“โกวิท” เลิกกำหนดการงานหลังโดนเด้ง สั่งเจ้าหน้าที่เก็บของกลับ ยันไม่เสียใจโดนปรับพ้นเก้าอี้ ด้าน “กฤษณา” ก็ย่องขนเอกสารแล้ว ด้าน รมว.คมนาคม หมาดๆ เห็นพ้อง “นช.แม้ว” ทำงานไม่ดี 6 เดือนเด้ง ยัน นายกฯ มีสิทธิ์เลือกใครนั่งเก้าอี้ พร้อมเร่งแก้ไขภาพลักษณ์องค์กร ยังไม่รีบหาปลัดคนใหม่
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านฟื้นฟูคุณภาพชีวิต (กคช.) ที่มีกำหนดการประจำวันในเวลา 14.00 น.ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล แต่เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะเดียวกัน ในเวลา 15.00 น.ได้ให้รถ 6 ล้อ พร้อมเจ้าหน้าที่ 8-9 คน มาเก็บของที่เหลือในห้องทำงาน ซึ่งมีโต๊ะ เก้าอี้ และเอกสารสำคัญประมาณ 9 กล่อง ซึ่งสิ่งของมีรายงานว่าจะนำไปเก็บที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ย่านสะพานควาย
จากนั้นเวลา 15.40 น. พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางลงจากตึกบัญชาการ โดยระบุถึงการปรับออกจากตำแหน่งว่าไม่มีอะไร ไม่ได้เสียใจ เพราะได้รับตำแหน่งมา 3 ครั้งแล้ว ทั้งนี้ คงไม่ได้ไปช่วยงานที่พรรคเพื่อไทย และพูดย้ำๆ ว่า ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ส่วนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์มาหาหรือไม่ พล.ต.อ.โกวิท กล่าวสั้นๆ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร และรีบขึ้นรถไปทันที โดยมีคณะติดตามเดินทางส่งที่รถด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนได้มาดักรอสัมภาษณ์ที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการตั้งแต่ช่วงเที่ยง แต่ได้รับแจ้งว่าพล.ต.อ.โกวิท จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลช่วง 18.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้เลขานุการส่วนตัวมาเก็บของที่ห้องทำงานแล้วเช่นกัน
ด้าน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดา จะให้โอกาส ครม.ทำงาน 6 เดือน หากไม่มีผลงานจะถูกปรับออก ว่า ตนคิดเช่นเดียวกัน เพราะหาก ครม.2 ทำงานไม่เข้าตา และไม่ได้ใจประชาชนก็สมควรถูกปรับออกตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพราะต้องอย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เพราะประชาชนเลือกเข้ามาบริหารประเทศ และเมื่อประชาชนเห็นว่ารัฐมนตรีคนใดไม่มีผลงาน ประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน ซึ่งตนยอมรับได้อยู่แล้ว อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ถูกประชาชนเลือกมาเป็นผู้บริหารประเทศสูงสุด ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าใครจะเข้า-ออกในตำแหน่งรัฐมนตรีอีกด้วย
นายจารุพงศ์ ยังกล่าวถึงการบริหารงานในกระทรวงคมนาคม ที่ก่อนหน้ามีความขัดแย้งกันเองระหว่างรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ชอบกินเกาเหลากับเส้นใหญ่ แต่ชอบกินเส้นบะหมี่ และเส้นเล็ก ตนไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร สำหรับงานในกระทรวงกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงใหญ่ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้อยู่แล้ว แต่ต้องแสวงหาความร่วมมือจากรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้งสองคน เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกัน งานทุกอย่างจะต้องคุยกัน หากมีเรื่องขัดข้องจะต้องปรับทุกข์กัน นอกจากนี้ ตนเคยเป็นข้าราชการประจำ เป็นปลัดมาหลายกระทรวง เข้าใจหัวอกข้าราชการฝ่ายพลเรือนเป็นอย่างดี ดังนั้น จะหาวิธีเพื่อให้การทำงานในกระทรวงเกิดประสิทธิภาพให้ได้
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า หลังจากเข้ามาบริหารกระทรวงคมนาคมอย่างเต็มตัวแล้ว เรื่องเร่งด่วนที่สำคัญที่จะต้องแก้ไข คือ เรื่องภาพลักษณ์บุคลากร เจ้าหน้าที่ และข้าราชการในกระทรวง เนื่องจากกระทรวงคมนาคมนั้น ในอดีตต้องยอมรับว่า มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการทุจริต โดยเฉพาะคดีล่าสุดอย่างคดีคนร้ายปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม โดยต่อไปต้องบริหารงงานด้วยธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม คุณธรรม ที่สำคัญต้องมีคุณภาพ โครงการใดๆ ต่างๆ ต่อไปต้องมีเจ้าภาพชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมตอนนี้ที่ว่างอยู่นั้น คงให้ นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนไปก่อน จนกว่าการสอบสวน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม จะสิ้นสุด เนื่องจากเราไม่ได้รีบเร่ง และต้องการคนที่มีประสิทธิภาพมาดำรงตำแหน่งตรงนี้
