ตำรวจนนทบุรี ทลายไร่ต้นใบกระท่อมเกือบ 200 ต้น ปลูกอยู่บนคันดินรอบสวนผักและตามคันนาย่านไทรน้อย เจ้าของรับสารภาพปลูกมากว่า 5 ปี เพื่อขายให้แรงงานในพื้นที่กิโลกรัมละ 100 บาท
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.นพรัตน์ รินทผล รองผบ.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.ไทรน้อย พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร รองผกก.สส.สภ.ไทรน้อย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 16/2 ม.6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และบ้านเลขที่ 9 ม.6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งปลูกต้นกระท่อมรายใหญ่จำหน่ายให้กับผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้ และผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่าได้มารับซื้อใบกระท่อมจากบ้านหลังดังกล่าวจากการเข้าตรวจค้นบ้านหลังแรกบนเนื้อที่ 2 ไร่พบต้นกระท่อมจำนวน 56 ต้น สูง 3 เมตร ลำต้นกว้าง 6-12 นิ้ว อายุ 5-6 ปี ปลูกเรียงรายอยู่บริเวณคันดินรอบสวนผักโดยแต่ละต้นมีการติดตั้งสปริงเกอร์ฉีดน้ำเลี้ยงอย่างเป็นระบบ จึงควบคุมตัว นายไพรัตน์ รักชาติ อายุ 44 ปี เจ้าของไร่มาสอบสวนซึ่งผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นเจ้าของต้นกระท่อมทั้งหมดจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ปลูกเอาไว้จำหน่ายแต่ปลูกไว้กินเอง ส่วนบ้านหลังที่สองซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 500 เมตร บนเนื้อที่ 7 ไร่ พบต้นกระท่อมอีกกว่า 100 ต้นลำต้นกว้าง 7-8 นิ้ว สูง 2-3 เมตร ปลูกเรียงรายอยู่รอบคันนาจึงควบคุมตัว นายสุรินทร์ มีดี อายุ 64 รับเป็นเจ้าของให้การรับสารภาพว่าต้นกระท่อมทั้งหมดเป็นของตนเองโดยปลูกมากว่า 5 ปีแล้ว เดิมที่มีเพียง 2 ต้นเท่านั้น ส่วนที่มีต้นกระท่อมกว่า 100 ต้นนั้น เนื่องจากต้นกระท่อมเป็นต้นที่มีการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติอย่างรวดเร็วจึงแพร่พันธุ์ได้ง่าย ส่วนลูกค้าที่มาซื้อใบกระท่อมจากตนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานหนักในพื้นที่ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนมาซื้อเพียงไม่กี่ร้อยบาท โดยตนจะขายเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทซึ่ง 1 กก.จะได้ใบกระท่อมประมาณ 1 พันใบ
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขนใบกระท่อม และถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ได้ให้การซัดทอดว่า ได้เข้ามารับซื้อใบกระท่อมทั้งหมดในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าทีตำรวจชุดสืบสวนเร่งหาข่าวจนสืบทราบว่าบ้านทั้ง 2 หลัง เป็นแหล่งปลูกต้นกระท่อมรายใหญ่ และจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจนพบต้นกระท่อมร่วมกันเกือบ 200 ต้น จึงได้ประสานงานขอเลื่อยไฟฟ้าจากเทศบาลไทรน้อยเข้ามาตัดยึดทำลายต้นกระท่อมทั้งหมดส่ง สภ.ไทรน้อย
ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองรายได้แจ้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( กระท่อม ) พร้อมทั้งจะเร่งสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ว่า มีส่วนร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งใบกระท่อมจะสามารถนำไปทำเป็นยาเสพติดเรียกว่า 4 คูณ 100 ที่กำลังระบาดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ด้วย
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.นพรัตน์ รินทผล รองผบ.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก.สภ.ไทรน้อย พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร รองผกก.สส.สภ.ไทรน้อย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 16/2 ม.6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และบ้านเลขที่ 9 ม.6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งปลูกต้นกระท่อมรายใหญ่จำหน่ายให้กับผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้ และผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดว่าได้มารับซื้อใบกระท่อมจากบ้านหลังดังกล่าวจากการเข้าตรวจค้นบ้านหลังแรกบนเนื้อที่ 2 ไร่พบต้นกระท่อมจำนวน 56 ต้น สูง 3 เมตร ลำต้นกว้าง 6-12 นิ้ว อายุ 5-6 ปี ปลูกเรียงรายอยู่บริเวณคันดินรอบสวนผักโดยแต่ละต้นมีการติดตั้งสปริงเกอร์ฉีดน้ำเลี้ยงอย่างเป็นระบบ จึงควบคุมตัว นายไพรัตน์ รักชาติ อายุ 44 ปี เจ้าของไร่มาสอบสวนซึ่งผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นเจ้าของต้นกระท่อมทั้งหมดจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ปลูกเอาไว้จำหน่ายแต่ปลูกไว้กินเอง ส่วนบ้านหลังที่สองซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 500 เมตร บนเนื้อที่ 7 ไร่ พบต้นกระท่อมอีกกว่า 100 ต้นลำต้นกว้าง 7-8 นิ้ว สูง 2-3 เมตร ปลูกเรียงรายอยู่รอบคันนาจึงควบคุมตัว นายสุรินทร์ มีดี อายุ 64 รับเป็นเจ้าของให้การรับสารภาพว่าต้นกระท่อมทั้งหมดเป็นของตนเองโดยปลูกมากว่า 5 ปีแล้ว เดิมที่มีเพียง 2 ต้นเท่านั้น ส่วนที่มีต้นกระท่อมกว่า 100 ต้นนั้น เนื่องจากต้นกระท่อมเป็นต้นที่มีการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติอย่างรวดเร็วจึงแพร่พันธุ์ได้ง่าย ส่วนลูกค้าที่มาซื้อใบกระท่อมจากตนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานหนักในพื้นที่ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนมาซื้อเพียงไม่กี่ร้อยบาท โดยตนจะขายเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทซึ่ง 1 กก.จะได้ใบกระท่อมประมาณ 1 พันใบ
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขนใบกระท่อม และถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ได้ให้การซัดทอดว่า ได้เข้ามารับซื้อใบกระท่อมทั้งหมดในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าทีตำรวจชุดสืบสวนเร่งหาข่าวจนสืบทราบว่าบ้านทั้ง 2 หลัง เป็นแหล่งปลูกต้นกระท่อมรายใหญ่ และจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจนพบต้นกระท่อมร่วมกันเกือบ 200 ต้น จึงได้ประสานงานขอเลื่อยไฟฟ้าจากเทศบาลไทรน้อยเข้ามาตัดยึดทำลายต้นกระท่อมทั้งหมดส่ง สภ.ไทรน้อย
ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองรายได้แจ้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ( กระท่อม ) พร้อมทั้งจะเร่งสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ว่า มีส่วนร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งใบกระท่อมจะสามารถนำไปทำเป็นยาเสพติดเรียกว่า 4 คูณ 100 ที่กำลังระบาดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ด้วย