ไทยพาณิชย์สินเชื่อบ้านไตรมาสแรกพุ่งโต 30% คาดช่วงที่เหลือยังแข่งดุ แนวโน้มดบ.ปรับขึ้น 0.50% จากต้นทุนของธนาคารที่เพิ่มขึ้น ส่วนราคาบ้านยังตรึงไว้ หันลดขนาด ลดโปรโมชั่น
นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่าน ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ได้ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 80,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30% ซึ่งจะทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคาร ณ สิ้นปี 2555 เท่ากับ 360,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดคงค้าง 325,000 ล้านบาท
"สินเชื่อบ้านในช่วงไตรมาสแรกถือว่าเติบโตได้มากกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าระบบจะขยายไม่มากนัก เนื่องจากในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เราได้ลงพื้นที่อย่างหนัก ทำให้ลูกค้าเห็นว่า ธนาคารไม่เคยทิ้ง ลูกค้าก็ยังเชื่อมั่นที่จะอยู่กับเราและมีลูกค้าที่เห็นก็เข้ามาเพิ่ม โดยสินเชื่อที่ขอเข้ามาเป็นส่วนของคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งก็เพราะน้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อน และจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้มาเก็ตแชร์ของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 31% จากเดิม 30% แต่ยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่วางไว้"
สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนั้น ประเมินว่าราคาที่อยู่อาศัยน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้างหรือราคาเชื้อเพลิง ขณะที่การแข่งขันของสินเชื่อบ้านก็จะรุนแรงอยู่ แต่อาจจะแข่งขันราคาน้อยลง เนื่องจากต้นทุนของธนาคารที่เพิ่มขึ้นหลังจากต้องเพิ่มเงินนำส่งให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ทั้งนี้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านจะขึ้นอีก 0.50% ซึ่งจะทำให้ค่างวดเพิ่มขึ้น 400 บาทต่อเดือน รวมถึงโปรโมชั่น 0% ก็จะน้อยลงหรืออาจจะหายไปเลยก็ได้
ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็จะต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน โดยอาจจะยังตรึงราคาบ้านไว้ในระดับเดิม แต่ปรับขนาดบ้านให้เล็กลง หรือลดโปรโมชั่นต่างๆลง เพื่อให้ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อได้ เนื่องจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงสุดมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่าน ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ได้ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 80,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30% ซึ่งจะทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคาร ณ สิ้นปี 2555 เท่ากับ 360,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดคงค้าง 325,000 ล้านบาท
"สินเชื่อบ้านในช่วงไตรมาสแรกถือว่าเติบโตได้มากกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าระบบจะขยายไม่มากนัก เนื่องจากในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เราได้ลงพื้นที่อย่างหนัก ทำให้ลูกค้าเห็นว่า ธนาคารไม่เคยทิ้ง ลูกค้าก็ยังเชื่อมั่นที่จะอยู่กับเราและมีลูกค้าที่เห็นก็เข้ามาเพิ่ม โดยสินเชื่อที่ขอเข้ามาเป็นส่วนของคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งก็เพราะน้ำท่วมในช่วงปลายปีก่อน และจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้มาเก็ตแชร์ของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 31% จากเดิม 30% แต่ยังไม่มีการปรับเป้าหมายที่วางไว้"
สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนั้น ประเมินว่าราคาที่อยู่อาศัยน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้างหรือราคาเชื้อเพลิง ขณะที่การแข่งขันของสินเชื่อบ้านก็จะรุนแรงอยู่ แต่อาจจะแข่งขันราคาน้อยลง เนื่องจากต้นทุนของธนาคารที่เพิ่มขึ้นหลังจากต้องเพิ่มเงินนำส่งให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ทั้งนี้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านจะขึ้นอีก 0.50% ซึ่งจะทำให้ค่างวดเพิ่มขึ้น 400 บาทต่อเดือน รวมถึงโปรโมชั่น 0% ก็จะน้อยลงหรืออาจจะหายไปเลยก็ได้
ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็จะต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน โดยอาจจะยังตรึงราคาบ้านไว้ในระดับเดิม แต่ปรับขนาดบ้านให้เล็กลง หรือลดโปรโมชั่นต่างๆลง เพื่อให้ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อได้ เนื่องจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงสุดมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง