วานนี้(10 เม.ย.55)ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร กล่าวฝากกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ไปบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องข้อเสนอนิรโทษกรรม 2 :1 ว่า ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี ยืนยันมาตลอดว่า พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรจะรับโทษทางกฎหมาย และลดละเลิกสิ่งต่างๆที่ทำมาตลอดหลายปี
ส่วนคดีความต่าง ๆ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่สอบสวนหาข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการ คอป. ซึ่งเรื่องก็ได้เข้าสู่กระบวนยุติธรรมและเดินหน้า กรณีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่ประธาน คอป.นั้น นายยงยุทธควรทำหน้าที่ประสานนำข้อเสนอของ คอป.ไปเสนอให้กับรัฐบาล แต่จะต้องไม่มีการแปลงสาร ต้องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปรองดองอย่างแท้จริง เพราะ คอป.ได้มีการศึกษาและเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมให้ข้อเสนอแนะ และมีการระบุแล้วว่า ไม่ควรจะมีการดำเนินการเพื่อใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว
ส่วนที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสภาสถาบันพระปกเกล้า ออกมาระบุว่า อาจเกิดสงครามปรองดองขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นแน่นอนเพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง
**เหล่ป้องรัฐไม่รับคำท้า 2 แลก 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทยได้ส่งอีเมลล์แถลงการณ์ของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตอบโต้กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ท้าทายให้พ.ต.ท. ทักษิณตอบว่าจะรับคำท้าของนายอภิสิทธิ์ให้กับสื่อมวลชน
โดยในแถลงการณ์ดังกล่าว นายนพดล ระบุว่า เรื่องของการปรองดองหรือการคืนความชอบธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องของการพนันที่จะมาใช้ท้าทายกัน แต่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องมาช่วยกันคิดว่าเราทุกคนจะออกจากความขัดแย้งที่เป็นอยู่ได้อย่างไร และต้องช่วยกันคิดว่าหากทุกฝ่ายปรองดองกันแล้วประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร ไม่ใช่จะมาคิดว่าคดีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ 2 คน จะมีมูลค่าเท่ากับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไม่ออกมารับคำท้าของนายอภิสิทธิ์นั้นไม่ได้แปลว่ารัฐบาลไม่กล้า แต่เพราะไม่ใช่ประเด็นที่จะมาท้าทายกัน รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยคิดว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลน่าจะหาแนวทางร่วมกันเพื่อสร้างความปรองดอง และถ้าจะมีการนิรโทษกรรมในอนาคตก็ต้องนิรโทษกรรมให้กับทุกคนที่เข้าข่ายและเข้าเงื่อนไขโดยไม่มีการยกเว้นใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งหากมีใครที่ไม่เข้าข่ายและไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการนิรโทษกรรมก็ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเข้าใจถึงทัศนคติและเจตนาของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเข้าใจดีว่าคนที่ได้รับประโยชน์กับคนที่ถูกกระทำจากการรัฐประหารย่อมต้องมีท่าทีต่อความเป็นธรรมและการเยียวยาแตกต่างกัน
** ปคอป.หารือแผนปรองดองเดือนนี้
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้ ปคอป. นำรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรองดองแห่งชาติพิจารณา ก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ภายในเดือน เม.ย.นี้ ปคอป. จะหารือ ว่าจะมีแนวทางอย่างไร และจะต้องทำเป็นร่างกฏหมายหรือไม่ ถ้าจะต้องออกเป็น พรบ.ก็จะหารือร่วมกับฝ่ายที่มีการเสนอมาบ้างแล้ว ทั้งร่าง พรบ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งแนวทางของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่าแนวทางของนายกรัฐมนตรี ไม่มีการตั้งธงไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการสร้างความปรองดองถือเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้เร็ว และหลังจากประชุมเสร็จแล้วจะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบทันทีว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการหรือสภาฯเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้คงไม่เปิดเวทีเรื่องการสานเสวนาในเรื่องอีก เพราะได้รับฟังความเห็นจากสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนไปแล้ว
เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่เป็นห่วง เพราะอยู่ที่เจตนา เราทำเพราะมีเจตนาที่เป็นห่วงบ้านเมือง อยากให้มีความปรองดองและสมานฉันท์ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไร และไม่มีอะไรซ่อนเร้น
ต่อข้อถาม การสร้างความปรองดองจะทำเสร็จในปีนี้ได้หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า อยากทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะเรามีเจตนาดีคือต้องการทำให้คนรักกันอยู่ร่วมกันและเดินหน้าไปด้วยกันได้ และไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียว ทั้งนี้ขอย้ำว่าการออก พรบ.ปรองดอง ไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียวหรือเอาทรัพย์สินของคนใดคนหนึ่งกลับคืนมา และเราพูดมาตั้งแต่หาเสียงแล้ว
เมื่อถามว่า จะรับคำท้าของนายอภิสิทธิ์ ที่เสนอว่าหากออกกฏหมายจะต้องไม่นิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การจะออกกฏหมาย ไม่สามารถยกเว้นการบังคับใช้กับคนใดคนหนึ่งใด แต่กฎหมายถูกทำออกมาใช้กับทุกคน เมื่อถามว่า หากมีการออก พรบ.ปรองดองแล้ว พ.ต.ท.ทักษอิณ จะได้กลับบ้านใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอดูต่อไป
**เหลิมปัดไม่เคยไม่รับพระปกเกล้า
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธที่มีข่าวว่าตนระบุว่ารัฐบาลไม่ควรรับรายงานฉบับนี้นั้น ขอย้ำว่าตนไม่เคยพูด ตนพูดแค่หน้าที่ของตน งานนอกหน้าที่ตนไม่พูด ฉะนั้นรายละเอียดควรสอบถามนายยงยุทธ อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าจุดเริ่มต้นของ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาตินั้นอยู่ในส่วนใด รองนายกฯ กล่าวว่า ควรสอบถามนายยงยุทธว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มอบหมายอย่างไรไปบ้าง และไม่ขอบอกว่าในที่ประชุมครม.วันนี้ตนจะเสนอความเห็นอย่างไร
เมื่อถามว่า จะเกิดปัญหาขัดแย้งในอนาคตหรือไม่เพราะสัปดาห์ที่แล้วมีความขัดแย้งเรื่องนี้ในรัฐสภา รองนายกฯกล่าวว่าว่าปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้กลุ้ม ตนไม่เคยกลุ้มและไม่ขอบอกว่ารายงานของกมธ.กับร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของตนนั้นสิ่งใดดีกว่ากัน ไม่อย่างนั้นจะไม่ตื่นเต้น
**“เต้น”โยนสภาคลอดกม.ปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เมื่อขั้นตอนตั้งต้นจากสภา บทบาทนี้น่าจะเป็นสภาเป็นหลัก แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่พิจารณาในกรณีนี้โดยรอบคอบ เพราะการสร้างความปรองดองถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่ตนเห็นว่าในเมื่อสภาตั้งต้นมาก็น่าจะให้สภาว่ากันไปก่อน
กรณีกลไกของสภาเกรงจะยืดเยื้อ แต่รัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนควรจะทำเองหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงจะตอบอย่างนั้นไม่ได้ แม้กระบวนการสภาจะใช้เวลา แต่เราหวังผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริงที่นำพาประเทศออกจากกับดักวิกฤต จริงๆแล้วสภาไม่ได้เดินไปช้า แต่ 5-6 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียหายอย่างมหาศาลเราเลยอยากให้เกิดรูปธรรมของการปรองดองขึ้นเร็ว ถือว่าไม่ช้า และของรัฐบาลก็มีความคืบหน้า เช่นเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บล้มตาย รวมทั้งการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญ ในการนำมาประกอบร่วมกันเป็นการปรองดอง
ส่วนการทำสานเสวนานั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การรับฟังความเห็นสามารถทำได้หลายช่องทาง ก็อยู่ที่สภาและรัฐบาลว่าจะมีความเห็นที่จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไรต่อ รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะไม่ทำอะไรที่ขัดต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนและคนส่วนใหญ่ต้องการให้ไปสู่ความปรองดอง ความขัดแย้ง 5-6 ปีที่ผ่านมาเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่เกินกว่าจะเอาเงื่อนไขเล็กน้อยว่าใครจะได้ประโยชน์บ้าง หรือนาย ก. นาย ข จะอยู่ตรงไหนหากเกิดความปรองดอง แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พยายามอธิบายเรื่องนี้ให้ปกปิดทุกช่องทางที่ประเทศไทยจะมองเห็นอนาคต
