ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-จัดให้ตามคำขอเสียทีสำหรับ เงินเยียวยาทางการเมือง ที่ล่าสุดรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จัดพิธีมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา แถมยังจัดให้มีการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 11 ตลอดการทำพิธี
เรียกว่าทำเป็นงานใหญ่งานโต เอาหน้าเทใจให้กลุ่มคนเสื้อแดงเสียยกใหญ่ ไม่เสียชื่อที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นรัฐบาลเพื่อคนเสื้อแดงเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงนั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบเงินเยียวยาสำหรับผู้เสียชีวิตรายละ 7.75 ล้านบาท แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำตามสัญญาให้คนเสื้อแดงเสียที จนนางพะเยาว์ อัคฮาด และนายณัทพัช อัคฮาด แม่และน้องชาย น.ส.กมนเกด ฮัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม พร้อมด้วยญาติพี่น้องของผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เกิดของขึ้นออกมาถล่มรัฐบาล แถมด่าเทสาดเทเสียว่าเหตุใดถึงต้องเลื่อนไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กระทั่งประสบความสำเร็จเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยเหตุที่เลื่อนไปเลื่อนมาก็เป็นเพราะไม่มั่นใจว่ามีข้อกฎหมายรองรับการจ่ายเงินหรือไม่
เฉกเช่นเดียวกับพิธีจ่ายเงินที่ในครั้งแรกนั้น ตามกำหนดการเดิมประธานในพิธีคือนายกฯนกแก้ว-นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะมามอบเช็คเงินสดแก่ผู้ได้รับเงินเยียวยาด้วยตนเอง โดยนายธงทอง จันทรางสุ ปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการเยียวยาทางแพ่งและฟื้นฟูด้วยวิธีอื่นๆ ของคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ออกมาแถลงชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นประธานมอบเงินเยียวยาในรอบแรก 522 ราย คิดเป็นเงิน 577 ล้านบาท
แต่ในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน โดยสำนักโฆษกฯ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความสั้นผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) มายังสื่อมวลชนแจ้งว่า เปลี่ยนแปลงกำหนดการดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ “นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาแทน
ทั้งนี้ ว่ากันว่า สาเหตุที่นายกฯ นกแก้วเปลี่ยนใจกะทันหัน เป็นเพราะติดขัดปัญหาเรื่องเดิมๆ คือนายกฯ นกแก้วกลัวติดคุกเพราะไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ผิดกฎหมายหรือไม่ จึงมอบให้ยาสามัญประจำบ้านอย่างนายยงยุทธรับหน้าเสื่อแทน
สำหรับบุคคลสำคัญที่ทำให้นายกฯ นกแก้วลังเลก็เห็นจะหนีไม่พ้น นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งออกมากล่าวเตือนรัฐบาลถึงเรื่องนี้ก่อนที่การจ่ายเงินจะเริ่มต้นไม่กี่วันว่า “นโยบายจ่ายเงินเยียวยากว่า 7 ล้านบาท ถามว่าเอาเงินมาจากไหน มีกฎหมายรองรับหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจ่ายไปแล้วไม่ถูกกฎหมายก็เรียกคืน รัฐบาลอย่าคิดว่าทำได้ไม่ผิดกฎหมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคดีหวย 2 ตัว 3 ตัว”
แน่นอน ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างร้ายกาจ ที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ สบโอกาสมาแจกเงินเยียวกันถึงมือ ณ ตอนนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร สละเรือเตรียมจูบปากอำมาตย์ ส่งสัญญาณผ่านการวิดีโอลิงก์จากประเทศจีนเข้ามาที่เวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 เพื่อขอให้ญาติคนเสื้อแดงที่ตายหรือได้รับบาดเจ็บเสียสละด้วยการยอมรับการปรองดอง ด้วยการขอให้ลืมการไล่ล่าตามหาคนสั่งฆ่ามารับโทษนั้น คนเสื้อแดงแท้ๆ จึงสมควรที่จะต้องยอมรับ
เล่นทำเอาคนเสื้อแดงเป็นโรคเบื่อทักษิณเป็นการใหญ่ ที่อยู่ดีๆ จะให้สาวกคนเสื้อแดงที่เคยราวีมาอย่างยาวนานกับฝ่ายอำมาตย์ มาทำตามข้อเรียกร้องของนายใหญ่ที่ต้องการให้ผู้สนับสนุนยอมรับกับกระบวนการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดองและตัวเองจะได้กลับบ้าน
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นช.ทักษิณได้ใช้ไม้ตายอันถนัดของเขาก็คือ การตลาดนำการเมืองเช่นเดิม โดยการรีบให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อนุมติแจกเงินเยียวให้คนเสื้อแดงโดยไวเพื่อที่จะสามารถอุดปากคนเสื้อแดงได้บ้าง
อย่างนี้แล้วคงต้องบอกว่าไม่เรียกถูกหลอกใช้ ถีบหัวส่งก็ไม่รู้ว่าจะหาประโยคใดมาเปรียบเทียบ
อย่างไรก็ตาม ที่ทีเด็ดกว่านั้นก็คือ นายกฯขวัญใจไพร่แดง อย่าง 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ก็สร้างความแปลกประหลาดใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศด้วยการประกาศจะน้อมกล้าฯ ถวายที่ดินบริเวณทุ่งมะขามหย่อง จำนวน 7 ไร่ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ในการเสด็จพระราชดำเนิน ณ ทุ่งมะขามหย่อง และทุ่งภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันศุกร์ที่ 25 พ.ค.2555 ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นแปลงนาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงเกี่ยวข้าว เมื่อครั้งเสด็จเยือนเมื่อปี 2539
โดยยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ การถวายครั้งนี้ เป็นการถวายในนามของครอบครัวชินวัตร ซึ่งจริงๆแล้ว ที่นี้เป็นที่ดินประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่บริเวณใกล้กับทุ่งมะขามหย่อง และเราก็อยากรักษาไว้ รอให้เรียบร้อยก่อน ค่อยเปิดเผยรายละเอียดในภายหลัง”
ก่อนที่จะพลิกลิ้นอันสร้างความงุนงงของคนทั้งประเทศว่า ไม่ใช่น้อมเกล้าฯ ถวายในนามครอบครัวชินวัตร แต่น้อมเกล้าฯ ถวายในนามส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเอง
ว่ากันว่านับเป็นความตั้งใจอย่างยิ่งของคนตระกูลชินวัตรที่จะเดินเรื่องเพื่อนำที่ดินผืนนี้มาถวายฯ โดยข่าวจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์รายงานอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นตัวกลางในการเดินเรื่องซื้อที่ครั้งนี้คือ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้ประสานไปยังกรมที่ดินให้ติดต่อกับ 'ตระกูลเตชะศิริวรรณ' เจ้าของที่ดินในปัจจุบัน เพื่อขอซื้อพื้นที่แปลงดังกล่าว ให้แก่นายกฯยิ่งลักษณ์
แน่นอน คงไม่ต้องหาคำอธิบายใดๆ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพราะความจริงที่ปรากฏย่อมมีคำตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว