ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปู"ชิ่ง หนีร่วมงานแจกเงินเยียวยาเหยื่อการเมือง อ้างติดภารกิจขึ้นเหนือ วงในเผยกลัวทำผิด เหตุไม่มีกฎหมายรองรับ มอบ"ยงยุทธ"มวยแทน และกล่อมครอบครัว "น้องเกด-น้องเฌอ" รับเงินเยียวยา 7.2 ล้าน หวังปิดปากอย่าโวยอีก ยันเปิดทางให้ฟ้องบุคคลได้ แต่ห้ามฟ้องรัฐ ด้านคนรัฐบาลดาหน้าโต้ มั่นใจไม่ขัดกฎหมาย
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (24 พ.ค.) ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) พร้อมพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับฟังข้อเรียกร้องและทำความเข้าใจถึงเงื่อนไขการฟ้องร้องทางแพ่ง นอกเหนือจากเงินเยียวยาที่ได้รับจากรัฐบาลต่อครอบครัวของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมลเกด อัคฮาด หรือ "เกด" พยาบาลอาสา และครอบครัวของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ “เฌอ” ที่เสียชีวิตบริเวณซอยรางน้ำในระหว่างการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อเดือน พ.ค.2553 โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น นายยงยุทธได้เปิดเผยว่า เรื่องการฟ้องร้องดังกล่าว ตนได้ทำความเข้าใจแล้ว และจะมาพูดแต่ข้อกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพูดถึงความเข้าใจด้วย จากการพูดคุยครั้งนี้ ครอบครัวของน.ส.กมลเกด ยอมรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลแล้ว และจะไม่ฟ้องร้องหน่วยงานภาครัฐอีก
ด้านนายสมพาส นิลพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจตรงกันแล้วว่าการจะไปฟ้องร้องทางแพ่งหรืออาญาเป็นรายบุคคลสามารถทำได้เลย ไม่ได้ห้าม แต่ที่ไม่เข้าใจกัน เพราะเขาเข้าใจว่ารัฐบาลตัดสิทธิ แต่เมื่อชี้แจงก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องไม่ใช่ฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะเป็นเงินกระเป๋าเดียวกัน ส่วนเขาจะฟ้องร้องใครบ้าง ก็เป็นสิทธิของเขา ซึ่งมารดาของน.ส.กมลเกดก็เข้าใจและยินดีรับเงินเยียวยา 7.2 ล้านบาทแล้ว
นางพะเยาว์กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลได้ชี้แจงอธิบายในสิ่งที่เขาไม่เคยอธิบายต่อประชาชนเลยว่ามีรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆอย่างไรบ้าง ทำให้พวกตนเข้าใจแล้ว และเรารับได้ อีกทั้งเรายังมีสิทธิฟ้องทางแพ่งได้ ส่วนจะฟ้องใครบ้างนั้นต้องขอปรึกษาทนายความก่อน สำหรับปัญหานี้ เกิดจากความไม่เข้าใจและการไม่สื่อสารในรายละเอียดให้ประชาชนรับทราบตั้งแต่แรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น ช่วงเช้า ที่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี สถานที่ลงทะเบียนรับเงิน นางพะเยาว์ รวมตัวกันกล่าวตำหนิ นายธงทอง เนื่องจากเห็นว่า ในขั้นตอนการรับเงินต้องเซ็นยินยอมไม่ดำเนินคดีทางแพ่ง หรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ กับรัฐอีก ถือเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชน ดังนั้น จะยังไม่รับเงินจนกว่ารัฐบาลจะให้ความชัดเจนว่าผู้ได้รับผลกระทบยังสามารถดำเนินคดีทางแพ่งได้หรือไม่
ช่วงสายนางพะเยาว์ และนายณัทพัช อัคฮาด ได้เดินทางมาพบ นายธงทอง เพื่อสอบถามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ก่อนที่จะมีการปะทะคารมกันโดยไม่เข้าใจเกณฑ์จ่ายเยียวยาเหยื่อการเมืองของรัฐ นอกจากนี้ ยังจี้ให้รัฐบาล และกองทัพ แถลงขอโทษผู้สูญเสียแทนรัฐบาลอภิสิทธิ์
**จ่ายแล้วเหยื่อม๊อบตายได้2ส่วน
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายยงยุทธ ซึ่งรับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองตามหลักมนุษยธรรม โดยมีนายสันติ นายธงทอง จันทรางศุ และนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย มาร่วมงาน
