xs
xsm
sm
md
lg

ทะแม่งทำMOU ซื้อแท็บเล็ตจีนแจกเด็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.เห็นชอบทำเอ็มโอยูกับจีน ซื้อแท็บเล็ตแจกเด็ก ป.1 แทนซื้อจีทูจี ยันเปิดเทอมใหญ่นี้ ได้ใช้แน่ ส.ส.คำนูณ ชี้เข้าข่าย ม.190 ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา ไม่ทำเจอยื่นถอดถอนแน่

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบโครงการเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต ที่จะดำเนินการแจกให้เด็กประถมศึกษาปีที่ 1 โดยให้ทำเป็นรูปแบบของเอ็มโอยู หรือบันทึกข้อตกลง โดยให้กระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำสนธิสัญญากับประเทศจีน ซึ่งจากเดิมเป็นเป็นทำสัญญาในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ดังนั้น เห็นควรให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ซึ่งมีความเห็นของกฤฎีกาให้ดำเนินการกับโครงการนี้ ซึ่งการอนุมัติยกเว้นการผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ 2535 และแก้ไขเพิ่มเติมกับการจัดหาคอมพิวเตอร์พกพา ให้แก่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะการจัดการเท่านั้น ทั้งนี้ จะไม่รวมการส่งมอบ การตรวจรับพัสดุ การควบคุม และการจำหน่ายพัสดุ ยังคงให้ถือปฏิบัติตามระเบียบต่อไป

"ขอยืนยันว่า เปิดเทอมใหญ่ที่จะถึงนี้ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 จะได้ใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพาแน่นอน โดยจะมีการดำเนินการตามกรอบใหญ่กับจีนเหมือนเดิม เพียงมีการกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยให้เป็นเอ็มโอยู โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ ในการบริหารจัดการกับโครงการนี้แทน"

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในการประชุมครม. ได้เสนอเรื่องการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามโครงการ One Tablet PC Per Child โดยจะเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจากระบบจีทูจี มาเป็นการลงนามเอ็มโอยู ตามข้อหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งจะเสนอขอต่อคณะกรรมการวัสดุครุภัณฑ์ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อกชั่น ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ลงนามเอ็มโอยู และกระทรวงไอซีทีเป็นผู้จัดซื้อ ซึ่งขณะนี้ได้บริษัทที่จะจัดซื้อแล้ว

สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อ เนื่องจากการจัดซื้อระบบจีทูจี แต่ละหน่วยงานให้คำจำกัดความต่างกัน บางหน่วยงานเห็นว่าจะต้องมีความเข้มกว่านี้ โดยรัฐบาลจะต้องเอาแท็บเล็ตมาส่งให้รัฐบาลไทย ซึ่งจะให้รัฐบาลจีนมารับผิดชอบและรับประกันบริษัทที่ได้รับเลือกคงทำไม่ได้ แต่รัฐบาลจีนจะคอยช่วยเหลือดูแลให้ ที่สำคัญการจัดซื้อด้วยวิธีเอ็มโอยูเป็นการป้องกันการวิ่งเต้นติดสินบนการประมูลด้วย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะแจกนักเรียนไม่ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 นั้น ตนก็เป็นห่วงแต่จะพยายามทำให้ทัน

ต่อข้อถามว่าการเปลี่ยนจัดซื้อด้วยวิธีเอ็มโอยูเพื่อป้องกันการวิ่งเต้น แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการวิ่งเต้นแล้วใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนหมายความว่าถ้าไม่ซื้อภายใต้รัฐบาลต่อรัฐบาล และให้จัดซื้อภายในเองอาจเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึง และเป็นโครงการแรกที่จัดซื้อแท็บเล็ตเป็นล้านเครื่อง จึงกลัวว่าจะมีการวิ่งเต้นประมูล.

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า การเปลี่ยนมาทำเอ็มโอยูจัดซื้อแท็บเล็ตกับจีนแทนการจัดซื้อแบบจีทูจี จำนวน 9 แสนเครื่อง วงเงิน 1,900 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรกันมาก รัฐบาลจีนยังคงยื่นมือมาช่วยให้ไทยได้เครื่องแท็บเล็ตที่มีคุณภาพในราคาประหยัด โดยรับภาระจะไปเจรจากับผู้ผลิตแท็บเล็ตในประเทศให้ เพียงแต่การทำสัญญาซึ่งจะผูกผันความรับผิดชอบกัน จะต้องสอดคล้องกับระบบของทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากมีการลงนาม แท็บเล็ตล็อตแรกจะมาถึงไทยภายใน 15 วัน เบื้องต้นเจรจาให้จัดส่งล็อตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง แต่อาจขอเพิ่มเป็น 50,000 เครื่อง เพราะสพฐ. ต้องการนำแท็บเล็ตล็อตนี้ไปใช้ในการอบรมพัฒนาวิทยากรแกนนำสำหรับถ่ายทอด เทคนิคการใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียนการสอนให้ครูตามแผนที่วางไว้ จะมีการอบรมสร้างวิทยากรระดับเทพออกมา 100 คน จากนั้นวิทยากรระดับเทพจะไปขยายผลสร้างวิทยากรแกนนำอีก 1,000 คน ให้แล้วเสร็จในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อให้วิทยากรแกนนำไปถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียนการสอนให้ศึกษานิเทศก์และครูจำนวน 15,000 คน ในช่วงต้นเดือนพ.ค.

"แท็บเล็ตล็อต 2 จะมาถึงช่วงเปิดภาคเรียนแล้ว และจะทยอยมาเรื่อยๆ ประมาณ 3 ล็อตใหญ่ๆ แต่ท้ายสุด โรงเรียนทุกแห่งจะได้รับแท็บเล็ตทันใช้แน่นอน เพราะโดยธรรมชาติของการเรียนการสอนชั้น ป.1 นั้น ช่วง 1 เดือนแรกจะเป็นการปรับสภาพนักเรียนอนุบาลให้พร้อมสำหรับการเรียนระดับประถมศึกษา ยังไม่มีการเรียนเนื้อหามากนัก"

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊ก คำนูณ สิทธิสมาน ต่อมติ ครม.ดังกล่าวว่า ถ้าจะซื้อแท็บเล็ตแจกเด็ก โดยให้กระทรวงการต่างประเทศทำเอ็มโอยูกับเซินเจิ้น สโคปฯ ก็แน่นอนว่าเป็น “หนังสือสัญญา” ประเภทหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ครม.ต้องนำ “กรอบเจรจา” ขออนุมัติจากรัฐสภาก่อน ต่อด้วยการรับฟังความคิดเห็นประชาชน แล้วจึงนำ “ร่างหนังสือสัญญา” เข้าขอความเห็นขอบจากรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง และ ฯลฯ ยังไงก็ไม่น่าจะแจกทันก่อนเปิดเทอม หรือลงนามได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ ยกเว้นจะไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรา 190 ซึ่งก็มีหวังโดนยื่นถอนถอนตามมาตรา 270 แน่

“MOU กรณีนี้อ่านยังไงก็เข้า "190 วรรคสอง" คือเป็นหนังสือสัญญาประเภทที่ "...มีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศ อย่างมีนัยสำคัญ..." แต่ผมไม่ใช่ผู้ชี้ขาด กรณีมีปัญหา "190 วรรคหก" ก็กำหนดให้พวกผมไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสองสภายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ใช้จำนวน 65 คนน่าจะยังพอหาได้นะ”นายคำนูณระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น