หนุ่มวิน จยย.รัว 9 มม.ใส่ตำรวจชุดจู่โจม สน.พญาไทเจ็บ 1 รายขณะขอเข้าตรวจค้น ก่อนหนีไปซ่อนในโรงแรม ตำรวจยกกำลังปิดล้อมแต่ถูกยิงใส่อีก 2-3 นัด สุดท้ายไม่รอดถูกลากคอพร้อมอาวุธปืนของกลาง โดนข้อหาหนักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เผยประวัติเคยถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกายและยาเสพติดมาก่อน
วันนี้ (24 พ.ค.) ร.ต.อ.สุดประเสริฐ หลัดกอง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บขณะพยายามเข้าจับกุมคนร้ายที่บริเวณหน้าศูนย์ซ่อมรถเบนซ์และอะไหล่ ตั้งอยู่เลขที่ 2/11 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รอง ผบก.น.1, พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท, พ.ต.ท.กฤษณะ สุกันทะ พ.ต.ท.พีรวัส ประสาทกลาง สว.สส.สน.พญาไท เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าศูนย์ซ่อมรถเบนซ์และอะไหล่ เจ้าหน้าที่พบ ด.ต.ธนายุทธ คุ้มมูล อายุ 37 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.พญาไท ช่วยงานชุดจู่โจม สน.พญาไท แต่งกายนอกเครื่องแบบ นอนจมกองเลือดอยู่ข้างจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-น้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของเจ้าตัวที่ล้มคว่ำอยู่ มีบาดแผลถูกยิงที่หัวเข่าซ้ายทะลุน่อง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก เสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างต้นซอยรางน้ำ เบอร์ 4 ตกอยู่ 1 ตัว นอกจากนี้ ที่บริเวณหน้าปากซอยรางน้ำฝั่งถนนพญาไทยังพบกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 นัด และจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน สษฉ 925 กทม.ของคนร้ายจอดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าคนร้ายที่หลบหนีไปซ่อนในโรงแรมกรุงไทย อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร จึงนำกำลังปิดล้อมจับกุม แต่คนร้ายยังพยายามยิงปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2-3 นัด สุดท้ายเจ้าตัวเห็นว่าหนีไม่รอดแน่นอนจึงมุดหนีเข้าไปอยู่ที่ใต้ท้องรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กน-2246 สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเอาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อนไว้ที่ใต้ท้องรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเศกสิทธิ์ ยอดย้อย อายุ 27 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 173/12 หมู่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติกยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 มม. สีดำ ทะเบียน กท 5111314 ที่ซ่อนไว้ใต้ท้องรถคันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีลูกกระสุนคารังเพลิง 1 นัด และในแมกกาซีนอีก 1 นัด
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเศกสิทธิ์ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยคนยิงคือเพื่อนที่ชื่อนายเอ็ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง แต่ยอมรับว่าพยายามวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงแรมจริง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายอดุลย์ เจริญเขต อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารแห่งหนึ่ง ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาตรวจค้น ด้วยความตกใจตนจึงทิ้งจักรยานยนต์ของตัวเองไว้แล้ววิ่งหนีเข้าไปในซอยรางน้ำ จากนั้นก็เห็นนายเอ็มที่ยืนอยู่บริเวณปากซอยเป็นคนยิง ด.ต.ธนายุทธ ส่วนตนหนีเข้าไปอยู่ในโรงแรมเท่านั้นไม่ได้เป็นคนยิงแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายเศกสิทธิ์ เนื่องจากมีพยานเห็นว่า เจ้าตัววิ่งหนีตำรวจมาเพียงลำพังคนเดียว และเป็นคนชักปืนยิง ด.ต.ธนายุทธจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จึงทำการตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ ก่อนคุมตัวไปค้นที่ห้องพักเลขที่ 124 แฟลตนิธิจามร ซอยหมอเหล็ง แขวงและเขตดินแดง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากนั้นจึงคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพักอีกครั้ง โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นคนยิง ด.ต.ธนายุทธจริง สำหรับปืนที่ก่อเหตุเป็นของนายเอ็มที่เอามาขายให้ในราคา 50,000 บาท โดยนายเอ็มนำปืนมาให้ลองพกดูก่อน แต่มาโดนตำรวจขอตรวจค้นจึงชักปืนยิงต่อสู้เนื่องจากกลัวความผิด
ด้าน นายอดุลย์ เจริญเขต อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเศกสิทธิ์ซึ่งขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างอยู่วินหน้าร้านปลาทองหมูกระทะ ปากซอยรางน้ำ มาชวนตนดื่มเบียร์ด้วย พร้อมทั้งโชว์ปืนกระบอกดังกล่าวให้ดู จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่จักรยานยนต์กันมาหลายคันก่อนจะเข้ามาขอตรวจค้น นายเศกสิทธิ์จึงตกใจกลัวทิ้งรถแล้ววิ่งหนีไปทันที หลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จนกระทั่งทราบว่านายเศกสิทธิ์พยายามยิงต่อสู้และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.พีรวัสกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม สน.พญาไท จำนวน 5 นายได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่ จนกระทั่งมาพบนายเศกสิทธิ์กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายอดุลย์จึงขอเข้าตรวจค้นตามปกติ แต่นายเศกสิทธิ์กลับวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่เข้าไปในซอยรางน้ำ ขณะนั้นเอง ด.ต.ธนายุทธขี่จักรยานยนต์ไล่ตามมาทัน นายเศกสิทธิ์เห็นจวนตัวจึงถอดเสื้อวินออกแล้วชักปืนออกมาพยายามยิงใส่ จังหวะนั้น ด.ต.ธนายุทธได้ทิ้งตัวแล้วไถลรถไปกับพื้นเพื่อป้องกันตัวเอง แต่นายเศกสิทธิ์ก็ยังยิงใส่ ด.ต.ธนายุทธ กระสุนถูกหัวเข่าซ้าย ด.ต.ธนายุทธจึงชักปืนยิงสวนไป 1 นัด จากนั้นนายเศกสิทธิ์ก็รีบวิ่งหนีเข้าไปในโรงแรมกรุงไทย ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไทจะตามมาสมทบจึงเข้าปิดล้อมและจับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนปืนนั้นเป็นปืนที่มีทะเบียนจะตรวจสอบว่าเป็นปืนของใครและนายเศกสิทธิ์ได้มาอย่างไร พร้อมทั้งจะติดตามนายเอ็มตามที่นายเศกสิทธิ์กล่าวอ้างด้วยว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
พ.ต.ท.พีรวัสกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัตินายเศกสิทธิ์ พบว่าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราณบุรี จับกุม 2 ครั้งในข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหาไม่ไปตรวจรับการคัดเลือกการเกณฑ์ทหาร จากนั้นก็ถูก สน.ดินแดง จับกุมข้อหาเสพยาเสพติด 2 ครั้ง ในช่วงปี 53 และต้นปี 55 โดยเจ้าตัวเพิ่งจะออกมาจากสถานบำบัดได้ไม่นาน เบื้องต้นแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป