xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.แฉขบวนการบิดเบือนกลไกตลาดทำสินค้าราคาพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงปัญหาราคาสินค้าแพง
โฆษก ปชป.แฉมีขบวนการบิดเบือนกลไกตลาดของพ่อค้าคนกลาง ทำสินค้าราคาแพง พร้อมเรียกร้องให้รัฐอุดหนุนก๊าซเอ็นจีวี-แอลพีจี ให้คนไทยใช้ราคาถูก อย่าอ้างตลาดโลก และเขมรใช้แพง เพราะไทยเป็นผู้ผลิตเอง ซัดนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากอินโดฯ ทั้งที่ในไทยมีเพียงพอต่อการผลิต ชี้ ปตท.ถือหุ้นบริษัทน้ำมันปาล์มในอินโดฯ เสี่ยงมีเอี่ยวสมคบคิดกันเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำเข้า เสนอ 4 มาตรการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการทันที่ ก่อนถึงยุคข้าวยากหมากแพง

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงปัญหาราคาสินค้าแพงว่า หลังจากที่พรรคได้มีการเปิดดศูนย์ปราบของแพง (ศปพ.) และเฟซบุ๊กแพงทั้งแผ่นดิน ก็ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนมากมาย โดยเราได้ไปตรวจสอบพบว่าผลผลิตที่ต้นทางมีราคาถูก และพ่อค้าคนกลางมีการกดราคา ทำให้เมื่อมาขายถึงมือประชาชนกลับมีราคาแพง สะท้อนว่ามีการบิดเบือนกลไกราคาในส่วนของพ่อค้าคนกลาง เช่น ราคาปาล์มน้ำมัน จากการตรวจสอบราคาพบว่า ปาล์มร่วงชนิดคละ ปีทีแล้วมีราคา 6.68 บาท แต่ปีนี้ราคาตกลงเหลือ 6.27 บาทจึงไม่น่าจะมีปัญหาตามที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่าเกิดปัญหาขาดแคลน และไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากประเทศอินโดนีเซีย เพราะตัวแทนผู้ผลิตก็ออกมาระบุว่าผลปาล์มยังมีเหลือและเพียงพอต่อการผลิตน้ำมันปาล์ม

“ยอมรับว่าราคาผลปาล์มมีราคาถูกกว่าสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่รัฐบาลกลับอ้างว่าผลปาล์มขาดแคลน และราคามีการถีบตัวสูง ผู้เชี่ยวชาญในวงการน้ำมันปาล์มจึงได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการสบคบคิดกัน และเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำเข้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งโรงงานน้ำมันปาล์มดิบในประเทศอินโดนีเซียที่รัฐบาลอาจจะนำเข้ามา ทราบมาว่า ปตท.ก็ไปลงทุนถือหุ้นด้วย จึงถือเป็นการสุมหัวกันทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ ทั้งนี้ ทางพรรคจะมีการติดตามตรวจสอบกันต่อไป”

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ส่วนราคามะนาวที่หน้าสวนนั้น ตรวจสอบพบว่าขายอยู่ที่ราคาลูกละ 4 บาท แต่พอมาขายถึงมือประชาชนกลับมีราคาลูกละ 9-10 บาท ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ราคามะนาวหน้าสวนเมื่อถึงมือประชาชนจะแตกต่างกันได้ถึงขนาดนี้ นอกจากมีคนจงใจหากินกับความลำบากของประชาชน พรรคอยากเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูว่ามีการกักตุนสินค้าหรือไม่ หรือมีการบิดเบือนกลไก เพราะมีข่าวว่ามีพ่อค้าคนกลางไปกว้านซื้อมาเก็บไว้ในสต๊อกตัวเอง ทำให้เป็นผู้กำหนดราคามะนาวในประเทศได้ อยากถามว่าทำไมกระทรวงพาณิชย์ไม่พูดว่าจะนำเข้ามะนาวเอามาสู้กับพ่อค้าคนกลางเหล่านี้บ้าง รัฐบาลไม่เห็นมีท่าทีช่วยเหลือประชาชน กระทรวงพาณิชย์มัวไปทำอะไรอยู่

นายชวนนท์กล่าวว่า จากการตรวจสอบราคาผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ก็พบว่าราคาตกต่ำลงทุกตัว เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระเทียม หอมหัวใหญ่ สัปปะรดโรงงาน แต่พอนำผลผลิตทางการเกษตรเหล่านี้มาปรุงเป็นอาหารให้ประชาชนกลับมีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ ทางพรรคยังได้มีการตรวจสอบราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ขณะนี้หน้าฟาร์มขายฟองละ 2.40 บาท ต้องยอมรับว่าราคาไข่ในรัฐบาลสมัยนี้ถูกกว่าสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการนำเข้าพ่อไก่ แม่ไก่ ซึ่งทำให้มีการวางไข่ในช่วงเดือน ธ.ค.พอดี ทำให้ขณะนี้ราคาไข่ถูก แต่เมื่อตรวจสอบดูกลับพบว่ามีการขายไข่ไก่คละอยู่ฟองละ 3.40 บาท ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจจะมีกินส่วนต่าง ทั้งที่ประชาชนไม่ควรซื้อไข่ไก่คละไม่เกินฟองละ 3 บาท

“ที่แย่คือถ้าเอาไปต้ม ไปเจียว ราคาจะขึ้นเป็น 10 บาท มันไม่ได้มีแต่เรื่องอุปสง อุปทานเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของน้ำมัน และอื่นๆ ทำให้ราคาสูงโดยไม่มีเหตุผล รัฐบาลก็พยายามไปบิดเบือนกลไกตลาดที่ปลายทาง โดยไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นทางด้วยความเข้าใจ ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากความไม่รู้ของรัฐบาล หรือรวมหัวกันคอร์รัปชั่นบนความลำบากของประชาชน”

ส่วนที่ ครม.อนุมัติโครงการธงฟ้างบประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยจะตั้งโครงการธงฟ้าจำนวน 50,000 แห่งทั่วประเทศนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า โครงการเหล่านี้ตั้งขึ้นมาให้พ่อค้าคนกลางได้ประโยชน์ ผูกขาดในการเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าในแต่ละหมู่บ้าน การที่ราคาสินค้าแพงเพราะท่านไปรวมหัวกับพ่อค้าคนกลางปั่นราคาขึ้นมาหรือไม่ แทนที่จะทำโครงการเอาไปให้เกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วม สามารถนำสินค้าขายกันโดยตรง ซึ่งอาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ไม่ใช่ให้พ่อค้ามารับเซ้งเองทั้งหมด

ดังนั้น ตนจึงอยากเสนอมาตรการให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ 1. แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ให้ดูที่ต้นทางว่าการบิดเบือนกลไกราคาเกิดจากกักตุนสินค้า ดันราคาขึ้นเพื่อหาประโยชน์ใช่หรือไม่ 2. ขอเรียกร้องรัฐบาลให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาททันที เพราะราคาน้ำมันสะท้อนต้นทุนเกือบทุกชนิด หากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มขึ้นอยู่แบบนี้ ก็จะส่งผลต่อราคาสินค้าทุกชนิดอย่างแน่นอน

3. ขอให้รัฐบาลกลับมาตรึงราคาก๊าซทั้งเอ็นจีวีและแอลพีจีไม่เกิน 8.50-9 บาท เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยรัฐบาลสามารถใช้เงินจากกองทุนน้ำมันที่เก็บจากน้ำมันเบนซินมาอุดหนุนได้ รวมทั้ง ปตท.ก็ควรเสียสละลดกำไรส่วนเกินของตัวเองมาดูแลประชาชน ทั้งนี้ ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานทดแทนอย่างเอ็นจีวี และแอลพีจีได้เอง รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องไปอ้างอิงราคาตลาดโลก และบอกว่าขณะนี้ประเทศกัมพูชาก็ใช้ก๊าซแพงกว่าเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่กัมพูชาต้องใช้ก๊าซแพงกว่าเรา เพราะเขานำเข้าก๊าซจากประเทศไทย การออกมาพูดเช่นนี้ท่านสุมหัวกับประเทศกัมพูชาอยู่หรือไม่

ดังนั้น ขอให้เลิกอ้างอิงราคาตลาดโลกได้แล้ว เพราะเราเป็นผู้ผลิตเอง คนไทยก็ต้องใช้ก๊าซในราคาที่ถูกด้วย และ 4. ขอสนับสนุนให้รัฐบาลใช้พลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือกต่อไป เพราะสาเหตุที่ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำส่วนหนึ่งมาจากท่านไม่สนับสนุนการใช้แก็สโซฮอลล์ ราคาส่วนต่างกันแค่ 1 บาท ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันไปใช้น้ำมันเบนซิน เมื่อไม่มีใครเติม ความต้องการเอสทานอลที่สกัดจากกากน้ำตาลที่ได้จากอ้อย และมันสำปะหลัง ก็ลดลงเป็นสาเหตุให้ราคาตกต่ำ ดังนั้น ทางพรรคจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอโดยทันที ก่อนที่จะถึงยุคข้าวยากหมากแพงอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น