เงินเหรียญสหรัฐเป็นเงินสกุลใหญ่และมีส่วนแบ่งมากที่สุดในโลก การปั่นตลาดแนสแด็กขึ้นไปเชือดในปี 1999 แล้วก็ทุบถล่มให้พังทลายลงในปี 2000-2001 ตกลงประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐพังทลายลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ปี 2000 จึงเป็นปีเริ่มต้นของการเกิดเงินเฟ้อโลก หลังปี 2000 นักลงทุนและบรรดากองทุนโลกต่างๆ ไม่ถือเงินเหรียญสหรัฐ ทำให้เงินเหรียญสหรัฐไหลออกมาท่วมโลก ทำให้ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ ค่าเงินประเทศต่างๆ และตลาดหุ้นประเทศต่างๆสูงขึ้นอย่างแรง (G92 index เพิ่มขึ้น 463 เปอร์เซ็นต์) แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็พังทลายลงในปี 2008
ตลาดหุ้นประเทศยุโรป มีทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่รวม 39 ประเทศ เงินยูโร เงินยุโรปนอกยูโร เงินปอนด์ เงินสวิสฟรังก์ และเงินของประเทศต่างๆ ต่างสูงขึ้นระหว่างปี 2001-2007 ก็พังทลายลงในปี 2008 และตลาดหุ้นยุโรปพังทลายรุนแรงที่สุดในโลก ตกลงประมาณ 71 เปอร์เซ็นต์
มีผลให้ประเทศในยูโรและประเทศในยุโรปต้องเข้าโครงการไอเอ็มเอฟหลายสิบประเทศ ไม่ว่า กรีซ สเปน อิตาลี โปรตุเกส ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่หลังการล่มสลายของสาธารณรัฐโซเวียตรัสเซีย
ตลาดหุ้นยิ่งพัฒนามากเท่าใด จะเป็นอบายมุขมากขึ้นเท่านั้น เช่น ตลาดหุ้นในประเทศตะวันตก เช่น ตลาดหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป ตลาดหุ้นโดยปกติก็เป็นอบายมุขอยู่แล้ว การเพิ่มสินค้าอนุพันธ์เข้าไปซื้อขายในตลาดหุ้น ยิ่งทำให้เป็นอบายมุขมากขึ้นไปอีก
การซื้อขายลอตเตอรี่ หวยบนดิน หวยใต้ดิน “คือการซื้อขายตัวเลข” เมื่อผลสลากออกมา หากตัวเลขที่ซื้อไว้ตรงตามตัวเลขที่กองสลากออกมา เรียกว่าถูกรางวัล ก็เอาตัวเลขนั้นไปขึ้นรางวัลได้ รางวัลที่ 1 เป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูงสุด รางวัลอื่นๆ ก็ได้น้อย ลดหลั่นกันลงมา
ลอตเตอรี่ หวยบนดิน รัฐบาลเป็นเจ้ามือแต่ผู้เดียว ห้ามเอกชนหรือประชาชนเป็นเจ้ามือ คนอื่นอาจจะแอบเป็นเจ้ามือ เรียกว่า หวยใต้ดิน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบ ก็จะถูกจับมาลงโทษ
ลอตเตอรี่ หวยบนดิน เป็นธุรกรรมที่ไม่ทำให้เกิดผลผลิตแก่ระบบ เป็นการใช้เงินต่อเงิน เจ้ามือหรือเจ้าของบ่อนรวยอย่างเดียว คนซื้อถูกรางวัลจะได้เงินหรือได้รางวัล คนซื้อที่ไม่ถูกรางวัลก็จะเสียเงิน เป็นธุรกรรมที่เอรัดเอาเปรียบระบบ ลอตเตอรี่ หวยบนดินจึงเป็นอบายมุขเหมือนการพนันทั่วไปนั่นเอง
สินค้าอนุพันธ์ในตลาดหุ้น ก็คือ “การนำตัวเลขต่างๆ มาซื้อขายในตลาดหุ้น ไม่มีตัวสินค้าจริง” เช่น ตัวเลขของดัชนีหุ้น ตัวเลขราคาหุ้น ตัวเลขราคาทองคำ ตัวเลขราคาเงิน ตัวเลขราคาน้ำมัน ตัวเลขราคาดอลลาร์ จึงทำให้สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้น หรือเป็นขาลง
สินค้าอนุพันธ์เริ่มซื้อขายครั้งแรกในรัฐบาลทักษิณ สินค้าอนุพันธ์ตัวแรกคือ SET50 Index Futures เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติให้นำราคาดอลลาร์มาทำการซื้อขายในตลาดหุ้น
สมมติคาดว่า ตัวเลขราคาสินค้าอนุพันธ์นั้นจะสูงขึ้น ก็จะเข้าไปซื้อไว้ (Long position) เมื่อราคาสูงขึ้นมาตามคาดจริง ขายออก (Long close) ก็ทำให้มีกำไร
และหากคาดว่า ตัวเลขราคาสินค้าอนุพันธ์นั้นจะตกลง ก็จะเข้าไปขายไว้ (Short position) (ชำระเงินขาย) เมื่อราคาตกลงมาตามคาดจริง ก็ทำการซื้อกลับ (Short Close) ก็ทำให้มีกำไร
การซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ ให้มีการวางเงินประกัน 10 เปอร์เซ็นต์ แล้วซื้อขายอนุพันธ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นเพียงการนำ “ตัวเลข” ดัชนี ตัวเลขราคาหุ้น ตัวเลขราคาอัตราแลกเปลี่ยน ตัวเลขราคาทองคำ ตัวเลขราคาโลหะเงิน ตัวเลขราคาสิ่งของ มาซื้อขาย “ไม่มีสินค้าจริง” จึงสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา
เมื่อมันไม่มีตัวสินค้าจริง มันเป็นเพียงการซื้อขายตัวเลข มันจึงไม่ต่างอะไรกับลอตเตอรี่ หวยบนดิน หรือหวยใต้ดิน เป็นอบายมุข และเป็นอบายกองโตที่สุดในโลก มีคนเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ทำการซื้อขายสินค้าในตลาดหุ้น หากเป็นการประกันความเสี่ยง ก็เป็นการประกันความเสี่ยงให้คนเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เป็นการเอารัดเอาเปรียบคนอีก 99 เปอร์เซ็นต์ และมันยังมีส่วนทำให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดหุ้นแรงมากขึ้นไปอีก คือปั่นให้ขึ้นมากๆ ก็ยิ่งทำให้ได้กำไรมากยิ่งขึ้น หรือปั่นให้ตกลงมากๆ ก็ยิ่งทำให้ได้กำไรมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
