xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"ชี้แค่โจรกลุ่มเล็ก มาร์คเตือนซ้ำรอยโจรกระจอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ปู" บอกรู้ตัวผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์แล้ว แค่กลุ่มเล็กๆ อ้างไม่ลงพื้นที่เพราะไม่อยากรบกวนให้เจ้าหน้าที่มาคุ้มกัน ขณะที่ "มาร์ค" นำทีมลงเยี่ยมคนเจ็บ อัดนายกฯ ใจดำ ไม่ลงพื้นที่ เตือนให้ระวังคำพูด จะซ้ำรอย "โจรกระจอก"

เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (1 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประ ธานในพิธีมอบเกียรติบัตร และเข็มเชิดชูเกียรติให้กับข้าราชการพลเรือนดีเด่น จำนวน 603 คน เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2555 เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับข้าราชการทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวเริ่มต้นพิธีมอบรางวัล ด้วยการให้กำลังใจกับข้าราชการและประชาชนในภาคใต้ ที่ประสบเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขอให้พี่น้องข้าราชการทุกคน ส่งแรงใจให้พี่น้องข้าราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะเหตุระเบิดในจ.สงขลา ยะลา ปัตตานี ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค.

ต่อมาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากการติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดดังกล่าวขณะนี้พอจะรู้กลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ตอนนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติทำงานก่อน โดยในช่วงบ่าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เรียกประชุมสำนักงานข่าวกรองทั้งหมด เพื่อดูข้อมูล ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ลงพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.แล้ว เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุ ทั้งหมดทุกจุด โดยทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และในช่วงบ่ายวันที่ 1 เม.ย. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะลงพื้นที่ เพื่อเยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่าได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มกำลังดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยบูรณาการร่วมกับกำลังของกองทัพ ขณะเดียวกันทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็จะลงไปในพื้นที่ด้วย เพื่อบูรณาการร่วมกับทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต. ) ทั้งการสืบหาข้อเท็จจริง และผู้ก่อเหตุ รวมถึงดูมาตรการแผนการป้องกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นมีการประเมินสาเหตุที่ก่อเหตุถี่ขึ้นในช่วงนี้ว่าเกิดจากอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราพอทราบคร่าวๆ ขณะนี้ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยข้อมูล ขอให้ทีมงานได้ทำงานก่อน ซึ่งตอนนี้พอทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุ คงจะต้องลงไปทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุความไม่สงบมา

** "ปู" ระบุผู้ก่อเหตุไม่ใช่กลุ่มใหญ่

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาภายใน ไม่เกี่ยวกับต่างชาติเข้ามาร่วมกระบวนการหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงตรงระดับนั้น เมื่อถามอีกว่า เป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขออนุญาตยังไม่ให้ข้อมูล เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ต่อข้อถามว่า คิดว่าจะมีเหตุการณ์ระลอก 2 และ 3 ตามมาอีกหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องทำทั้งสองอย่าง จริงๆ แล้วไม่ใช่กลุ่มใหญ่มาก เราต้องสืบหาสาเหตุที่แน่นอน และหาตัวผู้ก่อเหตุความไม่สงบ รวมถึงการป้องกันให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัย โดยจะเสริมกำลังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยอื่นๆลงไปเพิ่ม ซึ่งจะบูรณาการร่วมกับกองทัพ

**ไม่ลงพื้นที่อ้างเปลืองกำลังอารักขา

เมื่อถามว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมหรือกลุ่มใหม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ขอพูด เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะทำงานลำบาก ขอให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุมาก่อนจะเป็นประโยชน์มากกว่า เมื่อถามต่อว่า นายกฯจะหาโอกาสลงพื้นที่ภาคใต้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนด้วยตัวเองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอเรียนว่า อยากไป แต่ที่ยังไม่ตัดสินใจไป เนื่องจากวันนี้กำลังของเรามีจำกัด ต้องกระจายไปหลายจังหวัด ถ้าตนเองลงไป จะต้องแบ่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งมาดูแลความปลอดภัย จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากขึ้น คิดว่าเราอยู่บัญชาการ และประสานงานตรงนี้ดีกว่า เบื้องต้นการดูแลเยียวยา ยืนยันว่าได้ติดตามตลอด ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล บางส่วนได้กลับบ้านแล้ว ขณะเดียวกันเรื่องแพทย์ฉุกเฉิน ก็ได้เริ่มทำงาน พร้อมทั้งได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ซึ่งให้ทำงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.

** "มาร์ค"ลงใต้ให้กำลังใจชาวบ้าน

เช้าวานนี้ (1 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ได้ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปดูจุดเกิดเหตุที่โรงแรม ลีการ์เด้นส์ พลาซ่า ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่าง ๆ

ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ดูเหมือนมีพัฒนาการไป จึงอยากให้รัฐบาลเอาใจใส่ และตั้งหลักในนโยบายการแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ดี ที่ผ่านมาฝ่ายค้านพยายามแสดงความคิดเห็นในทางที่จะให้รัฐบาลสานต่อนโยบายจากรัฐบาลที่แล้ว และเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ รัฐบาลควรต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันทั้งที่ ยะลา และสงขลา น่าจะเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน และแสดงให้เห็นว่า จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมโดยเฉพาะในเขตเมือง ที่จะต้องมีความรัดกุมในเรื่องของความปลอดภัย

"ที่ผ่านมาเราก็เรียกร้องให้รัฐบาลเกิดความชัดเจน ในการสานต่อนโยบายและทิศทาง เพราะเวลาเปลี่ยนแปลงรัฐบาล มักจะมีความไม่แน่ใจว่านโยบายจะไปในทิศทางไหน อย่างไร ที่ผ่านมาก็มีความเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งเราเพิ่งแสดงความห่วงใยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็อยากเป็นกำลังใจให้รัฐบาล และตั้งหลักในการทบทวนสถานการณ์ทั้งหมด เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในเมือง มาตรการในเรื่องการข่าว และการดูแลความปลอดภัย ซึ่งคงจะต้องมีความเข้มงวดกวดขันและตรวจตราในหลายเรื่อง ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าอาจจะมีความไม่สะดวกบ้างเวลาที่มีมาตรการในลักษณะนี้ "นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ต่อมาเวลา 11.30 น.นายอภิสิทธิ์ และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณถนนสายรวมมิตร เขตเทศบาลนคร ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้บ้านเรือน รถยนต์ รถจักรยานยนต์เสียหายนับสิบ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ก่อนเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีอาการสาหัสจำนวน 10 ราย ที่โรงพยาบาลยะลา พร้อมนำเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และกระเช้าเยี่ยมไปมอบให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย

**เตือน"ปู"ระวังซ้ำรอย "โจรกระจอก"

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า คาร์บอมบ์ทั้งสองจุดมีการใช้รถยนตร์ที่ขโมยไป นำไปก่อเหตุ โดยที่ทั้ง 2 แห่งก็คงเป็นการใช้ระเบิดที่ประกอบขึ้นเองตามที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ชี้แจง และตนก็เห็นว่า มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้จากการสอบถามข้อมูลจากแม่ทัพภาคที่ 4 ก็เชื่อว่า จะได้ข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิดด้วย แต่สิ่งสำคัญตนคิดว่า มีภาพใหญ่ในเชิงนโยบาย ที่ต้องไปทบทวนสถานการณ์ว่า สิ่งที่เกิดเหตุรุนแรงมากขึ้นเพราะอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่รัฐบาลเคยระบุว่า ให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. ไปเจรจากับกลุ่มผู้ก่อควาไม่สงบ จนทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องมีการตรวจสอบว่า มีการเปลี่ยนแปลงความเคลื่อนไหวอะไร หรือไม่ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลชุดที่แล้วมีการเจรจาในทางลับ แต่รัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้ดำเนินการนั้นเห็นว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดำเนินการ ก็น่าจะต่อเนื่อง แต่เห็นว่ามีปัญหาในระดับฝ่ายนโยบาย และฝ่ายการเมืองที่เปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติงานที่ส่งลงไปในพื้นที่ อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าในพื้นที่ไม่มีการยอมรับ พล.ต.ท.ทวีหรือไม่ แต่ตนอยากให้นายกฯ หรือรองนายกฯ ที่รับผิดชอบ หรือรมต.คนใดคนหนึ่งเอาใจใส่ติดตามประเด็นต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อติดตามไม่ให้รื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่

เมื่อถามว่า การพูดต่อสาธารณะของผู้ที่ทำงานด้านความมั่นคง จะต้องระมัดระวังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ โดยเฉพาะฝ่ายนโยบาย ซึ่งต้องยอมรับว่า เคยมีการพูดช่วงที่มีการยิงชาวบ้าน ก็มีการพุดจาในลักษณะที่ไม่ระมัดระวังคำพูดในช่วงแรก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่เกิดเหตุเมื่อปี 2549 เชื่อว่าการเกิดเหตุครั้งนี้ ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งต้อมยอมรับว่าชาวต่างประเทศก็คงกังวล ซึ่งขณะนี้ทราบว่า เริ่มมีการยกเลิกที่พักในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว และเห็นว่า การที่นายกฯ ระบุว่าเหตุดังกล่าว เป็นการก่อเหตุของกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่กลุ่มใหญ่นั้น เป็นเรื่องที่น่ากลัว และในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ ก็จะมีการตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้อย่างแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่า ความรุนแรงจะกลับไปซ้ำรอยเหมือนสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องให้ความชัดเจน ปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง มีความเป็นเอกภาพ และหากนายกฯ สามารถเดินทางลงพื้นที่ได้ ก็ต้องลงไปให้กำลังใจเยี่ยมเยือนประชาชน แต่วันนี้ตนรู้สึกแปลกใจที่นายกฯไม่ได้ลงไปยังพื้นที่ แต่ก็ยังส่งลูกน้องมาด่าคนที่ไป ซึ่งตนไม่เข้าใจ และเห็นว่าเป็นเรื่องใจดำ และไม่น่าเชื่อว่าตนลงไปก็ไม่ได้ไปสร้างปัญหา แต่ลงไปเป็นกำลังใจให้กับประชาชน ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ควรจะมี และถือว่าใจดำมาก.
กำลังโหลดความคิดเห็น