xs
xsm
sm
md
lg

นายใหญ่สั่งเพื่อไทยตีชิ่ง เด้ง‘พนิตา’หวั่นลุกลามรบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - นายใหญ่สั่งให้จบ “ยิ่งลักษณ์” ปัดตอบขัดแย้งในพรรค “ยงยุทธ” ไม่ทบทวนมติ ครม. จนกว่าผลสอบวินัยเสร็จ ชี้ หากรัฐมนตรีใช้อำนาจมิชอบ ต้องรับผิดชอบ ไม่กังวลแตกแยกในพรรค รับปัญหาย้ายปลัด พม.ลามเข้าพรรค

เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (16 มี.ค.55) ภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมปฏิบัติการ ด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายนายกรัฐมนตรี จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่ ยิ้ม แล้วเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากนายประวัฒน์ อุตตโมต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงถึงขั้นเกือบวางมวยกับนายสันติ พร้อมพันธ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยระบุถึง แก๊งออฟโฟว์ ในกระทรวง พม. ซึ่งหนึ่งในนั้น อ้างถึงนายวัลลพ พลอยทับทิม ที่ปรึกษารมว.พม. อดีตปลัดกระทรวงพม. เข้ามาก่าวก่ายถึงขั้นให้มีการเสนอย้ายนางพนิดา มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยเสนอนายสันติ ให้เสนอครม.ย้ายเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายสันติก็ได้เสนออีกครั้งเข้ามาในวาระจร

“ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนเห็นด้วยกับนายประวัฒน์ และแสดงความไม่พอใจบทบาทของนายสันติ แต่มีเสียงจากผู้ใหญ่จากแดนไกล ขอให้ยุติเรื่องนี้ หลังจากวันประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมานายประวัฒน์ได้โทรศัพท์ไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ขณะนี้พำนักอยู่ที่ประเทศกัมพูชาประกอบกับมีรายงานจากผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นการเข้าใจผิดระหว่าง สตง.กับ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ”แหล่งข่าวระบุ

**ยงยุทธ ไม่ทบทวนมติ ครม.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายดี ยอมรับว่ามีความขัดแย้งลุกลามภายในพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ทั้งปัญหากับคน ปัญหากับพรรคเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้วต้องมาดูว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร และถืออะไรเป็นข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อข้าราชการระดับสูงถูกกล่าวหา เหตุใดไม่ตั้งคณะกรรมการสอบก่อนที่จะโยกย้ายจากตำแหน่ง นายยงยุทธ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ตั้งกรรมการสอบแล้ว ซึ่งผลสรุปยังไม่ออก การโยกย้ายก่อนก็เพราะฟังความเห็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ดูเหมือนเป็นกลางๆ และยังไม่ชี้ว่ามีอะไรถูกผิดแค่ไหน ซึ่งเมื่อมีกรรมการในส่วนหนึ่งก่อนว่า กรรมการจะสรุปอย่างไร ซึ่งก็ต้องดูความเห็นของ สตง.ด้วยว่าจริงๆ แล้วเป็นการกล่าวหาปลัด พม.คนเก่า หรือว่าเป็นการกล่าวหานางพนิตา ซึ่งตนได้ติดตามความเห็นของรักษาการเลขาธิการ สตง.ที่ระบุว่า ข้อมูลก็ยังสงสัยอยู่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งก็ต้องรอดูความเห็นของกรรมการต่อไป เรื่องนี้คงไม่สามารถเปรียบเทียบกับกรณีของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เพราะตำแหน่งบางตำแหน่งก็อาจจะหาคนแทนได้เลย บางตำแหน่งก็หาคนแทนไม่ได้ และมีอัตราว่างอยู่ตรงไหนบ้างก็ต้องดูปัญหาคนแทนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เมื่อถามต่อว่า นางพนิตาเปิดเผยว่านายวัลลภ พลอยทับทิม อดีตปลัด พม.คนก่อนได้ทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณไปศึกษาดูงานต่างประเทศไม่โปร่งใสไว้ นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่หลากหลายสื่อคงจะทราบเบื้องหลังอยู่รู้ดีกว่า ตนก็รู้แต่ข้อมูลแต่เบื้องหน้า

ถามต่อว่า ปัญหายังไม่ชี้ขาดทำไมถึงได้มีการรีบแต่งตั้งนายวิเชียร ชวลิต มาดำรงปลัดพม.แทน นายยงยุทธ กล่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมต.พม. ก็มีเหตุผลในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก็เปรียบเหมือนรัฐมนตรีเป็นพ่อบ้าน ปลัดกระทรวงก็เหมือนแม่บ้าน เพราะถ้าทำงานลำบาก ทำงานกันไม่ได้ ก็จะอยู่ร่วมกันทำงานกันลำบาก ยืนยันว่าต้องย้ายนายพนิตา ออกไปเพื่อจะได้มีปลัด พม.ท่านใหม่มา

เมื่อถามว่ามติ ครม.จะดำเนินการโยกย้ายนางพนิตา ไปตามนั้นใช่หรือไม่และจะไม่มีการทบทวนอีก นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็มีมติ ครม.ไปแล้ว ก็ต้องปฎิบัติตามไปจนกว่าผลการสอบสวนว่าจะเป็นอย่างไร ตนก็ไม่ทราบตื้นลึกหนาบางประการ แต่ก็ทราบว่าเมื่อวานนางพนิตา ได้เข้าไปพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี แต่โดยปกติทางราชการมีมติครม.ไปแล้วก็ต้องว่าไปตามนั้น ยกเว้นว่าจะมี
ติเป็นอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสอบสวนแล้วพบว่ารัฐมนตรีทำผิดพลาดจะมีการดำเนินการอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็ต้องรับผิดชอบ ใครทำผิดต้องรับผิดชอบทั้งนั้น ไม่สามารถลอยนวลไปได้

