ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”นัดหารือเอกชนทำแผนกู้วิกฤตส่งออก 8 มิ.ย.นี้ หลังส่งออก 4 เดือนยังติดลบ แถมได้รับผลกระทบจากวิกฤตยุโรปและสหรัฐฯ เล็งดันส่งออกขายอาเซียน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ชดเชยยอด เผยสินค้า 3 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ฟื้นตัวแล้ว มั่นใจทั้งปีเป้า 15% ทำได้แน่
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า วันที่ 8 มิ.ย.2555 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนัดหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงการจัดทำแผนผลักดันการส่งออก หลังจากการส่งออกในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยังขยายตัวติดลบ 3.86%และยังมีผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจจากยุโรป และสหรัฐฯ จึงต้องเร่งจัดทำมาตรการทั้งเชิงรุก เชิงรับ เพื่อผลักดันการส่งออกไทยในปีนี้ให้ขยายตัวตามเป้าหมาย 15% มูลค่า 2.63 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ผลกระทบจากยุโรป ไม่ใช่ทำให้การส่งออกไปยุโรปชะลอตัวลง แต่การส่งออกไปยังประเทศที่พึ่งพาตลาดยุโรปเป็นหลัก อย่างจีน อินเดีย รัสเซีย ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะหากประเทศเหล่านี้ส่งออกไปยุโรปได้ลดลง ก็จะนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนต่างๆ ลดลง ซึ่งจะกระทบต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนตลาดสหรัฐฯ ปัจจุบัน ยังมีปัญหาการว่างงาน เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี การบริโภคก็อาจจะชะลอตัวลง
“จะหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อมาประเมินกันว่า หากจะผลักดันการส่งออกให้เป็นไปตามเป้า 15% จะต้องมีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ และอยากให้รัฐช่วยเหลืออะไร ทั้งมาตรการที่จะต้องทำทันที และมาตรการระยะกลาง ระยะยาว”
นางนันทวัลย์กล่าวว่า สำหรับแผนการผลักดันการส่งออกเพื่อชดเชยตลาดหลักที่การส่งออกชะลอตัว กรมฯ จะมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังขยายตัวได้สูง
โดยตลาดอาเซียน จะเร่งให้ข้อมูลการค้า การลงทุนเชิงลึกกับผู้ประกอบการ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในอาเซียน จะต้องมีข้อมูลเชิงลึกมาให้กับผู้ส่งออกว่าจะบุกเจาะตลาดยังไง สินค้าอะไรมีโอกาส และจะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ อาหารโดยเฉพาะอาหารจะมีกิจกรรมมากที่สุด รวมทั้งจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยว่าเป็นสินค้าคุณภาพ และเร่งผลักดันการสร้างแบรนด์ในตลาดต่างๆ
นางนันทวัลย์กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกนับจากเดือนพ.ค.เป็นต้นไป คาดว่า จะขยายตัวดีขึ้นเรื่อยๆ โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มกลับมาผลิตและส่งออกได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และการส่งออกจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากการส่งออกกลับมาเต็มที่ ก็จะทำให้ภาพรวมการส่งออกทั้งปีน่าจะทำได้ 15% ตามเป้า
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า วันที่ 8 มิ.ย.2555 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนัดหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงการจัดทำแผนผลักดันการส่งออก หลังจากการส่งออกในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยังขยายตัวติดลบ 3.86%และยังมีผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจจากยุโรป และสหรัฐฯ จึงต้องเร่งจัดทำมาตรการทั้งเชิงรุก เชิงรับ เพื่อผลักดันการส่งออกไทยในปีนี้ให้ขยายตัวตามเป้าหมาย 15% มูลค่า 2.63 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ผลกระทบจากยุโรป ไม่ใช่ทำให้การส่งออกไปยุโรปชะลอตัวลง แต่การส่งออกไปยังประเทศที่พึ่งพาตลาดยุโรปเป็นหลัก อย่างจีน อินเดีย รัสเซีย ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะหากประเทศเหล่านี้ส่งออกไปยุโรปได้ลดลง ก็จะนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนต่างๆ ลดลง ซึ่งจะกระทบต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนตลาดสหรัฐฯ ปัจจุบัน ยังมีปัญหาการว่างงาน เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี การบริโภคก็อาจจะชะลอตัวลง
“จะหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อมาประเมินกันว่า หากจะผลักดันการส่งออกให้เป็นไปตามเป้า 15% จะต้องมีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ และอยากให้รัฐช่วยเหลืออะไร ทั้งมาตรการที่จะต้องทำทันที และมาตรการระยะกลาง ระยะยาว”
นางนันทวัลย์กล่าวว่า สำหรับแผนการผลักดันการส่งออกเพื่อชดเชยตลาดหลักที่การส่งออกชะลอตัว กรมฯ จะมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังขยายตัวได้สูง
โดยตลาดอาเซียน จะเร่งให้ข้อมูลการค้า การลงทุนเชิงลึกกับผู้ประกอบการ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในอาเซียน จะต้องมีข้อมูลเชิงลึกมาให้กับผู้ส่งออกว่าจะบุกเจาะตลาดยังไง สินค้าอะไรมีโอกาส และจะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ อาหารโดยเฉพาะอาหารจะมีกิจกรรมมากที่สุด รวมทั้งจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยว่าเป็นสินค้าคุณภาพ และเร่งผลักดันการสร้างแบรนด์ในตลาดต่างๆ
นางนันทวัลย์กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกนับจากเดือนพ.ค.เป็นต้นไป คาดว่า จะขยายตัวดีขึ้นเรื่อยๆ โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มกลับมาผลิตและส่งออกได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และการส่งออกจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากการส่งออกกลับมาเต็มที่ ก็จะทำให้ภาพรวมการส่งออกทั้งปีน่าจะทำได้ 15% ตามเป้า