**พท.เร่งปิดเกมพา "พ่อแม้ว" กลับบ้าน
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่จะเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือร่างพ.ร.บ.ปรองดองว่า ตนกำลังรวบรวมรายชื่อส.ส. และระดมความคิดกันอยู่ คาดว่าจะยื่นต่อสภาทันสมัยประชุมนี้ เพราะเรื่องนี้รอช้าไม่ได้ อยากให้มีการลงมือทำไปก่อน ผลออกมาอย่างไรค่อยมาทบทวนกัน เรื่องการปรองดองผ่านสภามาแล้วมีความชอบธรรมที่จะเดินหน้ากันต่อ วั
ส่วนคดีความต่าง ๆ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่สอบสวนหาข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการ คอป. ซึ่งเรื่องก็ได้เข้าสู่กระบวนยุติธรรมและเดินหน้า กรณีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่ประธาน คอป.นั้น นายยงยุทธควรทำหน้าที่ประสานนำข้อเสนอของ คอป.ไปเสนอให้กับรัฐบาล แต่จะต้องไม่มีการแปลงสาร ต้องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปรองดองอย่างแท้จริง เพราะ คอป.ได้มีการศึกษาและเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมให้ข้อเสนอแนะ และมีการระบุแล้วว่า ไม่ควรจะมีการดำเนินการเพื่อใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว
ส่วนที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสภาสถาบันพระปกเกล้า ออกมาระบุว่า อาจเกิดสงครามปรองดองขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นแน่นอนเพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง
**เหล่ป้องรัฐไม่รับคำท้า 2 แลก 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทยได้ส่งอีเมลล์แถลงการณ์ของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตอบโต้กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ท้าทายให้พ.ต.ท. ทักษิณตอบว่าจะรับคำท้าของนายอภิสิทธิ์ให้กับสื่อมวลชน
โดยในแถลงการณ์ดังกล่าว นายนพดล ระบุว่า เรื่องของการปรองดองหรือการคืนความชอบธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องของการพนันที่จะมาใช้ท้าทายกัน แต่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องมาช่วยกันคิดว่าเราทุกคนจะออกจากความขัดแย้งที่เป็นอยู่ได้อย่างไร และต้องช่วยกันคิดว่าหากทุกฝ่ายปรองดองกันแล้วประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์อย่างไร ไม่ใช่จะมาคิดว่าคดีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ 2 คน จะมีมูลค่าเท่ากับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไม่ออกมารับคำท้าของนายอภิสิทธิ์นั้นไม่ได้แปลว่ารัฐบาลไม่กล้า แต่เพราะไม่ใช่ประเด็นที่จะมาท้าทายกัน รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยคิดว่าฝ่ายค้านและรัฐบาลน่าจะหาแนวทางร่วมกันเพื่อสร้างความปรองดอง และถ้าจะมีการนิรโทษกรรมในอนาคตก็ต้องนิรโทษกรรมให้กับทุกคนที่เข้าข่ายและเข้าเงื่อนไขโดยไม่มีการยกเว้นใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งหากมีใครที่ไม่เข้าข่ายและไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการนิรโทษกรรมก็ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเข้าใจถึงทัศนคติและเจตนาของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเข้าใจดีว่าคนที่ได้รับประโยชน์กับคนที่ถูกกระทำจากการรัฐประหารย่อมต้องมีท่าทีต่อความเป็นธรรมและการเยียวยาแตกต่างกัน
** ปคอป.หารือแผนปรองดองเดือนนี้
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้ ปคอป. นำรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรองดองแห่งชาติพิจารณา ก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ภายในเดือน เม.ย.นี้ ปคอป. จะหารือ ว่าจะมีแนวทางอย่างไร และจะต้องทำเป็นร่างกฏหมายหรือไม่ ถ้าจะต้องออกเป็น พรบ.ก็จะหารือร่วมกับฝ่ายที่มีการเสนอมาบ้างแล้ว ทั้งร่าง พรบ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งแนวทางของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่าแนวทางของนายกรัฐมนตรี ไม่มีการตั้งธงไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการสร้างความปรองดองถือเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้เร็ว และหลังจากประชุมเสร็จแล้วจะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบทันทีว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการหรือสภาฯเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้คงไม่เปิดเวทีเรื่องการสานเสวนาในเรื่องอีก เพราะได้รับฟังความเห็นจากสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนไปแล้ว
เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่เป็นห่วง เพราะอยู่ที่เจตนา เราทำเพราะมีเจตนาที่เป็นห่วงบ้านเมือง อยากให้มีความปรองดองและสมานฉันท์ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไร และไม่มีอะไรซ่อนเร้น
