xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ร่ายปรองดองผ่านทีวี ชี้ต้องยึดหลักให้ใจ ให้อภัย เสียสละ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยิ่งลักษณ์” จ้อผ่านจอทีวี ร่ายแนวทางปรองดอง ต้องยึดหลักให้ใจ ให้อภัย เสียสละ มองไปข้างหน้า พาประเทศก้าวเดิน ลั่นใช้ความเป็นผู้หญิงเอื้อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานและความปรองดอง ไม่ประเมินผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล ดูผลโพลแล้วแก้ไข


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (24 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ซึ่งเป็นการบันทึกรายการไว้ล่วงหน้า โดยมี น.ส.ตวงพร อัศววิไล เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า แนวทางการสร้างความปรองดองหากจะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าก็ควรที่จะเปิดรับความคิดเห็นของทุกคน และอยากให้มีการแลกเปลี่ยนกันบนเวทีของสภา หรือคณะกรรมาธิการอย่างเต็มที่ ซึ่งอยากให้ภารกิจนี้อยู่ในมือของฝ่ายนิติบัญญัติ เนื่องจากเป็นตัวแทนของภาคประชาชนอย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องการเพิกถอนผลทางกฎหมายของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งท่าทีจากฝ่ายตรงข้ามเหมือนรับไม่ได้นั้น นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าถ้าเรามาคุยกันเพื่อหาทางออก มันเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง ซึ่งเราควรที่จะมีการวางเป้าหมายร่วมกัน เชื่อว่าสิ่งที่คนในประเทศอยากเห็น คือการที่ประเทศเดินไปข้างหน้า คือการสร้างความสามัคคีปรองดองในชาติได้อย่างไร ซึ่งควรจะมีหลักแนวคิดยึดร่วมกันก่อน ถ้าเรามัวแต่ไปหาคำตอบเราจะไม่มีทางออก จึงอยากให้ย้อนกลับไปสู่หลักก่อนแต่ต้องยึดหลักความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และเป็นไปตามกฎหมายที่ทุกคนยอมรับได้

ส่วนกรณีบุคคล 47 คนที่อยู่ในวงขัดแย้งยังไม่เปลี่ยนทัศนคติ ทำให้การเดินหน้าลำบากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หากต้องการหาทางออกให้กับประเทศ บางครั้งเราต้องรู้จักคำว่า อภัยให้กันด้วย อย่าเพียงมองแต่จุดของเรา โดยที่เรายังไม่ได้มองในจุดของการให้อภัย ซึ่งจะนำมาซึ่งการคิดหาทางออกให้ประเทศเป็นเรื่องยาก ก็เชื่อว่าถ้าทุกคนมาร่วมกันเสียสละ และให้อภัยซึ่งกัน เพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ก็เชื่อว่าทุกคนจะให้การสนับสนุน แต่ที่สำคัญก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามถึงการเยียวยา ทำไมถึงไม่รอให้ความจริงปรากฏก่อนจึงค่อยเยียวยา ซึ่งมีการนำเปรียบเทียบกับการเยียวยาเหยื่อจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าเรามาพูดคุยกันเรื่องของคำว่า เยียวยา ควรจะทำก่อนไหม หรือรอความจริงก่อนไหม มันเหมือนกับคำพูดที่ ไก่เกิดก่อนไข่ ไข่เกิดก่อนไก่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าในความรู้สึกของผู้คนโดยเฉพาะการสูญเสีย เชื่อว่าทุกคนไม่อยากเห็น ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูก ซึ่งในแง่ของมนุษยธรรมเขาจะได้รับการดูแลเยียวยาจิตใจ ซึ่งเขาก็จะมีความพร้อมในการที่หาทางออกในภาพรวมต่อไป

เมื่อถามถึงการบริหารราชการมา 6-7 เดือน ประเมินการทำงานของตัวเองอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เป็นนักเรียนไม่ควรที่จะประเมินตัวเอง ตลอดเวลาติดตามผลโพลต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงตนเอง ส่วนการต้องเผชิญทาง 3 แพร่งที่หนักหนาเมื่อเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว เราต้องใช้ความเป็นผู้หญิงเพื่อเข้าหา เจรจาเพื่อให้เกิดบรรยากาศของการพูดคุยกันมากขึ้น ซึ่งเราควรจะมองแต่ละแพร่งนั้นว่าจะหาทางออกให้ประเทศชาติได้อย่างไร ที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามากแล้ว หลังจากนี้ถ้าเรามีโอกาสได้มาจับเข่าใช้ใจคุยกัน และมีความรู้สึกให้อภัย เห็นอกเห็นใจกัน และการเสียสละในการทำงานร่วมกัน จะเป็นพลังในการฟันฝ่าทางสามแพร่งนี้ออกไปให้ได้

“เราเองต้องใช้ความเป็นผู้หญิง ใช้เพื่อเอื้อให้เกิดประโยชน์ในการทำงาน และทำให้เกิดการปรองดอง บรรยากาศต่าง ถ้าได้มีการพูดคุยกัน ใช้ใจ ให้อภัยกัน และเป็นการเสียสละ เชื่อว่า ความสามัคคีก็จะเกิดขึ้น ตรงนี้จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้”

สำหรับความสัมพันธ์กับกองทัพนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า บทบาทของกองทัพก็มีหน้าที่ในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงการดูแลความสุขของพี่น้องประชาชน ความมั่นคนของประเทศชาติ ถ้าตราบใดที่เราเองยังทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ล่วงเกินก้าวก่ายซึ่งกันและกัน และอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ของประเทศชาติ และส่วนรวมเป็นหลัก เชื่อว่ารัฐบาลจะทำงานร่วมกับกองทัพได้
กำลังโหลดความคิดเห็น