ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ด้วยความเร่งรีบ ใจร้อนของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อยากจะกลับมาอย่างเท่ๆ ก็สะท้อนให้เห็นว่าทักษิณยังมีกรรมหนักอยู่มาก เพราะอย่างไรเสีย “อัตตา”ตัวเดียวที่ทำให้ทักษิณต้องร่อนเร่พเนจรไปทั่วโลกมาเกือบ 4 ปีแล้ว
เพราะทักษิณเป็นคนที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่เป็นผลลบกับตัวเอง แต่กลับยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ล็อบบี้หรือมีถุงขนมใส่เงินที่สำนักงานศาลยุติธรรมเหมือนกับนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายของทักษิณที่เคยทำมาแล้ว วันนี้ได้ดิบได้ดีเป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่?
หลวงตามหาบัวญาณสัมปัณโณ ได้เคยทำนายอนาคตของทักษิณตั้งแต่ปี 2548 เอาไว้ 3 ข้อ คือ
1.จะไม่มีแผ่นดินจะอยู่
2.ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ก็จะค่อยๆหมดลงไป
3.แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้
ที่จริงคำทำนายนี้ให้ข้อคิดในทางธรรมอยู่มาก เพราะในความเป็นจริงทุกชีวิตที่เกิดมาต่างก็จบลงด้วยความตายที่ไม่มีใครเป็นอมตะได้ ทรัพย์สินเงินทองเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ดังนั้นการที่นักโทษชายทักษิณไม่รู้จักสำนึกผิด ไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นผลลบกับตนเอง ก็คงได้แต่สมเพชทักษิณว่าคงจะมีวิบากกรรมอยู่มากที่ไม่สามารถมองเห็นในสิ่งที่ปุถุชนเห็นได้
นักโทษชายทักษิณ มองไม่เห็น เหมือนกับสิ่งที่สนธิ ลิ้มทองกุลเห็นว่า เรื่องอดีตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ ใครทำอะไรผิดก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น จึงยืนหยัดต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุดไม่ว่าจะถูกกลั่นแกล้งให้ร้ายเกินกว่าเหตุมากแค่ไหนก็ตาม ด้วยเหตุนี้คนอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล จึงได้ประกาศบนเวทีกราบขออภัยต่อพี่น้องประชาชนในเรื่องอดีตและมุ่งหน้าทำความดีตอบแทนบุญคุณแผ่นดินจนครอบครัวลิ้มทองกุลแทบหมดเนื้อหมดตัว
“การสำนึกผิดกับเรื่องในอดีต” และ “เสียสละในช่วงชีวิตที่เหลือ” คือสิ่งที่ไม่สามารถหาได้ในพจนานุกรมของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร !!!
สนธิ ลิ้มทองกุล ขายทรัพย์สินเงินทองเกือบทั้งหมด เอามาแบกรับ ASTV ทั้งๆ ที่เป็นสื่อที่ไม่เป็นกลางและเป็นปรปักษ์โดยตรงกับการกระทำความชั่วของนักการเมืองทุกขั้วและของทุนสามานย์ทุกฝ่ายในทางธุรกิจจึงย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถทำกำไรได้
หลายปีที่มีการเปลี่ยนขั้วกันไปมาระหว่าง 7 รัฐบาลได้แก่ รัฐบาลทักษิณ, รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์, รัฐบาลสมัคร, รัฐบาลสมชาย, รัฐบาลอภิสิทธิ์, รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่มีรัฐบาลชุดไหนเข้ามาสนับสนุน ASTV เหมือนกับทีวีของพรรคการเมืองช่องอื่นๆเลย
และความจริงเช่นนี้ย่อมแสดงว่า สนธิ ลิ้มทองกุล สามารถที่จะเป็นมหาเศรษฐีได้หลายโอกาสตั้งนานแล้ว ถ้าหันไปสนับสนุนนักการเมืองขั้วใดขั้วหนึ่ง
หรืออีกนัยหนึ่งแค่ยุติแบกรับภาระเกินตัวเพื่อให้ ASTV ซึ่งเป็นสถานีในอุดมคติที่ปราศจากการครอบงำจากทุนและการเมืองดำรงอยู่ ครอบครัวลิ้มทองกุลก็ยังคงอยู่ในระดับเศรษฐี ไม่เดือดร้อนและอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินจากการบริจาคหรือกลุ่มทุนไหนเลย
ตรงกันข้ามทักษิณในวันนี้ร่ำรวยอย่างมหาศาลยิ่งกว่าสนธิมากมาย แต่คนอย่างทักษิณกลับไม่สามารถ เหยียบแผ่นดินไทยไปรับกินก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยๆในประเทศไทยได้แม้แต่ร้านเดียว
ในขณะที่ทุกวันนี้คนที่เข้ามาหาสนธิ ลิ้มทองกุล ที่บ้านพระอาทิตย์อย่างน้อยก็ได้เห็นแล้วว่าใครเป็นมิตร น้อง พี่แท้ในยามยาก ไม่ได้หวังเงินทอง และตำแหน่ง และนี่คือมิตรภาพของจริงที่มีค่าเกินกว่าที่จะมีสิ่งใดวัดเป็นตัวเงินได้
ตรงกันข้ามคนบินไปหาทักษิณล้วนแล้วแต่หวังตำแหน่ง ขอเงิน ของบประมาณ ขอโครงการ ฯลฯ มีแต่คนพูดในสิ่งที่ทักษิณอยากได้ยินและพอใจ หลายคนกำลังร่าเริงสนุกสนานกับการพูดหลอกทักษิณให้มีความฝันอย่างที่ตัวเองอยากได้ยินและพอใจทั้งๆที่สิ่งทีคนเหล่านั้นต่างหลอกเพื่อหวังผลในอำนาจและผลประโยชน์ทั้งสิ้น
เพราะแม้แต่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงมากกว่าจะเป็นนายกหุ่นเชิดตัวตลกในสังคม และความจริงมีนักการเมืองจำนวนมากในพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้ทักษิณกลับบ้าน เพราะหากกลับเข้ามาก็จะต้องถูกล้วงลูกและสูญเสียอำนาจในทุกเรื่องทุกตำแหน่ง ในขณะที่หลายคนก็ไม่ต้องการปล่อยให้มีการนิรโทษกรรมทางการเมืองเพราะกลัวว่าตำแหน่งทางการเมืองจะถูกแย่งชิงด้วยคู่แข่งที่มากขึ้น
และนักการเมืองหลายคนที่อาสาจะพาทักษิณกลับบ้าน ขนคนไปรับที่เขมรหรือลาว เอาเข้าจริงมันก็เป็นเพียง “การแสดง” อย่างหนึ่งเพื่อให้ทักษิณพอใจเท่านั้น เพราะพวกเขาต่างก็หวัง ลาภ ยศ สรรเสริญ กันทั้งนั้น
และการที่คนอย่างนักโทษชายทักษิณพึ่งพานักการเมืองและแกนนำมวลชนในประเทศยิ่งมาก ยิ่งทำให้นักการเมืองและแกนนำมวลชนเสื้อแดงจับจุดได้ จึงยิ่งสำแดงพลังอำนาจเพื่อให้ทักษิณพึ่งพิงให้มากขึ้น ยิ่งพึ่งพิงมากคนเหล่านั้นก็มีอำนาจในการต่อรองในการขอให้ได้รับตำแหน่งและผลประโยชน์มากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เบื้องลึกในจิตใจคนเหล่านี้จึงพอใจที่ทักษิณจะอยู่นอกประเทศนานๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าหากทักษิณจะกลับมาประเทศบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย ต่อให้มีผู้สนับสนุนก็จะมีการต่อต้าน คนเหล่านี้ก็จะมีความเสี่ยงต่ออำนาจและผลประโยชน์ ดังนั้น “การแสดง”ออกว่าจะพากลับบ้านจึงเป็นเงื่อนไขที่เหมาะกับการกอบโกยมากที่สุด
