xs
xsm
sm
md
lg

เงื่อนไขพร้อมเพื่อแตกหัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

เห็นอำนาจเงินของเหลี่ยมร้ายหรือยัง ช่วง 3 วันของการประชุมสภาฯ บทบาทของประธานหัวสากปากครกตั้งหน้าตั้งตารับใช้อาชญากรหนีคุก ทำใด้ถึงขนาดทำลายประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติ กฎระเบียบของการเมืองระบบรัฐสภา

แปลงสถานภาพของสภาทาสเงินเหลี่ยมให้เป็นอะไรก็ไม่รู้ เหม็นเน่ายิ่งกว่าส้วมร้าง หลังจากประธานหัวสากปากครกแสดงให้เห็นการใช้อำนาจเผด็จการปิดปากสมาชิก รวบหัวรวบหาง ประชุมกรรมมาธิการ ตีความกฎหมายเอง

ไม่ฟังเสียงท้วงติงของใคร นอกจากเหลี่ยมร้ายเถ้าแก่ดูไบ! ประธานหัวสากปากครกไม่ใช่เป็นหัวหน้าซ่องโจร สภาไม่ใช่ร้านกาแฟ ศาลาข้างถนน แต่เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีหน้าที่ออกกฎหมายเพื่อประชาชน ไม่ใช่ให้คนมีสิทธิพิเศษ

แต่ประธานหัวสากปากครกยังดันทุรัง คงเป็นเพราะการได้ตำแหน่งมานั้นต้องแลกกับคำมั่นสัญญากับคนหนีคุกว่าจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมได้สำเร็จ

ไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตาย บ้านเมืองจะเสียหาย ขอให้อาชญากร พวกก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง รอดจากคดีอาญา พ้นจากคุก ได้ทรัพย์สินคืนเท่านั้น

แบบนี้สภานิติบัญญัติเลวร้ายยิ่งกว่าอั้งยี่ ซ่องโจร! สมาชิกสภาแบบนี้ ไม่ใช่ผู้ทรงเกียรติ แต่เป็นผู้ทรงเกล็ด มีทั้งระดับแตกลายงา ตะไคร่น้ำจับหนาเตอะ

ร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง 4 ฉบับ ตามแผนประธานหัวสากให้ลงคะแนนเสียง 3 วาระรวด จะทำลายระบบนิติรัฐ แปลงสภาพรัฐไทยจากความเป็นรัฐล้มเหลวโดยพฤตินัยขณะนี้ให้เป็นรัฐล้มเหลวโดยนิตินัย ไร้ความน่าเชื่อถืออย่างสมบูรณ์

อำนาจศาลภายไต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ก็ไร้ความหมาย อาชญากร โจรร้ายมีเงิน ก็จ้างผู้ทรงเกล็ดออกกฎหมายลบล้างโทษ ให้นิรโทษกรรม กระบวนการยุติธรรมระดับตำรวจ อัยการ ศาล ไม่มีความหมาย

ประเทศไทยจะเป็นรัฐไร้ขื่อแป ประชาชนขาดที่พึ่ง ต้องอาศัยความพร้อมของตัวเอง ใครมีเงินก็ตั้งกองกำลัง กองทัพส่วนตัว ไม่ต่างจากฟิลิปปินส์ยุคมาร์กอส หรือโซมาเลีย มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าพ่อ อันธพาลเกลื่อนเมือง

คิดดูแล้วน่าสมเพช พวกผู้ทรงเกล็ดในสภา สังกัดพรรคเหลี่ยมร้ายผลักดันร่างกฎหมาย “เพื่อการปรองดอง” แต่ไม่มีบรรยากาศของความปรองดองทั้งในสภา ตัวประธานหัวสากปากครกโดนรุมล้อมก่นด่าสาปแช่งทั้งเมือง

ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ประธานสภาโดนลากฉุดให้ลงจากเก้าอี้เมื่อฝ่ายค้านทนรับบทบาทเอียงกระเท่เร่ เอาใจแต่เหลี่ยมร้าย! จากนั้นมี ส.ส. ลากเก้าอี้ประธาน รองประธานออกไป แต่ ส.ส. ฝ่ายเหลี่ยมและตำรวจลากเอาคืน

วันถัดมาประธานหัวสากโดนขว้างด้วยเอกสาร หลังจากรวบรัด ยัดร่างพรบ. ปรองดองให้เข้าสภาจนได้! ข้างนอกสภา กลุ่มพันธมิตรรวมตัวคัดค้านอย่างหนัก มีกลุ่มอื่นๆ เข้าร่วม รวมคนกว่า 2-3 หมื่นคน เป็นความขัดแย้งชัดเจน

แต่ประธานหัวสากปากครกไม่แยแส ใส่ใจ จะปรองดองด้วยตัวกฎหมายไม่กี่มาตรา ทั้งที่ในสภาพความจริง การดันทุรังเสี่ยงต่อการนำไปสู่วิกฤติการเมืองรอบใหม่ การเผชิญหน้าระหว่างมวลชนต่อต้านรัฐบาลและมวลชนเสื้อแดง

สุดท้ายจะมีเหตุการณ์ต้องปะทะกันด้วยกำลังหรือไม่ ต้องรอดู!

