โดยขาดความเอาใจใส่ ดำเนินการอย่างล่าช้า ทั้งที่รับทราบคำขอของนาซามาตั้งแต่มี.ค.2554 แสดงให้เห็นว่า มีเวลากว่า 1 ปี แต่รัฐบาลไม่ได้สร้างความเข้าใจที่ดีต่อประชาชน ตรงกันข้ามเมื่อถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้าน นักวิชาการและ สว. ที่ตรวจสอบและทักท้วงว่าอาจเกิดปัญหาที่เป็นผลข้างเคียง จึงอยากให้รัฐบาลมีความรอบคอบในการพิจารณา แต่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามฝ่ายตรงสอบได้ และยังมีความสับสนในการให้ข้อมูลต่อสาธารณะ ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าโครงการนี้ก่อให้เกิดความไม่สบายใจต่อมิตรประเทศ แม้แต่สื่อมวลชนของสหรัฐฯ ก็ยังตั้งข้อสังเกตในการดำเนินโครงการนี้ และเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลที่ขาดความโปร่งใสจนทำให้เกิดปัญหาตามมา

"เราไม่เคยขัดขวางสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และทำทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม การสร้างความร่วมมือด้านงานวิจัย เพื่อเป็นประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์ ทำได้หลายรูปแบบ และการพิจารณาถึงประโยชน์จะดูเฉพาะประโยชน์ของโครงการไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาประโยชน์ของบ้านเมืองด้วย"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลกลับนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมืองมากกว่าจะคิดถึงประโยชน์ของบ้านเมือง โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ควรจะไปทบทวนตัวเอง เพราะหากประเทศไทยมีรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ที่ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกับฝ่ายค้านในทางการเมือง งานด้านวิทยาศาสตร์คงเดินหน้าไม่ได้ เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่กล่าวโทษฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อรักษาประโยชน์ของบ้านเมือง ก็ควรไปทบทวนตัวเองเช่นเดียวกัน ในฐานะที่ทำงานด้านความมั่นคง เพราะหากโครงการนี้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งดูแลงานด้านความมั่นคงจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้คาบเกี่ยวกับความมั่นคง จึงอยากให้รัฐบาลบริหารประเทศโดยให้ความจริงกับประชาชน ไม่ใช่ใช้ข้ออ้างจากประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ด้านเดียวมาอธิบายต่อประชาชน โดยไม่มีการชี้แจงประเด็นละเอียดอ่อนที่อาจส่งผลกระทบต่ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

** จี้ถอด"ปลอดประสพ-สุรพงษ์"

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นพฤติกรรมน่าละอายที่โทษฝ่ายตรวจสอบกรณีที่ครม. ไม่อนุมัติให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ลงนามในหนังสือสัญญาแลกเปลี่ยนกับสหรัฐฯ ตามที่นาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการสำรวจก้อนเมฆ

“เป็นพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างจากมีเพื่อนบ้านเห็นโจรจะขึ้นบ้านตะโกนร้องบอกให้ตำรวจจับ แต่คนเป็นเจ้าของบ้านแทนที่จะขอบคุณกลับโทษเพื่อนบ้านที่ตะโกนให้จับโจร ดังนั้น ผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือ นายปลอดประสพ และนายสุรพงษ์ ทั้งสองคนต้องพิจารณาตัวเอง โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องพิจารณาเปลี่ยนรัฐมนตรีสองตำแหน่งนี้ เพราะดำเนินการทำให้ชาติขัดแย้ง สังคมเกิดความสับสน นานาชาติเกิดความคลางแคลงใจ"นายชวนนท์กล่าว

**อัดดูถูกประชาชนอ้างน้ำท่วมโยงนาซ่า

น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า รัฐมนตรี รัฐบาลนี้ นอกจากจะดูถูก นายกรัฐมนตรีของตัวเอง ยังดูถูกประชาชนด้วย เอาน้ำท่วมมาเป็นเงื่อนไข เช่นเดียวกับเรื่องเงินกู้ โดยขอให้ไปดูเอกสารบันทึกประชุมร่วมที่ตัวแทนนาซ่า มิได้ตอบสภาความมั่นคงของไทย จนนายพลใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องออกตัวแรง ทั้งนี้ ยังไม่เห็นใครตอบคำถามได้ กรณี บริษัท เชฟรอน กับแผนสำรวจภาคปฏิบัติการล่าสุด ซึ่งสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA กับ NASA ก็ไม่มีใครปฏิเสธ มิเช่นนั้น จะมีการลงนามข้อตกลงกันในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ได้อย่างไร แต่แผนปฏิบัติการที่ออกมานั้น สงสัยว่าใครยัดไส้เอาชาติไปเสี่ยงหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน

