ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเมิน ปชป.ฟ้อง ป.ป.ช.สอบรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาไม่มี กม.รองรับ ยันถกเลขาฯ กฤษฎีกาแล้ว ลั่น ครม.มีอำนาจตาม พ.ร.บ.งบประมาณ ปคอป.แค่เสนอความเห็น แต่ พม.เป็นหน่วยเบิกจ่าย เผยแม่น้องเกดสบายใจหลังรู้ว่าไม่โดนตัดช่องฟ้องทางแพ่งในรายบุคคล
วันนี้ (24 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเยียวยาทางแพ่งและการฟื้นฟูด้วยวิธีการอื่น กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในประเด็นที่รัฐบาลไม่มีกฎหมายรองรับการจ่ายเงินเยียวยาว่า การจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือลักษณะนี้ไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก ในเหตุการณ์ที่มีเหตุกระทบกระทั่งทางการเมืองหลายครั้งในชั่วชีวิตที่ผ่านมา เราก็มีการจ่ายเงินในลักษณะเดียวกันอย่างนี้มาหลายครั้งหลายรัฐบาล และเงินที่จ่ายก็จ่ายจากงบประมาณแผ่นดินในส่วนที่เป็นงบกลาง ซึ่งเป็นดุลพินิจของฝ่ายบริหารที่เห็นว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนฉุกเฉินตามเงื่อนไขที่จ่ายได้ตามกฎหมาย
นายธงทองระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้สนทนากับนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยนายอัชพรได้ให้ความเห็นในที่ประชุมว่าไม่ต่างจากการจ่ายเงินช่วยเหลือน้ำท่วม ซึ่งไม่ต้องไปออกกฎหมายที่ไหนมาสักฉบับ เพียงแค่มีมติ ครม.ก็จ่ายชดเชยน้ำท่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน 5 พันบาท หมื่นบาท หรือล้านบาท หรือ 2 ล้านบาท ถ้าจะผิดกฎหมายก็ผิดเท่ากัน สำคัญคือฐานทางกฎหมายวิธีคิดจะคิดอย่างไร
“เรื่องนี้จ่ายจากงบกลาง ซึ่งมี พ.ร.บ.งบประมาณให้อำนาจฝ่ายบริหารดำเนินการได้ และไม่ใช่การดำเนินการครั้งแรก ผมก็ได้ตรวจสอบกฎหมายและในอาชีพที่เรียนมาก็ต้องดู ไม่ปรารถนาจะไปทำผิดกฎหมายอะไรกับใคร เรียนว่าไม่มีความหนักใจในส่วนนี้ แต่ใครที่มีความกังวลสงสัย มีความประสงค์จะใช้สิทธิสอบถามหรือดำเนินการอะไรที่จะสอบถามเรื่องนี้ เราก็ต้องพร้อมที่จะรับการตรวจสอบ ส่วนมูลเหตุที่ชี้ว่า ปคอป.ไม่ใช่นิติบุคคล ไม่มีสิทธิกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเยียวยานั้น ขอชี้แจงว่า ปคอป.ซึ่งเป็นคณะกรรมการของรัฐบาล เป็นเพียงผู้เสนอความเห็นต่อ ครม. ดังนั้น การจ่ายเงินก็จ่ายโดยมติ ครม. และคนที่จ่ายเงินก็ไม่ใช่ ปคอป. แต่เป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช็คที่สั่งการก็ลงนามโดยอธิบดี พม. ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมไม่หนักใจ และพร้อมที่จะให้คำอธิบายชี้แจง” นายธงทอง ระบุ
นายธงทองกล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน้องเกดนั้น ตอนแรกมีความกังวลว่าหากลงนามในแบบฟอร์มเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งคณะทำงานเตรียมไว้ให้เพื่อที่จะไม่ดำเนินการในทางคดีแพ่งต่อส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐต่อไป และรับเงินเยียวยาไปแล้วจะไปตัดโอกาสพิสูจน์หาความจริงเพื่อให้ได้ความจริงประจักษ์ว่าใครต้องรับผิดชอบต่อความตายของน้องเกด ทั้งนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงให้ทราบแล้วว่า แบบฟอร์มเอกสารดังกล่าวพูดถึงเรื่องเงินค่าเสียหายจากหน่วยงานของรัฐในทางคดีแพ่งเท่านั้น แต่ไม่ตัดหนทางหรือโอกาสที่จะดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลเพื่อพิสูจน์ความจริงต่อไป และการฟ้องร้องคดีแพ่งกับตัวบุคคลก็ยังสามารถดำเนินการได้ เพียงแต่มีการสละสิทธิในการฟ้องคดีแพ่งต่อหน่วยงานของรัฐเท่านั้น
“เมื่อได้พูดกันอย่างนี้แล้วแม่น้องเกดก็เข้าใจ และลงนามในแบบฟอร์ม พร้อมทั้งเข้ามารับเงินในพิธีมอบเงินในวันนี้ด้วย อีกทั้งนายยงยุทธก็ได้ยืนยันแล้วว่าการรับมอบเงินเยียวยาจะไม่ตัดสิทธิ ไม่ตัดโอกาสที่จะฟ้องคดีอาญากับใครก็แล้วแต่ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความตายของน้องเกด และแม้กระทั่งการฟ้องแพ่งกับตัวบุคคล เมื่อได้คุยกันแล้วสบายใจก็เข้าใจตรงกัน และจะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคน” นายธงทองระบุ