ต่อข้อถาม การสร้างความปรองดองจะทำเสร็จในปีนี้ได้หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า อยากทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะเรามีเจตนาดีคือต้องการทำให้คนรักกันอยู่ร่วมกันและเดินหน้าไปด้วยกันได้ และไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียว ทั้งนี้ขอย้ำว่าการออก พรบ.ปรองดอง ไม่ได้ทำเพื่อคนคนเดียวหรือเอาทรัพย์สินของคนใดคนหนึ่งกลับคืนมา และเราพูดมาตั้งแต่หาเสียงแล้ว
เมื่อถามว่า จะรับคำท้าของนายอภิสิทธิ์ ที่เสนอว่าหากออกกฏหมายจะต้องไม่นิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การจะออกกฏหมาย ไม่สามารถยกเว้นการบังคับใช้กับคนใดคนหนึ่งใด แต่กฎหมายถูกทำออกมาใช้กับทุกคน เมื่อถามว่า หากมีการออก พรบ.ปรองดองแล้ว พ.ต.ท.ทักษอิณ จะได้กลับบ้านใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอดูต่อไป
**เหลิมปัดไม่เคยไม่รับพระปกเกล้า
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธที่มีข่าวว่าตนระบุว่ารัฐบาลไม่ควรรับรายงานฉบับนี้นั้น ขอย้ำว่าตนไม่เคยพูด ตนพูดแค่หน้าที่ของตน งานนอกหน้าที่ตนไม่พูด ฉะนั้นรายละเอียดควรสอบถามนายยงยุทธ อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าจุดเริ่มต้นของ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาตินั้นอยู่ในส่วนใด รองนายกฯ กล่าวว่า ควรสอบถามนายยงยุทธว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ มอบหมายอย่างไรไปบ้าง และไม่ขอบอกว่าในที่ประชุมครม.วันนี้ตนจะเสนอความเห็นอย่างไร
เมื่อถามว่า จะเกิดปัญหาขัดแย้งในอนาคตหรือไม่เพราะสัปดาห์ที่แล้วมีความขัดแย้งเรื่องนี้ในรัฐสภา รองนายกฯกล่าวว่าว่าปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้กลุ้ม ตนไม่เคยกลุ้มและไม่ขอบอกว่ารายงานของกมธ.กับร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของตนนั้นสิ่งใดดีกว่ากัน ไม่อย่างนั้นจะไม่ตื่นเต้น
**“เต้น”โยนสภาคลอดกม.ปรองดอง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เมื่อขั้นตอนตั้งต้นจากสภา บทบาทนี้น่าจะเป็นสภาเป็นหลัก แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่พิจารณาในกรณีนี้โดยรอบคอบ เพราะการสร้างความปรองดองถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่ตนเห็นว่าในเมื่อสภาตั้งต้นมาก็น่าจะให้สภาว่ากันไปก่อน
กรณีกลไกของสภาเกรงจะยืดเยื้อ แต่รัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนควรจะทำเองหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงจะตอบอย่างนั้นไม่ได้ แม้กระบวนการสภาจะใช้เวลา แต่เราหวังผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริงที่นำพาประเทศออกจากกับดักวิกฤต จริงๆแล้วสภาไม่ได้เดินไปช้า แต่ 5-6 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียหายอย่างมหาศาลเราเลยอยากให้เกิดรูปธรรมของการปรองดองขึ้นเร็ว ถือว่าไม่ช้า และของรัฐบาลก็มีความคืบหน้า เช่นเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บล้มตาย รวมทั้งการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญ ในการนำมาประกอบร่วมกันเป็นการปรองดอง
ส่วนการทำสานเสวนานั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การรับฟังความเห็นสามารถทำได้หลายช่องทาง ก็อยู่ที่สภาและรัฐบาลว่าจะมีความเห็นที่จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไรต่อ รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะไม่ทำอะไรที่ขัดต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนและคนส่วนใหญ่ต้องการให้ไปสู่ความปรองดอง ความขัดแย้ง 5-6 ปีที่ผ่านมาเป็นความขัดแย้งขนาดใหญ่เกินกว่าจะเอาเงื่อนไขเล็กน้อยว่าใครจะได้ประโยชน์บ้าง หรือนาย ก. นาย ข จะอยู่ตรงไหนหากเกิดความปรองดอง แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พยายามอธิบายเรื่องนี้ให้ปกปิดทุกช่องทางที่ประเทศไทยจะมองเห็นอนาคต
**พท.เร่งปิดเกมพา "พ่อแม้ว" กลับบ้าน
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่จะเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือร่างพ.ร.บ.ปรองดองว่า ตนกำลังรวบรวมรายชื่อส.ส. และระดมความคิดกันอยู่ คาดว่าจะยื่นต่อสภาทันสมัยประชุมนี้ เพราะเรื่องนี้รอช้าไม่ได้ อยากให้มีการลงมือทำไปก่อน ผลออกมาอย่างไรค่อยมาทบทวนกัน เรื่องการปรองดองผ่านสภามาแล้วมีความชอบธรรมที่จะเดินหน้ากันต่อ วั