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากความรุนแรงทางการเมืองตามหลักมนุษยธรรมครั้งนี้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีผู้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาทั้งสิ้น 5,885 ราย และมีผู้ผ่านการตรวจสอบรับเงินเยียวยางวดแรกจำนวน 524 ราย แยกเป็น 5 ประเภท คือ ผู้เสียชีวิต จำนวน 44 ราย ผู้ทุพพลภาพ 6 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส 58 ราย ผู้บาดเจ็บ 177 ราย ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 239 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 577,663,079 บาท โดยผู้ได้รับเงินเยียวยา จะได้รับเป็น 2 ส่วน แบ่งเป็นเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และสั่งจ่ายจำนวนเงินที่เหลือในรูปแบบสลากออมสิน มีเพียงผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งจะได้รับเช็คเงินสดเต็มจำนวน 7,750,000 บาทในกรณีที่เสียชีวิต
ทั้งนี้ การจ่ายเช็คเงินสด เบื้องต้นผู้ที่มีรายชื่อ แต่แสดงเจตจำนงค์ว่าจะไม่รับเงินยังไม่มี รวมไปถึงกรณีของภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ด้วย
**ปูชิ่งไม่ยอมร่วมงานแจกเงินเยียวยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาดังกล่าว โดยจะมีการถ่ายทอดสดพิธีดังกล่าวผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือช่อง 11 แต่หลังจากนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขู่ว่าหากมีการจ่ายเงินดังกล่าว ก็จะยื่นเรื่องเอาผิดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทันที เนื่องจากใช้เงินภาษีโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้มีการแจ้งยกเลิกหมายดังกล่าวผ่านข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส มายังสื่อมวลชนว่าขอเปลี่ยนแปลงเป็นนายยงยุทธ เป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาแทน
โดยเหตุผลที่นายกรัฐมนตรี ไม่มาเป็นประธานในการมอบเงินเยียวยา เพราะมีที่ปรึกษาบางฝ่ายติงว่านอกจากยังไม่ชัดเจนเรื่องระเบียบและข้อกฎหมายรองรับแล้ว การจ่ายเงินเยียวยางวดแรกนี้ ก็ยังไม่สามารถจ่ายได้ทั้งหมดและยังไม่ครบ อาจทำให้เกิดความไม่พอใจของครอบครัวผู้เสียหายด้วย นายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรที่จะเป็นผู้มอบ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีมีภารกิจในการเดินทางร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในการเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองทัพบก ในโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ ที่บ้านนาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แทน และอาจจะเดินทางกลับมาไม่ทันงานดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ที่ ขส.ทบ. นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาติงว่าการจ่ายเงินเยียวยาอาจขัดต่อหลักข้อกฎหมาย โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงว่าวันนี้ไปปลูกป่า
**เรียงหน้าโต้มั่นใจไม่ขัดกฎหมาย
นายยงยุทธกล่าวก่อนหน้าว่า การจ่ายเยียวยาไม่ผิดกฎหมาย ผู้เสียหายยังสามารถฟ้องอาญาได้ และแม้จะไม่มีกฎหมายรองรับ ก็เหมือนกับการจ่ายเงินช่วยน้ำท่วม ส่วนที่ต้องมีถ่ายทอดสด เพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนทั้งประเทศให้รับทราบ