เมื่อถามว่าจะมีการส่งผลต่อความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มี เพราะความคิดเห็นในพรรคเพื่อไทยเป็นความคิดเห็นขอบุคคล ไม่ใช่ความเห็นขององค์กร เมื่อความเห็นของบุคคลก็มีข้อขัดแย้งก็ อธิบาย และทำความเข้าใจกันไป ตราบใดที่ไม่เป็นข้อขัดแย้งขององค์กรต้องให้แก้ปัญหากันเอง

เมื่อถามว่า นายกฯได้มีการสั่งการเพิ่มเติมอะไรอีกหรือไม่หลังจากนางพนิตา ได้เข้าพบ นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังเลย ตนก็เป็นรองนายกฯ ที่ดูแลพม.แทนนายกฯอยู่ด้วย ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่า รัฐมนตรีได้ใช้อำนาจขัดกับข้าราชการหรือเปล่า นายยงยุทธ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ก็เห็นใจกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งตนก็เคยทำงานกันทั้งสองตำแหน่งนี้ก็เข้าใจความรู้สึกของแต่ละฝ่ายดี

**เชื่อนายกฯให้เกียรติ"สันติ"ยึดคำสั่ง

นายยงยุทธ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ สถานีสปริงนิวส์ ว่า เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเรื่องยากในเรื่องการบริหารงานบุคคล เพราะแต่ละท่านก็มีความรู้สึก ปรับเข้าหากันยากโดยเฉพาะ รมว.และปลัดกระทรวง ซึ่งเรื่องนี้มีการคุยกันมาเป็นระยะแล้ว โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พม.ได้มาหารือและปรารภถึงการเปลี่ยนตัวปลัด พม. กับตน และนายกฯ ซึ่งทุกคนก็ทราบว่านางพนิตา เป็นพี่สาวของประวัฒน์ อุตตะโมต ตนจึงได้ให้ข้อคิดไปว่า รมต.เหมือนพ่อบ้าน ปลัดเหมือนแม่บ้าน หากอยู่ลำบากก็เดือดร้อนคนในบ้าน แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อ รมต.ยืนยันที่จะเปลี่ยนตัวปลัด นายกฯก็ต้องเปลี่ยนให้

ส่วนสาเหตุมาจากปัญหาการประมูลก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงพม.วงเงิน 1.2 พันล้านบาท หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างก็มีหลักฐาน และมีเหตุผลของแต่ละฝ่าย ซึ่ง นายสันติ ก็บอกว่าเรื่องนี้มีการสอบใน สตง. ส่วนนางพนิตาก็บอกว่าเรื่องเก่าจบไปแล้ว ก็ต้องรอฟังกรรมการที่สอบเรื่องนี้
 

ส่วนคนที่เลือกนายวิเชียร ชวลิต มาเป็นปลัด พม. นายยงยุทธ กล่าวว่า นายกฯกับตนก็คุยกันว่าจะนำใครมาแทน และเห็นว่า นายชวลิตเคยเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นอดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด และเป็นเพื่อนเก่าตนใน มท. ขณะเดียวกันกระทรวง พม.ต้องประสานกับจังหวัดด้วย จึงถามนายสันติและนายวิเชียรว่าเอาหรือไม่ เมื่อตกลงใจก็ทำไปตามนั้น และยอมรับว่านายกฯคงจะย้ายนางพนิตา เพราะต้องให้เกียรติรมต.
อย่างไรก็ตามรมว.มหาดไทย ไม่ตอบว่าสาเหตุการโยกย้ายมีความเกี่ยวพันกับแก๊งออฟโฟร์ใน พม. หรือไม่

**'อภิสิทธิ์'แนะนายกฯ สั่งทบทวนเด้ง'พนิตา'พร้อมแจงข้อเท็จจริงทั้งหมด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel กรณีที่ นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ทบทวนคำสั่งย้ายว่า หากนายกรัฐมนตรี จะทบทวนก็สามารถทำได้ แต่นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมกับต้องจับตาดูว่า รมต.พม. จะตัดสินใจเรื่องการประมูลอาคารใหม่ของกระทรวงอย่างไร แต่ปัญหาคือ ถ้าทบทวนแล้ว นายวิเชียร ชวลิต จะร้องขอความเป็นธรรมบ้างหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นคือ มันก็แปลก ที่บอกว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบปลัดที่เพิ่งพ้นไปนั้น ก็ยืนยันว่า ความจริงแล้วตั้งสอบผิดคน ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าเกิด จริงเท็จอย่างไรก็ต้องมาแจงกัน ซึ่ง ปลัดพนิตา บอกว่าไม่ได้เป็นคนพูดเรื่องอาคารที่ก่อสร้าง กระทรวงประมูลอะไรนั้น แต่ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่า สุดท้าย รมต.ตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร และนายกรัฐมนตรี จะต้องเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาดู เพราะท่านก็บอกว่าจะรีบทบทวน ถ้าไม่ทบทวนก็คงจะมีการฟ้องไปที่ กพค. และต้องดูว่าจะได้ความเป็นธรรมไม่เป็นธรรมตอนนี้ กลายเป็นไปงัดเอาว่าใครสายตรงนายใหญ่เข้ามา ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นปัจจัย ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เท่ากับว่าระบบบริหารจัดการไม่ได้มีธรรมาภิบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น