xs
xsm
sm
md
lg

แฉแม้วคลั่งด่าศาล-ปลุกแดง เหตุผิดแผน แก้รธน.-ปรองดองเทียมล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยะใส" ชี้โฟนอิน "แม้ว" แสดงอาการคลุ้มคลั่ง เตรียมหลอกเสื้อแดงรายวัน หลังแผนแก้ไข รธน. ดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเทียมถูกเบรก เตือนระวังอกแตกตายก่อนได้กลับบ้าน ลั่นหากรัฐบาลเดินหน้า กม.ปรองดอง สถานการณ์จะลามสู่การขับไล่รัฐบาล ปชป.ได้ทีจับผิดแม้วคุยโอ่มีเงิน 6.4 หมื่นล้านก่อนเล่นการเมือง ทั้งๆ ที่แจ้ง ปปช.แค่ 5.9 พันล้าน

จากกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จัดงานครบรอบครึ่งทศวรรษรายการความจริงวันนี้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยกล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไว้พิจารณา และให้ระงับการลงมติในวาระ 3 ไว้ก่อน โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า กติกาบ้านเมืองไม่เหลือแล้ว ไม่รู้เอาอำนาจมาจากไหน เขียนระเบียบเอง และนำระเบียบมาอยู่เหนือกฎหมาย อย่างนี้ความแตกแยกไม่มีทางจะยุติ มีแต่จะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ถ้าทำกันอย่างนี้ต้องบอกประชาชนว่า จะยอมให้เขาปล้นอีกหรือ

**แหลมี 6.4 หมื่นล้านก่อนเล่นการเมือง

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามพูดถึง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง จะเป็นการคืนเงิน 46,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดไปให้ตนเองว่า

" ขอให้ไปถาม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่าเมื่อ 18 ปีที่แล้ว มาเชิญผมไปเป็นรัฐมนตรี ในปี 2537 ผมมีเงิน 64,000 ล้าน ผมรวยเพราะทำมาหากิน ไม่ได้ปล้นใครมา รวยมาก่อนเป็นนักการเมือง แต่เมื่อเข้าการเมืองมีแต่เงินหายไป เป็นเงินของผมและครบครัวที่ทำมาหากิน แล้วถูกปล้นไป ขอให้เข้าใจว่า เขาปล้นผมไป"

** ปลุกเสื้อแดงให้เตรียมพร้อม

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวขอโทษคนเสื้อแดง ที่ไม่พอใจที่ตนขอให้ลืมเรื่องเก่า ยอมเสียสละเรื่องที่ญาติบาดเจ็บล้มตาย แล้วหันหน้ามาปรองดอง ว่า ไม่ได้คิดจะย่ำยีหัวใจพี่น้องคนเสื้อแดง แต่วันนั้นสัญญาณไม่ค่อยดี จึงอยากบอกให้รู้ว่า ยังสำนึกในบุญคุณคนเสื้อแดงไม่เคยลืม เราหัวใจผูกพันกัน เพียงแต่อยากให้มีความปรองดองเพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ เราต้องช่วยกันเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา อย่าคิดว่าตนทิ้งคนเสื้อแดง กำลังคิดว่าถ้ากลับบ้านได้ จะตอบแทนอย่างไร แต่วันนี้ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อม

**"แม้ว"คลุ้มคลั่งที่แผนการผิดพลาด

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มายังที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น สังคมได้เห็นอาการคลุ้มคลั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งกว่า ส.ส.เผชิญหน้ากันในสภาฯ หลายสิบเท่า

ก่อนหน้านี้พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกว่าจะโฟนอินครั้งสุดท้าย และบอกคนเสื้อแดงให้ปรองดอง และไม่ต้องตามตนมา เพราะส่งตนขึ้นฝั่งไปแล้ว แต่คำปราศรัยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.กลับตาลปัตร ขับรถลงเขา กลับมาออดอ้อนคนเสื้อแดงอีกครั้ง

พฤติกรรมแบบนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เขาหลอกใช้คนเสื้อแดงไปวันๆ เมื่อไม่จำเป็น ก็เขี่ยทิ้ง พอเห็นความสำคัญ ก็ให้ราคา ฉะนั้นเพลง รู้ว่าเขาหลอก ที่ร้องบนเวที น่าจะมอบให้คนเสื้อแดงฟัง จะเหมาะสมกว่า

" อาการกลับไปกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เหมือนคนบ้าคลั่ง ถูกขับเคลื่อนโดยกิเลสและอัตตา ไม่ปล่อยวาง และไม่เคยคิดเสียสละใดๆ ให้กับประเทศนี้ อาการแบบนี้น่าจะเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่ง ระวังจะอกแตกตายก่อนจะได้กลับบ้าน"

นายสุริยะใส กล่าวว่า สังคมไทยให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ มากมาย น่าเสียดายที่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมองว่ามันน้อยไป ถ้าวันนี้ยอมรับผิด กลับมารับคำพิพากษาศาล และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะเสริมบารมีของรัฐบาลน้องสาวได้มากมายด้วยซ้ำ และควรล้มเลิกความคิดที่อยากกลับมาอย่างเท่ๆ ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเอง เพราะ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ยังไม่ได้พิจารณาก็เกิดความแตกแยกขึ้นมาแล้ว ไม่เห็นว่ามันจะเท่ ตรงไหน

ส่วนที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แนะนำให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกันเรื่องปรองดองนั้น ถือเป็นเรื่องตลกมาก เพราะนายกฯ เอาแต่หนี ลอยตัว ถามเรื่องร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ก็บอกยังไม่ได้อ่าน แล้วจะให้ประชาชนที่คัดค้านเรื่องนี้ไปคุยกับใคร หากนายกฯและพรรคเพื่อไทย ไม่ถอนร่างฯ หรือล้มเลิกการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เชื่อว่าสถานการณ์จะยกระดับเป็นปัญหาความชอบธรรมของรัฐบาลอย่างแน่นอน และคงมีหลายกลุ่มาออกมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาล เพราะรัฐบาลมีปัญหาสะสมจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องประชาชนอยู่แล้วด้วย

** "แม้ว"ไร้สัจจะวาจา เชื่อถือไม่ได้

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่โฟนอินมาที่เวทีความจริงวันนี้ ว่า ตนไม่แน่ใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังจำคำพูดของตัวเองได้หรือไม่ เพราะวันที่โฟนอินมายังเวที สี่แยกราชประสงค์ ก็ได้ประกาศว่า จะเป็นการโฟนอินครั้งสุดท้าย แต่ในที่สุดก็กลับมาโฟนอินอีก แสดงให้เห็นว่า คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสัจจะวาจา ไม่สามารถเชื่อถือคำพูดใดๆ ได้อีกต่อไป

การออกมาโฟนอินปลุกระดมคนเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่ง และพยายามพาดพิงถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยยกสองมาตราฐานขึ้นมากล่าวหาอีก และพยายามพาดพิงถึงกลุ่มอำมาตย์ ว่าอยู่เบื้องหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า คำประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศกัมพูชา ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่มีการฝากกราบรดน้ำดำหัว อวยพรพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และอ้างว่าให้ความเคารพนับถือไม่เสื่อมคลายล้วนแล้วแต่เป็นลมปากทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่มีความจริงใจในการปรองดองแต่อย่างใด

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองว่า การผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง เป็นข้ออ้างบังหน้า ทั้งๆที่ความจริงก็ต้องการที่จะเอาทรัพย์สินจำนวน 46,730 ล้านบาท กลับคืนมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง ดังนั้นการประกาศว่า จะขอกลับมาประเทศโดยไม่เกี่ยวข้องกับการขอคืนทรัพย์สิน และเล่นการเมืองอีก จึงเป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้

