โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ในโลกนี้ย่อมมีของคู่กันและแก้กัน สินค้าราคาแพงกำลังเผชิญกับพลังร้านค้าของถูกจัดโดยลูกน้องเหลี่ยมร้าย ภัยแล้งกว่า 50 จังหวัดส่วนหนึ่งโดนฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก
มี “ตู่แดง” ต้องเจอ “หลอง เรี่ยวแรง” มี “เหลิม บางบอน “ก็ต้องมี “นะคะมวย”
อืมม์... ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามกฎแห่งกรรมและเวรที่แต่ละฝ่ายได้ก่อไว้! ความหิว อดอยาก ลำบากแร้นแค้นทำให้คนหูตาสว่าง จากที่เคยเป็นเหยื่อความปลิ้นปล้อนกะล่อนทองของนักการเมืองสารเลว บัดนี้พวกรากหญ้าไกล้รากเลือดได้รู้ซึ้งถึงความจริง
เศษเงินไม่กี่ร้อยบาท ขายเสียง ขายสิทธิ ขายตัวให้นักการเมืองบัดซบ ทำให้ตัวเองมีราคาต่ำกว่าหมาไทยถูกจับไปขายให้คนเวียดนามกิน! ทุกข์เข็ญ ลำเค็ญยากจนเลือดตาแทบกระเด็น ทำงานมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง คือผลลัพธ์ของการถูกหลอก
นักการเมืองพรรคเพื่อเหลี่ยมร้ายแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาไม่รู้สึกถึงความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ประธานสภาหัวสากเถิกดื้อด้านจัดประชุมสภาไม่เลิกรา เหมือนต่อมขยันทำงานล่วงเวลา เร่งล้มล้างรัฐธรรมนูญไม่ลืมหูลืมตา เป็นทาสซื่อสัตย์ต่อเงินเหลี่ยม
ชาวบ้านอกไหม้ไส้ขม โดนหลอก ได้ฟังคำแหลแบบหน้าด้านๆ ของเสนาบดีขี้ฉ้อ ทำให้รู้ว่าสัญญาแบบลมๆ แล้งๆ นั้นไร้ความหมายเหมือนสุนัขผายลมยามท้องเฟ้อ
ด้วยเหตุนี้ จึงมีปรากฎการณ์แย่งชามข้าวระหว่างกลุ่มต่างๆ ของทาสเงินเหลี่ยมร้าย แตกเป็นก๊กเป็นมุ้ง ทั้งก๊วนเชลียร์เหลี่ยมและพวกลิ้นระดับแว๊กซ์ขนหน้าแข้งแม่นางโพยจนไม่มีโอกาสได้งอก! ชาวบ้านได้แต่มองตาปริบๆ เสียงโอดครวญไม่มีใครแยแส
มีโอกาสได้ล้างแค้นให้บทเรียนเจ็บปวดแก่ทาสเหลี่ยม ก็ต่อเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งท้องถิ่น และเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นั่นแหละ! ผู้สมัครพรรคเพื่อเหลี่ยมและคอกเสื้อแดงพ่ายแพ้คู่แข่งเรียบ หน้าแหกจนสัตว์แพทย์ หมอตอนควายเผ่นหนีไม่อาสารับเย็บ
จากปทุมธานี เชียงราย ชัยภูมิ ค่ายแดงเจ๊งไม่เป็นท่า! ฟ้องให้เห็นว่าหมู่บ้านเสื้อแดง และพวกรับจ้างนั่งตากแดด จิบน้ำขวด กินข้าวกล่องนั้นเป็นเพียงพลังกลวงๆ! การเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น เงินไม่เพิ่ม ต้องซื้อสินค้าแพงเหมือนคนอื่นๆ
ยุคราคาน้ำมัน 2 ลิตรเกือบ 100 บาทนั้น ทำให้ชาวบ้านหูตาสว่าง หายโง่! ใส่เสื้อแดงไปซื้อสินค้าไม่มีราคาพิเศษ ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดเหมือนไอ้เบื๊อกตัวพ่อเซราะกราวในสภา ทำตัวบ้าๆ บอๆ ชดเชยความบกพร่องของสติปัญญา สลับกับบทถ่อยสถุล
เสียงโฟนอิน ตีกินด้วยเสียงอ้อนแบบลูกเล่นราคาถูกของเหลี่ยมร้ายไม่ขลังอีกแล้ว ชาวบ้านรากหญ้าแพรกบนดินแตกระแหงรู้ซึ้งถึงก้นบึ้งหัวใจว่าที่ผ่านมานั้นได้ตกเป็นเหยื่อนโยบายประชานิยมให้จมในกองหนี้ ชีวิตไม่มีวันได้โงหัวลืมตาอ้าปาก
เป็นช่วงขาลงแน่นอน! แม้แต่ขบวนการชนเผ่าเสื้อแดง ก็แข่งกันทำมาหากิน ไพร่กำมะลอ ทำตัวเป็นคางคกอยากขึ้นวอจนตัวสั่น ออกมาฟัดพวกเดียวกันจนเขี้ยวจมน่อง ฟ้องให้เห็นความกระสันในอำนาจวาสนาและเงินตรา พลาดคราวนี้ไม่มีโอกาสได้ซ่าอีก