เวลา 16.30 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวที่พรรคเพื่อไทยว่า มีการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว เพราะทำตามาระเบียบการเยียวยาไม่ต่างจากในอดีต ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจเจตนารมณ์รัฐที่ต้องการเริ่มต้นสร้างความปรองดอง และจะเยียวยาทุกกลุ่ม และเตรียมที่จะจ่ายเยียวยาเหยื่อไฟใต้เร็วๆ นี้ด้วย
จากนั้น เวลา 16.45 น. นายธงทอง กล่าวว่า เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วว่า มีอำนาจตามพ.ร.บ.งบประมาณสั่งจ่ายเยียวยา ดังนั้น ปคอป. ก็แค่เสนอความเห็น ไม่ใช่จ่ายเงิน แต่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เป็นหน่วยเบิกจ่าย เพราะในอดีตเคยจ่ายเยียวยาเหตุปะทะทางการเมืองมาหลายครั้งลักษณะเดียวกัน ส่วนกรณีของแม่น้องเกดนั้น ได้รับเงินเยียวยา โดยไม่ตัดสิทธิฟ้องอาญา ฟ้องแพ่งบุคคล แต่ห้ามฟ้องแพ่งต่อส่วนราชการ
**ซัดรัฐบาลเยียวยาผิดเกณฑ์ คอป.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะดูจะสับสน เนื่องจากมีผู้ได้รับ 522คนจากที่ลงทะเบียนไว้ 1,000 กว่าคน และมีข่าวที่ค่อนข้างสับสนว่าอัตราที่จ่ายจะเป็นอย่างไร แต่ความจริง เห็นว่าแนวทางที่เหมาะสม คือ สิ่งที่ คอป. ได้พูดขึ้นมาว่าแทนที่จะเป็นเงินก้อน น่าจะเป็นเรื่องการเข้าไปดูแลครอบครัว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียในลักษณะที่เป็นรายเดือนหรือประจำมากกว่า เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่สามารถบรรเทาผลกระทบจากการสูญเสียได้ ทั้งนี้ ได้เตือนมาตลอดว่าหากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง และเร่งรีบจ่ายเงินไปแล้วทำให้เกิดความรู้สึกกลับกลุ่มอื่นๆอีก ก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องความปรองดอง
ส่วนที่รัฐได้จ่ายเงินเยียวยาโดยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการค้นหาความจริงนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการ กลายเป็นเรื่องของการเมืองไปหมด และขั้นตอนต่าง ๆ ก็ไม่ได้เดินตามแนวทางหรือแผนความปรองดองที่ถูกต้อง ที่จะต้องเริ่มจากการค้นหาความจริงก่อน
**อัด"มาร์ค-สาธิต"ขวางปรองดอง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดนายยงยุทธ ว่า การไปยื่นต่อป.ป.ช.ของนายสาธิตนั้นเป็นแค่เกมการเมืองที่พยายามจะลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและนายยงยุทธ การจ่ายเงินเยียวยา ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ดังนั้น อย่าทำเหมือนเป็นไอ้เข้ขวางความปรองดองหรือทำตัวเป็นศัตรูของประชาชน
**ป้อง”แม้ว”ไม่เคยซูเอี๋ย”อำมาตย์”
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงวันอาทิตย์ และ บก. ลายจุด ออกมาระบุว่า พ. ต.ท.ทักษิณ มีการพูดคุย และไปซูเอี๋ยกับฝ่ายอำมาตย์เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้คุยกับทางอำมาตย์ อย่าไปคิดเอาเอง เป็นแค่การแสดงท่าที เหมือนกับรถไฟ เมื่อมีทางเส้นขนานก็ต้องมีการตัดกันบ้าง และมาพบกัน เป็นการแสดงท่าทีที่ดีที่เป็นบวก อย่าไปคิดว่าไปซูเอี๋ยกัน วันนี้ ถ้าไม่คุยกันก็เป็นแบบนี้ ทั้งนี้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องปรองดอง เพราะนายกรัฐมนตรี ได้ให้เป็นนโยบายและต้องทำแน่ และท่านต้องเดินให้มั่นคง
**ลายจุดแนะเอารูป "แม้ว" ออก
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงต่อไป อย่าเอารูปคุณทักษิณหรือใครขึ้นมาชูอีก ควรหยุดลัทธิบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้แล้ว ก่อนหน้านี้เขาอาจรักใคร่ เพราะเห็นว่าเป็นเหยื่อความไม่เป็นธรรมด้วยกันมา แต่ตอนนี้ เมื่อเขาถึงสถานีแล้วก็ขอให้โชคดี ส่วนการจัดเวทีของตนไม่เคยมีรูปคุณทักษิณมาเป็นแบ็กกราวด์เลย ส่วนตัวก็ไม่เคยมีเสื้อคุณทักษิณเช่นกัน เราโฟกัสไปที่ประชาชน ประชาธิปไตยล้วนๆ เชื่อมั่นว่าประชาชนจะทำได้
