ASTVผู้จัดการรายวัน-กระทรวงอุตสาหกรรมรับใบสั่ง”ปู” เอาอยู่แจง”ฮอนด้า”ไม่ได้ย้ายฐานไปอินโดนีเซีย ลั่นเป็นการขยายการลงทุนต่างประเทศปกติที่คิดล่วงหน้ามาเป็นปีก่อนน้ำท่วมแล้ว ขณะที่ไทยเตรียมเปิดโรงงาน 31 มี.ค. หลังฟื้นจากน้ำท่วม เตรียมโชว์ตัวเลขจ่ออนุมัติลงทุนผ่านบีโอไอ 28 มี.ค. ด้านฮอนด้ารีบแจง โปรยยาหอมไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์หลักที่สำคัญของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซียแน่นอน
กระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปโรดโชว์ญี่ปุ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนถึงแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่ผ่านไปได้เพียง 1 สัปดาห์ฮอนด้ากลับประกาศย้ายการลงทุนไปอินโดนีเซียส่งผลนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวทันที
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงวานนี้(21มี.ค.) ว่า ได้รับคำยืนยันจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ยืนยันการลงทุนในประเทศไทยตามแผนที่วางไว้ไม่ได้มีการย้ายฐานไปลงทุนยังอินโดนีเซียแต่อย่างใด ส่วนกรณีการลงทุนของเอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ ที่อินโดนีเซียเป็นการลงทุนที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว
“การตั้งโรงงานที่อินโดนีเซียของฮอนด้าเป็นการขยายโรงงานเดิมที่ผลิตได้แค่ 6 หมื่นคัน เพิ่มอีก 1.2 แสนคันเป็น 1.8 แสนคันลงทุนประมาณ 330 ล้านเหรียญฯเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นบริโอ้เพื่อป้อนตลาดอินโดนีเซียโดยเฉพาะซึ่งไม่เกี่ยวกับฐานการผลิตที่ไทยที่ฮอนด้ายังยืนยันตามแผนเดิมทุกอย่าง โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของฮอนด้าที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ประสบภาวะน้ำท่วมในวันที่ 31 มี.ค.นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
สำหรับความสำเร็จในการเยือนญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรีได้แถลงไปแล้วโดยยืนยันว่าทุกค่ายรถยนต์ยังคงที่จะลงทุนต่อเนื่องในไทยเพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์คงเดิมซึ่งวันที่ 28 มี.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ)ที่จะมีการพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนอีกจำนวนมากที่รอการพิจารณาอยู่เพื่อยืนยันถึงศักยภาพการลงทุนของไทย
ขณะเดียวกันโรงงาน 838 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการที่ถูกน้ำท่วม 7 แห่งได้เริ่มทยอยกลับมาผลิตแล้วล่าสุด 15 มี.ค.อยู่ที่ 62% ซึ่งเกินเป้าหมายที่กระทรวงคาดหวังว่าภายในสิ้นมี.ค.นี้จะมีกิจการกลับมาผลิตได้ 60%
****ฮอนด้าโต้ย้ายหนีไทย
ด้านบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รีบออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อย้ำจุดยืนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยว่า ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์หลักที่สำคัญของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปอินโดนีเซียอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการขยายกำลังผลิตในอินโดนีเซียถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาธุรกิจของฮอนด้าในระยะยาว ซึ่งแผนดังกล่าวได้มีการกำหนดมาก่อนหน้าที่โรงงานฮอนด้าที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จะประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา
การขยายการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้านอกกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอินโดนีเซีย โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตรถยนต์รุ่นบริโอ้ รุ่นสำหรับลูกค้าในประเทศอินโดนีเซียโดยเฉพาะ นอกเหนือจากการผลิตรถยนต์รุ่นอื่นที่ผลิตในปัจจุบันได้แก่ แจ๊ซ ซีอาร์-วี และฟรีด ภายใต้บริษัท พี.ที. ฮอนด้า พรอสเพคท์ มอเตอร์ (HPM) ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (51%) และ บริษัท พี.ที. พรอสเพคท์ มอเตอร์ (49%) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2542
สำหรับโรงงานฮอนด้าที่อยุธยา ฮอนด้าได้ดำเนินการฟื้นฟูโรงงานผลิตหลังจากประสบวิกฤติอุทกภัยจนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้กำหนดการจัดงานแถลงข่าวและพิธีเปิดสายการผลิตโรงงาน (Open House Ceremony) อย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555 ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมกับนายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และ ซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และนายฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
นางอัญชลี ชาลีจันทร์ ผู้จัดการส่วนสายงานองค์กรสัมพันธ์ บ.เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในอินโดนีเซียนั้นเป็นแผนงานที่ได้วางแผนไว้เป็นปีแล้วก่อนที่จะเกิดภาวะน้ำท่วม เนื่องจากประชากรมีมากกว่าไทยถึง 4 เท่า อนาคตตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก
นำเข้าเครื่องจักรทดแทน8หมื่นล.
นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)กล่าวว่า โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมประมาณ 1,700 โครงการหรือ 400 กว่าบริษัทเริ่มทยอยนำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องจักรเก่าที่เสียหายแล้วรวมเป็นมูลค่า 80,000 ล้านบาทและมีการกลับมาเริ่มการผลิตมากกว่า 50%
***รองโฆษกรัฐฯโต้ปชป.
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอบโต้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จะย้ายฐานผลิตจากประเทศไทยไปลงทุนในอินโดนีเซีย มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทว่า จากการเยือนประเทศญี่ปุ่นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริษัทฮอนด้ายืนยันที่จะอยู่ในเมืองไทย และมีแผนระยะยาวเพิ่มเงินลงทุนด้วย
ส่วนการเพิ่มเงินลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เป็นสิทธิ์ของบริษัทฯ ซึ่งฮอนด้าลงทุนเพิ่ม 1 หมื่นล้านบาท ในอินโดนีเซียก็เพื่อผลิต อีโคคาร์ คนละแนวกับที่ผลิตในบ้านเรา เรื่องนี้ รมว.อุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฮอนด้า ก็ได้ออกมาปฎิเสธแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นายชวนนท์ พูดมาเป็นเรื่องโกหก
ส่วนที่ระบุว่าสาเหตุเป็นเพราะนายกฯไปประชุมที่ญี่ปุ่น แล้วพูดภาษาไทยทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นไม่เข้าใจ และไม่เชื่อมั่นนั้น ยืนยันว่านายกฯ ปฏิบัติตามแนวทางที่ตกลงกันทั้งสิ้น และมีเอกสารให้นักธุรกิจได้อ่านด้วย และญี่ปุ่นไม่อยากจะย้ายออก เพราะกำลังซื้อในภูมิภาคนี้ รถที่ผลิตในไทยดีที่สุดแล้ว จึงอยากให้นายชวนนท์ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบกว่านี้
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภักดีหาญส์ ระบุว่าฮอนด้าไม่ได้ย้ายฐานการผลิตนั้น ตนก็ไม่ทราบว่านายภักดีหาญส์ อ่อนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อวานนี้เป็นเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริงว่าบริษัทฮอนด้าได้มีการขยายการลงทุนและเพิ่มเม็ดเงินสร้างโรงงานในประเทศอินโดนีเซียถึงกว่า1 หมื่นล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น และไม่มีเรื่องใดเลยที่เป็นการไปกล่าวอ้าง
ควรทำความเข้าใจกับศัพท์ภาษาไทย หรือศัพท์เศรษฐกิจในเรื่องของการย้ายฐานการผลิต กับการย้ายฐานการลงทุน เพราะการที่บริษัทฮอนด้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย แทนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยซึ่งมีความพร้อมและมีโรงงานอยู่แล้ว คนเป็นรองโฆษกรัฐบาลควรจะนำไปวิเคราะห์ว่าเกิดจากเหตุใด บริษัทฮอนด้าถึงได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียน เพราะหากว่าเราแสดงถึงความพร้อมในการรับการลงทุน หรือสร้างความมั่นใจให้กับเขาอย่างเพียงพอในเรื่องการป้องกันน้ำท่วม
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แถลงการณ์ของบริษัทฮอนด้าเอง ซึ่งเป็นคำกล่าวของนายฮิโรชิ โคบายาชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานภูมิภาคของบริษัทฮอนด้า ที่ยืนยันว่า การลงทุนในอินโดนีเซียนั้นจะเป็นการสร้างบทบาทให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตใหญ่ของบริษัทฮอนด้า รวมทั้งจะมีการขยายการลงทุนและจะเป็นผู้ส่งออกหลักทั้งในส่วนของรถยนต์และชิ้นส่วน คำพูดอย่างนี้ไม่ก่อให้เกิดความละอายใจแก่รัฐบาลไทยบ้างหรือ มากไปกว่านั้น ในรายงานของบริษัทฮอนด้าเอง ก็พูดชัดว่า หลังจากมีการสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซียเสร็จในปี คศ.2014 แล้ว ก็จะมีการผลิตรถยนต์ Eco car เพิ่มเติม เช่น รุ่น Brioหรือ freed, CRV หรือ ฮอนด้า Jazz ที่โรงงานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นโรงงานหลักที่จะส่งออกรถยนต์ไปทั่วโลกของบริษัท
กระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปโรดโชว์ญี่ปุ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนถึงแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่ผ่านไปได้เพียง 1 สัปดาห์ฮอนด้ากลับประกาศย้ายการลงทุนไปอินโดนีเซียส่งผลนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวทันที
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงวานนี้(21มี.ค.) ว่า ได้รับคำยืนยันจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ยืนยันการลงทุนในประเทศไทยตามแผนที่วางไว้ไม่ได้มีการย้ายฐานไปลงทุนยังอินโดนีเซียแต่อย่างใด ส่วนกรณีการลงทุนของเอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ ที่อินโดนีเซียเป็นการลงทุนที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว
“การตั้งโรงงานที่อินโดนีเซียของฮอนด้าเป็นการขยายโรงงานเดิมที่ผลิตได้แค่ 6 หมื่นคัน เพิ่มอีก 1.2 แสนคันเป็น 1.8 แสนคันลงทุนประมาณ 330 ล้านเหรียญฯเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นบริโอ้เพื่อป้อนตลาดอินโดนีเซียโดยเฉพาะซึ่งไม่เกี่ยวกับฐานการผลิตที่ไทยที่ฮอนด้ายังยืนยันตามแผนเดิมทุกอย่าง โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของฮอนด้าที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ประสบภาวะน้ำท่วมในวันที่ 31 มี.ค.นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
สำหรับความสำเร็จในการเยือนญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรีได้แถลงไปแล้วโดยยืนยันว่าทุกค่ายรถยนต์ยังคงที่จะลงทุนต่อเนื่องในไทยเพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์คงเดิมซึ่งวันที่ 28 มี.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ)ที่จะมีการพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนอีกจำนวนมากที่รอการพิจารณาอยู่เพื่อยืนยันถึงศักยภาพการลงทุนของไทย
ขณะเดียวกันโรงงาน 838 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการที่ถูกน้ำท่วม 7 แห่งได้เริ่มทยอยกลับมาผลิตแล้วล่าสุด 15 มี.ค.อยู่ที่ 62% ซึ่งเกินเป้าหมายที่กระทรวงคาดหวังว่าภายในสิ้นมี.ค.นี้จะมีกิจการกลับมาผลิตได้ 60%
****ฮอนด้าโต้ย้ายหนีไทย
ด้านบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รีบออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อย้ำจุดยืนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยว่า ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์หลักที่สำคัญของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปอินโดนีเซียอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการขยายกำลังผลิตในอินโดนีเซียถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาธุรกิจของฮอนด้าในระยะยาว ซึ่งแผนดังกล่าวได้มีการกำหนดมาก่อนหน้าที่โรงงานฮอนด้าที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จะประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา
การขยายการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้านอกกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรองรับความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอินโดนีเซีย โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตรถยนต์รุ่นบริโอ้ รุ่นสำหรับลูกค้าในประเทศอินโดนีเซียโดยเฉพาะ นอกเหนือจากการผลิตรถยนต์รุ่นอื่นที่ผลิตในปัจจุบันได้แก่ แจ๊ซ ซีอาร์-วี และฟรีด ภายใต้บริษัท พี.ที. ฮอนด้า พรอสเพคท์ มอเตอร์ (HPM) ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (51%) และ บริษัท พี.ที. พรอสเพคท์ มอเตอร์ (49%) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2542
สำหรับโรงงานฮอนด้าที่อยุธยา ฮอนด้าได้ดำเนินการฟื้นฟูโรงงานผลิตหลังจากประสบวิกฤติอุทกภัยจนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้กำหนดการจัดงานแถลงข่าวและพิธีเปิดสายการผลิตโรงงาน (Open House Ceremony) อย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555 ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมกับนายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และ ซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และนายฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
นางอัญชลี ชาลีจันทร์ ผู้จัดการส่วนสายงานองค์กรสัมพันธ์ บ.เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในอินโดนีเซียนั้นเป็นแผนงานที่ได้วางแผนไว้เป็นปีแล้วก่อนที่จะเกิดภาวะน้ำท่วม เนื่องจากประชากรมีมากกว่าไทยถึง 4 เท่า อนาคตตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก
นำเข้าเครื่องจักรทดแทน8หมื่นล.
นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)กล่าวว่า โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมประมาณ 1,700 โครงการหรือ 400 กว่าบริษัทเริ่มทยอยนำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องจักรเก่าที่เสียหายแล้วรวมเป็นมูลค่า 80,000 ล้านบาทและมีการกลับมาเริ่มการผลิตมากกว่า 50%
***รองโฆษกรัฐฯโต้ปชป.
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงตอบโต้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จะย้ายฐานผลิตจากประเทศไทยไปลงทุนในอินโดนีเซีย มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทว่า จากการเยือนประเทศญี่ปุ่นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บริษัทฮอนด้ายืนยันที่จะอยู่ในเมืองไทย และมีแผนระยะยาวเพิ่มเงินลงทุนด้วย
ส่วนการเพิ่มเงินลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เป็นสิทธิ์ของบริษัทฯ ซึ่งฮอนด้าลงทุนเพิ่ม 1 หมื่นล้านบาท ในอินโดนีเซียก็เพื่อผลิต อีโคคาร์ คนละแนวกับที่ผลิตในบ้านเรา เรื่องนี้ รมว.อุตสาหกรรม และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฮอนด้า ก็ได้ออกมาปฎิเสธแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นายชวนนท์ พูดมาเป็นเรื่องโกหก
ส่วนที่ระบุว่าสาเหตุเป็นเพราะนายกฯไปประชุมที่ญี่ปุ่น แล้วพูดภาษาไทยทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นไม่เข้าใจ และไม่เชื่อมั่นนั้น ยืนยันว่านายกฯ ปฏิบัติตามแนวทางที่ตกลงกันทั้งสิ้น และมีเอกสารให้นักธุรกิจได้อ่านด้วย และญี่ปุ่นไม่อยากจะย้ายออก เพราะกำลังซื้อในภูมิภาคนี้ รถที่ผลิตในไทยดีที่สุดแล้ว จึงอยากให้นายชวนนท์ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบกว่านี้
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภักดีหาญส์ ระบุว่าฮอนด้าไม่ได้ย้ายฐานการผลิตนั้น ตนก็ไม่ทราบว่านายภักดีหาญส์ อ่อนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อวานนี้เป็นเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริงว่าบริษัทฮอนด้าได้มีการขยายการลงทุนและเพิ่มเม็ดเงินสร้างโรงงานในประเทศอินโดนีเซียถึงกว่า1 หมื่นล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น และไม่มีเรื่องใดเลยที่เป็นการไปกล่าวอ้าง
ควรทำความเข้าใจกับศัพท์ภาษาไทย หรือศัพท์เศรษฐกิจในเรื่องของการย้ายฐานการผลิต กับการย้ายฐานการลงทุน เพราะการที่บริษัทฮอนด้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย แทนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยซึ่งมีความพร้อมและมีโรงงานอยู่แล้ว คนเป็นรองโฆษกรัฐบาลควรจะนำไปวิเคราะห์ว่าเกิดจากเหตุใด บริษัทฮอนด้าถึงได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียน เพราะหากว่าเราแสดงถึงความพร้อมในการรับการลงทุน หรือสร้างความมั่นใจให้กับเขาอย่างเพียงพอในเรื่องการป้องกันน้ำท่วม
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แถลงการณ์ของบริษัทฮอนด้าเอง ซึ่งเป็นคำกล่าวของนายฮิโรชิ โคบายาชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานภูมิภาคของบริษัทฮอนด้า ที่ยืนยันว่า การลงทุนในอินโดนีเซียนั้นจะเป็นการสร้างบทบาทให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตใหญ่ของบริษัทฮอนด้า รวมทั้งจะมีการขยายการลงทุนและจะเป็นผู้ส่งออกหลักทั้งในส่วนของรถยนต์และชิ้นส่วน คำพูดอย่างนี้ไม่ก่อให้เกิดความละอายใจแก่รัฐบาลไทยบ้างหรือ มากไปกว่านั้น ในรายงานของบริษัทฮอนด้าเอง ก็พูดชัดว่า หลังจากมีการสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซียเสร็จในปี คศ.2014 แล้ว ก็จะมีการผลิตรถยนต์ Eco car เพิ่มเติม เช่น รุ่น Brioหรือ freed, CRV หรือ ฮอนด้า Jazz ที่โรงงานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นโรงงานหลักที่จะส่งออกรถยนต์ไปทั่วโลกของบริษัท