แม่นางโพยปูโพรกเน่าใน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้น จีบปากจีบคอซ้ำซากว่าเป็นเรื่องของสภา ตัวเองไม่เกี่ยว ไม่ได้ดูเนื้อหาว่าเป็นอย่างไร! มีนายกรัฐมนตรีแบบนี้ในโลกด้วย! คงจะมีคนเดียว ประเทศเดียว

ประเทศไทยมีกรรมเวรอะไรหรือ จึงได้โคตรเหง้าตระกูลเหลี่ยมมาอยู่?

ความอุบาทว์ชาติชั่วของร่างกฎหมายปรองดองจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองโลกว่ามีแต่ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ เท่านั้นที่ยอมให้มีได้ ออกกฎหมายใหม่ ล้างคำพิพากษาให้โจร อาชญากรไม่มีความผิด

เป็นมาตรฐานเฉพาะของไทยในยุคพวกเหลี่ยมร้ายครองอำนาจ! ตัวเหลี่ยมร้ายจะมีสถานภาพเหนือกว่าใครในแผ่นดิน เกือบจะเป็นเทวดา ถ้าเหาะได้!

เมืองไทยเป็นแผ่นดินมีอารยะชน แต่ต้องตกอยู่ภายไต้ขบวนการโจรการเมือง เลี้ยงโดยอาชญากรหนีคุกมีเงินล้นฟ้าที่มาที่ไปไม่รู้แหล่ง! ถูกยึด อายัดทั้งในและต่างประเทศ แต่ไม่รู้สึกอาย เพราะโกงทั้งโคตร หน้าด้านทั้งโคตร

สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เกิดบทสรุปได้แล้วว่าสภาผู้แทนราษฎรไม่มีความหมายอีกต่อไป เป็นเพียงสภาตรายางให้อาชญากร โจรได้ออกกฎหมายตามใจชอบ! มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี ผู้นำขาดความรู้ มุ่งเดินแบบ กิจกรรมไร้สาระ

ศาลยุติธรรมมีความน่าเชื่อถือก็ถูกทำลายภายไต้กฎหมายปรองดองและรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งขบวนการโจรกำลังเร่งเดินหน้าร่าง เพียงแต่รอให้กระบวนการคัดสรรสมาชิกสภาร่าง! แต่จะถึงปลายทางหรือไม่ ยังเหลืออีกไกล

ทั้ง 2 ขบวนการ ยังมีปราการสำคัญขวาง นั่นคือ “ศาลรัฐธรรมนูญ”

การเดินหน้า ดันทุรัง ไม่ฟังเสียงประชาชนคนคัดค้าน ทำลายหลักการนิติรัฐ นิติธรรม ย่อมทำให้รัฐบาลขาดความชอบธรรมในการดำรงอำนาจต่อไป

หลักปฏิบัติของประชาธิปไตยสากลก็คือ “ประชาชนมีสิทธิ อำนาจ รวมกำลังโค่นล้ม ขับไล่รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม ให้พ้นไปได้” และหลักการนี้มีอยู่ในรัฐธรรมนูญของบางประเทศด้วยซ้ำ! นั่นคือการปฏิวัติโดยประชาชน

ไม่ใช่การรัฐประหารโดยกองทัพ ซึ่งเกิดขึ้นมามากกว่า 16 ครั้ง แต่ไม่นำพาบ้านเมืองให้หลุดรอดจากวงจรอุบาทว์! ยิ่งหัวหน้าคณะรัฐประหารคนล่าสุด “นายบัง” ทำให้การรัฐประหารตกต่ำ หน่อมแน้ม เหมือนคนปัญญาอ่อน

ทำให้แม่ทัพบกปัจจุบันนั่งสั่น ไม่กล้าอีกแล้ว เมื่อรับรู้การเสียของซ้ำซาก!

เมื่อกระบวนการอย่างอื่นล้มเหลว ก็มีแต่เหลือเงื่อนไขเดียว นั่นคือการปฏิวัติของประชาชนเพื่อล้างระบบการเมืองอุบาทว์ สร้างประเทศใหม่ให้มีที่ยืนสำหรับคนดี มีคุณธรรม กองทัพจะเข้าร่วมหรือไม่ เป็นเรื่องไร้สาระ!

มีแต่ประชาชนต้องต่อสู้เพื่อตัวเอง เพื่ออำนาจถาวร เพราะกองทัพยึดอำนาจได้แล้วไม่เคยมอบให้ประชาชน มีแต่เอาไปให้นายทุนแลกผลประโยชน์ส่วนตัว! ชัยชนะไม่ได้มาโดยง่าย ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อ น้ำตา และชีวิต!!

ถ้าต้องสู้ มีวิธีง่ายๆ ให้ทุกคนไม่ออกจากบ้าน ไม่ทำงาน ไม่จ่ายภาษี กลไกของรัฐหยุดชะงัก! ผลสุดท้าย คือการรอนับว่าใครต้องลี้ภัยตามเหลี่ยมร้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น