ASTVผู้จัดการรายวัน - โบรกฯ คงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น "น้ำตาลขอนแก่น " ราคาเป้าหมาย 18 บาท อิง PER 13.5 เท่า คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานอีก 2 ไตรมาสข้างหน้าเติบโตโดดเด่น เพราะเป็น high season ของการส่งออกน้ำตาล และปริมาณอ้อยเข้าหีบปีนี้มีแนวโน้มสูงกว่าคาด ขณะผลการดำเนินงานของโรงงานที่ลาวและกัมพูชายังมีแนวโน้มขาดทุนราว 100 ล้านบาทในปีนี้ แต่ประเมินว่าผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของโรงงานในไทยจะช่วยหักล้างผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในลาวและกัมพูชาได้
บริษัท หลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย ) จำกัด (มหาชน) ประเมินผลงาน ประเมินผลงาน บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL มองจากปริมาณอ้อยเข้าหีบมากกว่าคาด เพราะ ล่าสุด (20 มี.ค. 55) ปริมาณอ้อยเข้าหีบของ KSL รวมทั้ง 4 โรงงาน 6.82 ล้านตันอ้อย คิดเป็น 97% ของเป้าหมายเดิมที่ 7 ล้านตันอ้อย ขณะที่ยังมีเวลาในการหีบอ้อยฤดูกาลนี้อีกราว 3-4 สัปดาห์ ทำให้คาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูกาลนี้จะเพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิมเป็น 7.5 ล้านตันอ้อย หรือเพิ่มขึ้น 21.5% จากปีก่อน ทำให้คาดปริมาณขายน้ำตาลปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 21.7% จากปีก่อน เป็น 7.5 แสนตัน คาดราคาส่งออกน้ำตาลเฉลี่ยของ KSL ที่ 26 เซนต์/ปอนด์ (สูงกว่าที่อนท.ขายได้ที่ 24.7 เซนต์/ปอนด์)
นอกจากนี้ ยังคาดว่าปริมาณผลิตเอทานอลในปีนี้เพิ่มขึ้น 172% yoy เป็น 80 ล้านลิตร และต้นทุนกากน้ำตาลที่ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2.5 บาท/กก. (ลดลงประมาณ 45% จากปีก่อน ) ขณะที่ราคาขายเอทานอลทรงตัวที่ 20-21 บาท/ลิตร แต่ KSL ปรับเป้ายอดขายเอทานอลปีนี้ลงเป็น 80 ล้านลิตร (เดิม 90 ล้านลิตร) เพราะทำการปรับปรุงสายการผลิต เอทานอลเกรดพิเศษที่มีราคาสูงกว่าปกติราว 10-15% คาดแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 55 ทำให้มีปริมาณผลิตเอทานอลราว 10 ล้านลิตรที่ต้องเลื่อนการส่งมอบไปยัง 1Q55/56 (พ.ย.55-ม.ค.56)
ทั้งนี้ KSL ทำสัญญากับลูกค้าในการส่งเอทานอลเกรดพิเศษปีละ 20 ล้านลิตรในระยะ 5 ปี ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าคาดจะสามารถขายไฟฟ้าได้มากขึ้น 39% จากปีก่อน เป็น 240 MW-HR ในปีนี้ จากปริมาณกากอ้อยที่เพิ่มขึ้นมากตามปริมาณอ้อยเข้าหีบ และการขยายกำลังการผลิตบ่อพลอยเฟส 2
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในประเทศไทยจะเติบโตโดดเด่น แต่ผลการดำเนินงานที่ประเทศลาวและกัมพูชาจะเป็นปัจจัยถ่วงผลการดำเนินงาน คาดจะมีอ้อยเข้าหีบเพียง 2.5 แสนตัน ลดลง 17% จากปีก่อน เพราะผลผลิตอ้อยที่แย่กว่าคาด ทำให้ปีนี้ KSL จะยังคงรับรู้ผลขาดทุนราว 100 ล้านบาทจากโรงงานที่ลาวและกัมพูชา
ดังนั้น กิมเอ็งฯ จึงคงคำแนะนำ " ซื้อ " KSL ด้วยราคาเป้าหมาย 18 บาท (จากเดิม 15.50 บาท) อิง PER 13.5 เท่า คิดเป็น -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานย้อนหลัง 5 ปี เว้นปี 52/53 กิมเอ็งฯ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54/55 ( พ.ย.54-ต.ค.55 ) ขึ้นเล็กน้อย 1.5% เป็น 2.26 พันล้านบาท โดยได้คำนึงถึงปริมาณอ้อยเข้าหีบที่มากกว่าคาด และผลการดำเนินงานของโรงงานที่ลาวและกัมพูชาที่ต่ำกว่าคาดในประมาณการใหม่แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงการลงทุนใน KSL คือ ราคาน้ำตาลในปี 55/56 ( พ.ย.55-ต.ค.56) มีโอกาสที่จะต่ำกว่าปีนี้เพราะดุลน้ำตาลของโลกที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น จึงกำหนดเป้าหมาย PER ที่ Discount จากค่าเฉลี่ยในอดีต
บริษัท หลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย ) จำกัด (มหาชน) ประเมินผลงาน ประเมินผลงาน บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL มองจากปริมาณอ้อยเข้าหีบมากกว่าคาด เพราะ ล่าสุด (20 มี.ค. 55) ปริมาณอ้อยเข้าหีบของ KSL รวมทั้ง 4 โรงงาน 6.82 ล้านตันอ้อย คิดเป็น 97% ของเป้าหมายเดิมที่ 7 ล้านตันอ้อย ขณะที่ยังมีเวลาในการหีบอ้อยฤดูกาลนี้อีกราว 3-4 สัปดาห์ ทำให้คาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบฤดูกาลนี้จะเพิ่มขึ้นจากสมมติฐานเดิมเป็น 7.5 ล้านตันอ้อย หรือเพิ่มขึ้น 21.5% จากปีก่อน ทำให้คาดปริมาณขายน้ำตาลปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 21.7% จากปีก่อน เป็น 7.5 แสนตัน คาดราคาส่งออกน้ำตาลเฉลี่ยของ KSL ที่ 26 เซนต์/ปอนด์ (สูงกว่าที่อนท.ขายได้ที่ 24.7 เซนต์/ปอนด์)
นอกจากนี้ ยังคาดว่าปริมาณผลิตเอทานอลในปีนี้เพิ่มขึ้น 172% yoy เป็น 80 ล้านลิตร และต้นทุนกากน้ำตาลที่ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2.5 บาท/กก. (ลดลงประมาณ 45% จากปีก่อน ) ขณะที่ราคาขายเอทานอลทรงตัวที่ 20-21 บาท/ลิตร แต่ KSL ปรับเป้ายอดขายเอทานอลปีนี้ลงเป็น 80 ล้านลิตร (เดิม 90 ล้านลิตร) เพราะทำการปรับปรุงสายการผลิต เอทานอลเกรดพิเศษที่มีราคาสูงกว่าปกติราว 10-15% คาดแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 55 ทำให้มีปริมาณผลิตเอทานอลราว 10 ล้านลิตรที่ต้องเลื่อนการส่งมอบไปยัง 1Q55/56 (พ.ย.55-ม.ค.56)
ทั้งนี้ KSL ทำสัญญากับลูกค้าในการส่งเอทานอลเกรดพิเศษปีละ 20 ล้านลิตรในระยะ 5 ปี ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าคาดจะสามารถขายไฟฟ้าได้มากขึ้น 39% จากปีก่อน เป็น 240 MW-HR ในปีนี้ จากปริมาณกากอ้อยที่เพิ่มขึ้นมากตามปริมาณอ้อยเข้าหีบ และการขยายกำลังการผลิตบ่อพลอยเฟส 2
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในประเทศไทยจะเติบโตโดดเด่น แต่ผลการดำเนินงานที่ประเทศลาวและกัมพูชาจะเป็นปัจจัยถ่วงผลการดำเนินงาน คาดจะมีอ้อยเข้าหีบเพียง 2.5 แสนตัน ลดลง 17% จากปีก่อน เพราะผลผลิตอ้อยที่แย่กว่าคาด ทำให้ปีนี้ KSL จะยังคงรับรู้ผลขาดทุนราว 100 ล้านบาทจากโรงงานที่ลาวและกัมพูชา
ดังนั้น กิมเอ็งฯ จึงคงคำแนะนำ " ซื้อ " KSL ด้วยราคาเป้าหมาย 18 บาท (จากเดิม 15.50 บาท) อิง PER 13.5 เท่า คิดเป็น -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานย้อนหลัง 5 ปี เว้นปี 52/53 กิมเอ็งฯ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54/55 ( พ.ย.54-ต.ค.55 ) ขึ้นเล็กน้อย 1.5% เป็น 2.26 พันล้านบาท โดยได้คำนึงถึงปริมาณอ้อยเข้าหีบที่มากกว่าคาด และผลการดำเนินงานของโรงงานที่ลาวและกัมพูชาที่ต่ำกว่าคาดในประมาณการใหม่แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงการลงทุนใน KSL คือ ราคาน้ำตาลในปี 55/56 ( พ.ย.55-ต.ค.56) มีโอกาสที่จะต่ำกว่าปีนี้เพราะดุลน้ำตาลของโลกที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น จึงกำหนดเป้าหมาย PER ที่ Discount จากค่าเฉลี่ยในอดีต