ดีไม่ดี ชาวบ้านหมั่นไส้ ออกมาเดินขบวนขับไล่ จะทำให้ไม่มีแผ่นดินอยู่ ต้องไปเลียไข่ฮุนเซนแลกข้าวปลาอาหาร! ความแค้นของชาวบ้านที่โดนหลอกนั้นรุนแรง กลืนเลือดไม่หาย อย่าหวังว่าชนเผ่าเสื้อแดงจะโง่งมยอมให้โดนต้มตลอดกาล
ดูก็แล้วกัน งานศพเหยื่อมะเร็ง มีคนเสื้อแดงออกมาร่วมตีกินแค่หลักร้อยต้นๆ เป็นเชิงสัญญลักษณ์ พวกดีใจเป็นปลื้มคือพวกรับจ้างสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย มองโอกาสทองใช้ศพเหยื่อมะเร็งเป็นตัวจุดชนวนให้ขบวนการล้มเจ้ายกระดับการปลุกระดม
ไม่ได้ผล การประโคมข่าว จัดงานศพกลางถนน มีแต่เสียงก่นด่าแช่ง เพราะทำให้รถติดกันทั้งเมือง งานแห่โลงศพตระเวณเมืองหวังปลุกกระแสไม่ได้รับการตอบสนอง เงินทองหวังจะได้จากการบริจาคเหมือนยุคก่อนแดงเผาเมืองนั้น คงไม่มาก
นักรับจ้างสอนหนังสือมีหรือจะใจกว้าง เงินเดือนแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงต้องหาทางออกด้วยการรับงานเหลี่ยม แพร่ความคิดชั่วร้ายให้ฝังหัวนักศึกษา! ลูกเมียเหยื่อมะเร็งน่าจะรู้แล้วว่ามีแต่คนใช้ศพผัวเป็นช่องทางตีกินในขบวนการล้มเจ้า
อ่า! นี่เป็นยุค “คนกินศพ” เหมือนไตเติลหนังฝรั่งก่อนโน้น!
แกนนำแดงระดับอำมาตย์ ขี้คุกเดนตะรางหายหัวกันถ้วนหน้า รู้ว่าถ้าไปเสนอหน้า นอกจากเสียเงินช่วยค่าทำศพแล้ว ยังถูกมองว่าเป็นพวกจ้องล้มเจ้าอีกด้วย ดังนั้นจึงพร้อมใจกันเอาตัวรอด ปล่อยให้พวกบ้องตื้น อยากสร้างราคา ชิงบทบาทให้ออกหน้า
ถ้าเป็นของจริง ป่านนี้แกนนำชนเผ่าเสื้อแดง ส.ส. ค่ายเหลี่ยมร้าย เสนาบดี แย่งกันเป็นเจ้าภาพ พวงหรีดเต็มวัดด่านสำโรง ครอบครัวแจ้งยอดเงินบริจาคเป็นล้านๆ บาท
เหลี่ยมร้ายควักกระเป๋าช่วยงานศพ อุปการะครอบครัวเหยื่อมะเร็งเท่าไหร่? ไม่มีใครป่าวประกาศเอาหน้า ไม่มีเสียงโฟนอินด้วยซ้ำ! มีแต่พวก “คนกินศพ” จากจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ออกอาการจะเป็นจะตาย น้ำตาไหลนองยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวเองลาโลก
ถ้าไม่คิดอะไรมาก การเมืองบัดซบเป็นเหมือนตลกร้าย! อีกสักพัก “ตู่แดง” และ “หลอง เรี่ยวแรง” คงดูดปากจ๊วบๆ ขอขมาลาโทษ ยิ้มแทบปากฉีกถึงใบหูเหมือนเดิม เว้นแต่ว่าการขัดลาภครั้งนี้เปิดแผลลึก ตามแบบผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัย
มวยถูกคู่ช่วงนี้ย่อมเป็น “นะคะมวย” จากค่ายกะเหรี่ยง และ “เหลิม บางบอน” การปะทะคารมเชือดเฉือนกันทำให้แฟนๆ ซาดิสต์ซี๊ดซ๊าดด้วยความมันส์...
ฝ่ายแรกเป็นนักรบ พลตรีนักต่อสู้เพื่อชาติกะเหรี่ยง ฝ่ายหลังเป็นด็อกเตอร์ด้านกฎหมาย ระดับรองนายกของประเทศไทยทำงานทุกอย่างเพื่อให้เหลี่ยมร้ายคืนสู่สภาพ เดิม! เมื่อโดน “นะคะมวย” สอนมวยให้ “ด็อกเตอร์เหลิม” ไปไม่เป็นเช่นกัน
“นะคะมวย” บอกว่า “เหลิม” ควรไปไล่จับเหลี่ยมร้ายดีกว่า มีคำพิพากษาแล้ว! “เห ลิม” ย้อนแบบทื่อๆ ไร้ราคาว่าถ้า “นะคะมวย” ไม่ผิด น่าจะยื่นคำร้องต่อศาล ขอสู้คดี ให้ถอนหมายจับ!! ยังดีที่ “นะคะมวย” ไม่ตอกหน้าเหลิมว่า น่าจะไปบอกเหลี่ยมให้ทำ
“ถ้าเหลี่ยมร้ายไม่ผิด ก็กลับมามอบตัวสู้คดี ให้ศาลถอนหมายจับซิ!”
จากนี้ไป โปรดอดใจรอ ชะตากรรมของขบวนการเหลี่ยมร้ายและชนเผ่าเสื้อแดงจะพลิกผัน! ช่วงขาลงจะเร็วกว่าขาขึ้น เหมือนรถเบรกแตกช่วงลงจากเขานั่นแหละ!