**ข้องใจไม่เกี่ยวทหารแต่เป็นเดือด

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตราบใดที่เรายังไม่ได้ข้อมูล ก็ตอบยาก มั่นใจว่า ประโยชน์ของโครงการนี้ย่อมมี แต่สหรัฐฯ จะทำให้เราฟรีๆ ไม่มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ ไม่ทราบ แต่เราต้องการให้รัฐบาลชี้แจง แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลดูเหมือนไม่อยากให้ข้อมูล และที่แปลกใจ คือ ตัวพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ทำไมเป็นเดือดเป็นร้อนมาก หากบอกว่า ไม่เกี่ยวกับทหาร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน

**เพื่อไทยตัดพ้อเป็นลูกกำพร้า

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ที่ถอยอาจจะเป็นเพราะเราเป็นลูกเมียน้อย ลูกไม่มีพ่อ เป็นลูกกำพร้า การทำอะไรทุกก้าวของรัฐบาลต้องระมัดระวัง อะไรที่ไม่ควรเสี่ยง ก็ไม่ควรเสี่ยง เพราะเราตระหนักว่าเราเป็นลูกกำพร้า ตนพูดได้แค่นี้ สังคมไปคิดเอาเอง เรื่องนี้ หากเราเดินหน้าก็ถูกสอยอีก เราต้องรอบคอบ

**"สุกำพล"ยังไม่รู้นาซ่าถอนหรือเปล่า

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าทางนาซ่าได้ถอนโครงการออกเลยหรือไม่ เขาคงดูก่อน อยู่ที่นาซ่าเป็นผู้พิจารณาว่าการดำเนินการของโครงการดังกล่าวจะทันเวลาหรือไม่ ซึ่งเขาคงมีเส้นตายว่าถ้าจะดำเนินการจะสามารถทำได้เมื่อไร และได้ผลเมื่อไร ถ้าไม่ทัน ก็ยกเลิกไป และคงมากันใหม่ ซึ่งตนได้บอกว่าน่าจะเชิญเขามาใหม่ เพราะคราวนี้เขาบอกมาว่าเราไม่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ แต่ตนได้ชี้แจงมาโดยตลอด 2 สัปดาห์ และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ในเมื่อรัฐมนตรีชี้แจงแล้วไม่เข้าใจ จะให้ใครมาชี้แจงอีก ซึ่งตนอยากให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมาถามต่อหน้าตน ตนจะได้ตอบได้ตรงๆ มาคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าคุยไปคุยมาแล้วมาอย่างโน้นอย่างนี้ มันต้องเป็นลูกผู้ชายกันหน่อย ทำเพื่อประเทศชาติบ้าง ในเมื่อเป็นเรื่องการวิจัยเมื่อเห็นว่าดีก็ต้องดำเนินการ

**ส.ว.แนะเปิดประชุมวิสามัญถกนาซ่า

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้เสนอเรื่องขอเปิดประชุมรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ซึ่งตนได้รับทราบจากข่าวเท่านั้น ต้องรอทางรัฐบาลติดต่อมา ขณะเดียวกันต้องขึ้นอยู่กับเจตจำนงของรัฐบาลด้วย การเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไปในช่วงเดือนส.ค.นี้ ยังไม่ทราบระยะเวลาที่แน่ชัดว่าช่วงใด คาดว่าอาจจะเปิดหลังจากการเปิดประชุมสภา ในวันที่ 1 ส.ค.ไปแล้ว

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญในสัปดาห์หน้า เพราะเท่าที่ติดตามข่าวฝ่ายรัฐบาลพยายามบอกว่าประเด็นนี้มีความสำคัญ และหากหน่วยงานของรัฐบาลไทยไม่รีบอนุมัติอาจทำให้เสียประโยชน์ในเรื่องสำรวจสภาพอากาศได้ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ได้ระบุว่าหากรัฐบาลอนุมัติช่วงนี้ยังมีเวลาให้นาซ่าเข้ามาสำรวจตามโครงการอีก 6 สัปดาห์ รัฐบาลควรเร่งให้มีการหารือประเด็นดังกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาโดยเร็ว ไม่ควรปล่อยเวลาทิ้งไปอีกกว่า 1 เดือน เพื่อรอสภาฯ เปิดประชุมสามัญทั่วไป ทั้งนี้ มองเหตุผลของรัฐบาลที่ปล่อยเวลาทิ้งไป เพราะต้องการแก้เกมทางการเมืองของฝ่ายผู้ที่เรียกร้องให้นำเรื่องนาซ่าเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา และหวังโยนบาปให้กลุ่มบุคคลให้สังคมเข้าใจว่าเป็นผู้ที่ทำชาติเสียประโยชน์แสะสร้างความเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น