รมว.พลังงาน ย้ำ รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นายกฯ กำชับหน่วยงานภาครัฐประหยัดพลังงานลง 10% ด้านเอกชนห่วง ราคาพลังงาน-ค่าแรง-ภาวะ ศก.กระทบต้นทุนผู้ประกอบการ แต่ยังไม่มีรายใดขอขึ้นราคา ยอมแบกรับภาระก่อน ชี้ อุตสาหกรรมหนัก เช่น เหล็ก เริ่มกระทบแล้ว ขณะที่กลุ่มอาหารเริ่มมีบ้างแล้ว
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวชี้แจงกระทู้ถามที่ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดปราจีนบุรี ถามถึงเรื่องการเพิ่มขึ้นของราคาเชื้อเพลิงที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่า ขณะนี้ราคาพลังงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยรัฐบาลพยายามทำให้เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน รวมทั้งสะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริง
ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และลดภาระให้กับประชาชน โดยเฉพาะในส่วนของก๊าซหุงต้มที่ใช้ในครัวเรือน รัฐบาลได้ตรึงราคาไว้จนถึงสิ้นปีแล้ว ส่วนการลดภาษีน้ำมันดีเซลได้มีการปรับลดไปแล้ว 4 ครั้ง และทางกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะมีการดูราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการส่งเสริมและวิจัยพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก เพราะในอีก 10 ปีข้างหน้า ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับ และขอความร่วมมือจากภาครัฐทั้งหมด ในการประหยัดพลังงานลงร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางเริ่มต้นในการประหยัดพลังงาน
ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัญหาต้นทุนราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งจาก ราคาพลังงาน ค่าแรง และภาวะเศรษฐกิจ ย่อมมีผลกระทบต่อต้นทุน การผลิตสินค้าของผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการ จะพยายามแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้น ก่อนส่งผ่านไปยัง ราคาสินค้า
นายพยุงศักดิ์ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการแสดงความจำนง ขอปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ ต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น เริ่มมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหนัก อาทิ เหล็ก ขณะที่ กลุ่มอาหาร เริ่มมีผลกระทบบ้าง