**แจ้ง 5.9 พันล้าน ไม่ใช่ 6.4 หมื่นล้าน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า น่าจะเป็นการจัดรายการ " ความเท็จวันนี้ หรือต้มคนเสื้อแดง" มากกว่า โดยมีหลายประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามา เป็นการเปลือยตัวเองให้คนทั้งประเทศเห็นว่า เป็นเพียงนักปลุกระดม นักต้มตุ๋นประชาชน หากินกับความขัดแย้ง และการทุจริต คอร์รัปชัน ดังนี้

1 . พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าถูกอำมาตย์หลอก จึงอยากถามว่า ก่อนหน้านี้ มีการไปเกี้ยเซียะ กับอำมาตย์ ใช่หรือไม่ หรือมีความพยายามตกลงกับใครที่อยู่เบื้องหลัง หรือใช้น้องสาวไปแก้ปัญหา โดยติดสินบนใครอีกแล้วคิดว่าจะสำเร็จ จึงวีดีโอลิงก์มาที่แยกราชประสงค์ ขอให้ลืมเหตุการณ์ ร้องเพลงช่างแม่มัน แต่พอทำไม่ได้ เพราะไม่สามารถเดินเกมนิรโทษกรรมให้ตัวเองได้ราบรื่น รวดเร็ว ก็ยกวาทกรรมอำมาตย์ มาหลอกประชาชน

นอกจากนี้ ยังต้มคนเสื้อแดง เรื่องทรัพย์สินโดยบอกว่า ในปี 37 มีเงิน 6.4 หมื่นล้านในสมัยที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ชวนมาเล่นการเมือง นักการเมืองแสดงบัญชีทรัพย์สิน พบว่า ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเพียง 5,927 ล้านบาท เมื่อรวมกับครอบครัว จะมีทรัพย์สิน 23,878 ล้านบาท ไม่ทราบว่าเอาเงินอีก 4 หมื่นล้านจากที่อ้างว่ามีอยู่ 6.4 หมื่นล้าน ไปซุกไว้ที่ไหน แสดงว่ามีนิสัยซุกเก่ง มาตั้งแต่หนุ่มๆ

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลในปี 2544 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก พบว่ามีการแสดงบัญชีทรัพย์สินลดลง เหลือแค่ 509 ล้านบาท ในปี 48 ช่วงรัฐบาลทักษิณสอง ลดลงเหลือ 506 ล้านบาท ต่อมาในปี 49 เมื่อพ้นจากตำแหน่ง มีเงินเพิ่มเป็น 557 ล้านบาทในช่วงก่อนรัฐประหาร

" สิ่งที่ทักษิณพูด ถือเป็นใบเสร็จชั้นดีที่ออกจากปากตัวเอง แสดงให้เห็นถึงการทุจริต คอร์รัปชันชัดเจน และมีการซุกเงินไว้ที่คนรถ คนสวน จริง และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าเงิน 4.6 หมื่นล้าน เป็นของตัวเองที่ถูกปล้นไป เพราะมีทรัพย์สินก่อนเข้าการเมือง 8.6 หมื่นล้านบาทก็เท่ากับยอมรับว่า ทรัพย์สินที่กระจายตามที่ต่างๆ เป็นของตัวเองทั้งหมด" นายชวนนท์ กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์ เรื่องเงิน 46,000 ล้านบาทนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยพูดความจริงให้ครบ เพราะความจริงคือวันที่เข้ามาเล่นการเมืองครั้งแรกนั้น หุ้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของ มีมูลค่าหุ้นทั้งหมด 60,000 ล้านบาทจริง แต่ราคาหุ้นมีขึ้นมีลง วันที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี หุ้นที่ครอบครองมีจำนวนเท่าเดิม ไม่ได้ขายออกไป แต่มูลค่าหดเหลือเพียง 30,000 กว่าล้านบาท ไม่ใช่ 60,000 ล้านบาท แต่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 6 ปี มูลค่าหุ้นปรับสูงขึ้นเป็น 70,000 กว่าล้าน รวยขึ้น 46,000 ล้านบาท ดังนั้น ศาลจึงพิพากษาว่า ที่ร่ำรวยเพิ่มขึ้นนั้น เป็นการร่ำรวยผิดปกติ ผลจากการที่ระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรี มีการนำนโยบายที่เอื้อประโยชน์กับธุรกิจของตนเอง ศาลจึงพิพากษาให้เงิน 46,000 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน

** ไม่เลิกปลุกคนเสื้อแดงมาตาย

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ และ พรรคเพื่อไทย โจมตีศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีคำวินิจฉัย ระงับการลงมติรับหลักการ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยจะมีการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการสะท้อนถึงความไม่เข้าใจ และไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย ไม่มีหัวใจเป็นประชาธิปไตย ไม่เข้าใจว่ากระบวนการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย อะไรไม่ถูกใจกูไม่ได้ พร้อมกับท้าให้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้รีบยื่นถอดถอนด้วยตัวเอง โดยต้องไม่หางจุกตูด ทำคลิปขอโทษศาลขึ้นยูทูป อีก

นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มปลุกระดมให้คนเสื้อแดงเข้าใจผิดว่า ถูกกลั่นแกล้ง ก็เป็นการกำลังเอาชีวิตคนเสื้อแดงมาทิ้งกลางถนนอีก เพียงเพราะทักษิณ ไม่ได้ตามที่ต้องการ การชะลอปรองดอง ก็อ้างอำมาตย์ อ้างถูกกลั่นแกล้งปลุกคนเสื้อแดงมาตายกลางถนน ทั้งที่เป็นกฎหมายที่คนเสื้อแดงเสียประโยชน์ ตนสงสารเสื้อแดงจับใจ ที่โดน ทักษิณ ณัฐวุฒิ เหวง จตุพร หลอกซ้ำซาก กำลังจะเอาคนเสื้อแดงมาตายเพิ่ม เพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่ฆ่าคนเสื้อแดง ขอร้องพี่น้องเสื้อแดง ตาสว่างได้แล้ว อย่ายอมให้ทักษิณ ที่หวังขึ้นรถปรองดอง แต่ขึ้นไม่ได้กลับไปลงเรือของพี่น้องเสื้อแดงอีก พี่น้องอย่าทนอีกเลย กับคนแบบนี้

** พิมพ์หนังสือ 1 แสนเล่มแจก

นายชวนนท์ ยังกล่าวขอบคุณคนไทยทุกคน ที่ร่วมต่อต้านการออกกฎหมายล้างผิดคนโกง โดยมาร่วมฟังการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานคนเมือง เชื่อคนไทยเริ่มตาสว่าง ว่า เป็นกฎหมายที่จะล้มอำนาจตุลาการ ซึ่งพรรคจะเปิดเวทีให้ความรู้กับประชาชนต่อ และได้จัดทำหนังสือ “ต้านกฎหมายล้างผิดคนโกง” มีความยาว 7 หน้ากระดาษ ประกาศ 4 จุดยืนพรรค ไม่นิรโทษกรรมผู้กระทำผิดกฎหมาย ไม่คืนทรัพย์สินให้คนโกง ไม่ฟอกตัวนักการเมือง ไม่ยอมให้ย่ำยีกระบวนการยุติธรรม เพื่อแสดงจุดยืนของพรรคเกี่ยวกับเรื่องนี้ เผยแพร่ต่อประชาชน 1 แสนเล่ม โดยเปรียบเทียบกฎหมายปรองดอง หน้าปกเป็นหนังสือธรรมมะ แต่เนื้อในเป็นหนังสือโป๊ มีเนื้อหา ส.ส. นำไปแจกจ่ายในพื้นที่ และแจกหนังสือนี้ประกอบในทุกเวที.
กำลังโหลดความคิดเห็น