แม้แต่มีนักล็อบบี้ค้าอาวุธเดินทางไปกับสตรีสูงศักดิ์บินไปหลอกทักษิณที่ฝรั่งเศสว่าจะเปิดประตูสวรรค์ได้ ก็เพราะแม่ค้าอาวุธคนนั้นหวังที่จะขายอาวุธให้กองทัพและเคลียร์หนี้ธนาคารของตัวเอง ในขณะที่สตรีสูงศักดิ์คนนั้นก็หวังจะให้สามีของตัวเองมาเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เท่านั้น ส่วนทักษิณก็ยังมีกรรมหลงเชื่อจนโงหัวไม่ขึ้นและหลงเชื่อต่อไป
เพราะสามัญสำนึกธรรมดาที่คนอย่างทักษิณคิดไม่ได้ หากข่มขืนแก้กฎหมายให้ทักษิณกลับมาประเทศโดยล้างความผิดทั้งหมด ลำพังเพียงแค่คนเกลียดชังถึง 10 ล้านคน ก็ยากแล้วที่จะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข นอกจากจะมีแต่ความหวาดระแวงว่าจะมีใครทำร้ายอย่างไรบ้าง?
“อัตตาใหญ่” ทำให้นักโทษชายทักษิณไม่สามารถเข้าใจเรื่องง่ายๆว่าหากทักษิณกลับมาติดคุกสำนึกผิดยอมรับกระบวนการยุติธรรม ก็กลับจะมีโอกาสได้รับคะแนนสงสารจากประชาชน และก็มีโอกาสที่จะขอพระราชทานอภัยโทษตามกฎเกณฑ์ของนักโทษชั้นดีได้ เพราะถ้าทำเช่นนั้นอย่าว่าแต่ทักษิณจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติไม่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเลย แม้แต่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหลายสมัยก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นได้
และนี่แหละที่เขาอาจเรียกว่า “กรรมบังตา”!!!
สนธิ ลิ้มทองกุล แม้วันนี้ไม่ได้มีเงินทองมากมาย แม้จะมีอันตรายที่เคยมีคนปองร้ายบ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังเดินทางไปที่ไหนในประเทศไทยก็ได้ ความผิดในอดีตที่เปลี่ยนไปไม่ได้ก็สำนึกผิดและขออภัยในการกระทำเหล่านั้น ต่อสู้และพร้อมรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อบวกกับคุณความดีที่ต่อสู้ให้กับประเทศชาติมาหลายปีที่ผ่านมา อย่างน้อยก็เชื่อได้ว่าสนธิ ลิ้มทองกุลย่อมมีความสุขใจกว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร แม้วันหนึ่งแบกรับ ASTV ไว้ไม่ไหว หรือ แบกประเทศชาติไว้คนเดียวไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยวางได้เพราะไม่มีอะไรต้องเสียใจเพราะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเป็นที่ประจักษ์แล้ว
อย่างน้อยคนอย่างทักษิณที่วันๆหมกมุ่นอยู่นอกประเทศคิดถึงประเทศไทย อยากจะกลับมาประเทศไทยโดยไม่มีความผิด อยากจะเอาทรัพย์สินคืน และอยากจะกลับมามีอำนาจทางการเมืองนั้น จิตใจคงจะร้อนรุ่มและไม่มีทางมีความสุขไปได้เลย
และยิ่งเห็น “อัตตา” และ “วิบากกรรม” ของทักษิณก็ยิ่งมั่นใจว่า คนอย่างนักโทษชายทักษิณไม่มีทางได้อ่านบทความนี้ให้ระคายตาแน่นอน !!!!