ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- เรียบร้อยโรงเรียนการเมืองไปอีกหนึ่งคน สำหรับ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้พ้นจากการเป็น ส.ส.เชียงใหม่ และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
คดีดังกล่าว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง โดยชี้มูลความผิดว่า น.ส.ชินณิชา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 263 และขอให้ลงโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119
หลักฐานของ ป.ป.ช.ชี้ให้เห็นว่า น.ส.ชินณิชาได้ยื่นแสดงรายการเงินกู้ยืมจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาทักษิณ ชินวัตร จำนวน 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค.51 หลังจากที่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่เข้ารับตำแหน่งส.ส.เชียงใหม่ไปแล้ว เป็นเวลากว่า 8 เดือน โดยอ้างเหตุที่ไม่ได้แสดงรายการหนี้สินดังกล่าวก่อน เพราะความหลงผิดและเข้าใจคลาดเคลื่อนโดยสุจริตว่า ระหว่างทำรายการบัญชีฯ นั้นกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยังไม่เสร็จสิ้น จึงเข้าใจว่าหนี้สินที่ถูก คตส.มีคำสั่งอายัดไว้
ต่อมาศาลฎีกาฯ พิเคราะห์พยานหลักฐานและเอกสารในสำนวน แล้วเห็นว่า น.ส.ชินณิชา ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จฯ จึงพิพากษาให้ น.ส.ชินณิชา พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา และให้จำคุกน.ส.ชินณิชา ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกเห็นสมควรรอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ทั้งนี้ จะว่าไปแล้วต้องบอกว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นโดยแท้ สำหรับ น.ส.ชินณิชา หลานรักของ นช.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนับเป็นสมาชิกครอบครัว “วงศ์สวัสดิ์” คนที่ 3 เข้าให้แล้วที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
เพราะย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทั้งบิดา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และมารดา นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ได้ถูกวิบากกรรมการเมืองเล่นงานมาหมดแล้ว โดบนายสมชายได้ถูกศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 สั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี รวม 37 คนในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยนายสมชายต้องพ้นจากตำแหน่งทันที
ส่วนนางเยาวภาน้องสาวสุดที่เลิฟของ นช.ทักษิณ แกนนำคนสำคัญ เจ้าแม่แห่งกลุ่มวังบัวบาน ผู้ดูแลภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยนั้น ย้อนไปเมื่อปี 2549 ได้ถูกอัยการสูงสุดร้องในข้อหาว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง จนคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ พิพากษาให้ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย และตัวเองในฐานะกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จึงถูกตัดสิทธิการเมืองไปโดยปริยาย นอกจากนี้วิบากกรรมของนางเยาวภายังไม่หมดแค่นั้นเพราะยังมีคดีค้างอยู่กับ ป.ป.ช. ในข้อกล่าวหาปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและส่อร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.ประชาธิปัตย์ เป็นผู้ยื่นเรื่องเมื่อปี 2549 อีกด้วย
จากข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา คดีนี้นางเยาวภาถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหมู่บ้านชินณิชาวิลล์ ย่านถนนแจ้งวัฒนะ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเบเวอร์รี่ฮิลล์) มูลค่า 250 ล้านบาท และนอกจากนี้บุตรชายและบุตรสาว 3 คนถูกตรวจสอบพบว่าเป็นเจ้าของหุ้นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท
ด้วยเหตุดังกล่าว สุดท้ายแล้วคงไม่ต้องถามว่า วิชาเล่นแร่แปรธาตุซุกเงิน ซุกหุ้น นี้ น.ส.ชินณิชาได้แต่ใดมา ซึ่งก็หนีไม่พ้นต้นตำรับตัวพ่อ อย่างลุงสุดที่เลิฟ นช.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนถ่ายทอดวิชามาเป็นแน่แท้ และคงต้องบอกว่าต้องทำใจจริงๆ ที่ถูกตัดสิทธิการเมือง ซึ่งหากไม่มีเคล็ดลับวิชาเช่นนี้ติดตัวแล้ว อาจกล่าวได้ว่าเสียชาติเกิดโทษฐานเป็นเครือญาติตระกูลชินวัตรเลยทีเดียว