คนท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่มีกำไรจากตลาดหุ้น ส่วนใหญ่ขาดทุน ไม่ว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือไทย
ตลาดหุ้นของประเทศตะวันตก ไม่ว่าสหรัฐอเมริกาและยุโรป กันเรียกกันว่าเป็นตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว ได้เกิดความเสียหายในระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ทำให้ค่าเงินเสียหาย สภาพคล่องเสียหาย ธุรกิจอุตสาหกรรมล้มละลาย คนตกงานมาก และเกิดหนี้เสียท่วมระบบ ประเทศไทยกลับเข้าไปเลียนแบบตะวันตกทุกกระเบียดนิ้ว
การเก็งกำไรในตลาดหุ้นทุกวันนี้ (Paper trade) มีมูลค่าเท่ากับหรือสูงกว่าการซื้อขาย นำเข้า ส่งออกของสินค้าจริง (Real trade) เป็นการซื้อขายที่ไม่มีตัวสินค้าจริง โลกเป็นการพนันมากขึ้น โลกเป็นอบายมุขมากขึ้น
ประเทศไทยมีการเปิดตลาดอนุพันธ์ในปี 2549 (2006) เป็นผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามาเก็งกำไรมาก ทุนสำรองสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ก่อปัญหาสภาพคล่องท่วมระบบอย่างยาวนาน เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างผิดปกติ เป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ประเทศไทยมีรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่เงินก็ไหลเข้าประเทศรุนแรงมากขึ้น อีก 3 เดือนถัดมา คือวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ประเทศไทยต้องออกมาตรการกันสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์เงินทุนไหลเข้า วันที่ออกมาตรการดังกล่าว ทุนสำรองสุทธิอยู่ที่ระดับ 74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทุกวันนี้ทุนสำรองดังกล่าว สูงกว่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การแก้ปัญหาสภาพคล่องท่วมระบบ แทนที่จะไปแก้ต้นเหตุที่ทำให้เงินทุนไหลเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น กลับแก้แต่ปลายเหตุของปัญหา เช่น การออกมาตรการกันสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์เงินทุนไหลเข้า อนุมัติให้คนไทยเอาเงินไปลงทุนต่างประเทศ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การเมืองไม่ดี เรื่องเศรษฐกิจก็ย่ำแย่หนัก ตอนนี้เห็นว่าทุนสำรองมีมาก ก็คิดจะเอามาตั้งกองทุนมั่งคั่ง โอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูไปให้ธปท.จัดการใช้หนี้ทั้งหมด หาทางจะดึงเงินทุนสำรองมาลงทุนอีก ประเทศไทยขาดวิสัยทัศน์ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง
ความเสียหายทางเศรษฐกิจของโลกทุกวันนี้รุนแรงมากกว่าเดิม เห็นได้จากวิกฤตที่เกิดขึ้นกับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ในยุโรป
ประเทศไทยใครมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าโดยการเลือกตั้งมา หรือรัฐประหารมา ล้วนแต่มาเพิ่มความเสียหาย ความเสื่อม และความเดือดร้อนให้แก่ประเทศต่อเนื่องกัน
ตลาดหุ้นเปิดตัวครั้งแรกในปี 2518 ในรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าโครงการไอเอ็มเอฟครั้งแรก
การนำระบบ Maintenance margin และ Forced sell มาใช้ในตลาดหุ้นปี 2536 ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าโครงการไอเอ็มเอฟเป็นครั้งที่ 2 การเปิดตลาดสินค้าอนุพันธ์ในปี 2549 ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำความเสียหายประเทศไทยต่อเนื่อง เช่น สภาพคล่องท่วมระบบ บาทแข็งค่ามาก ประเทศไทยต้องรอดูกันต่อไป
ต่างชาติส่วนใหญ่มีกำไรจากตลาดหุ้น เนื่องจากเขาเป็นผู้ควบคุมราคาหุ้นในตลาด ควบคุมตลาดเงิน ควบคุมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ได้ทั้งโลก คนท้องถิ่นจะเสียหายเป็นส่วนใหญ่ และไม่เสียหายเฉพาะนักลงทุนท้องถิ่นอย่างเดียว แต่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดวิกฤตด้วย วันที่ 16/11/2551 ในรัฐบาล ฃนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อนุญาตให้นักลงทุนสหรัฐฯ ลงทุนใน SET50 Futures เป็นการให้ความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติ เงินเข้ามาเก็งไรไม่มาก แต่จะทำให้มีกำไรเป็นเงินบาทกองโต เมื่อเวลาขนเงินออกก็สามารถทำได้อย่างสะดวก ประเทศไทยตอนนี้ก็ดูความเสียหายของประเทศสหรัฐอเมริกาและความเสียหายของประเทศต่างๆ ในยุโรปเป็นตัวอย่างไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน
https://www.facebook.com/suthipong.prachayapruit
http://twitter.com/indexthai2