xs
xsm
sm
md
lg

เห็นผิดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เห็นถูกอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ

นายบุญสิน หยกทิพย์ ได้ฟ้องกรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครองสูงสุด ให้เปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ ให้ถูกต้องตรงตามลักษณะรูปร่างหน้าตาของอนุสาวรีย์ ซึ่งทั้งรูปร่างหน้าตาและความหมายไม่มีส่วนใดเลยที่บ่งบอกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย

ในครั้งนี้ศาลปกครองสูงสุดได้นัดฟังการชี้ขาดอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องไว้พิจารณา ฉบับลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 และให้ไปฟังคำชี้ขาดในวันที่ 12 มีนาคม 2555 เวลา 10.15 นาฬิกา ที่ศาลปกครองกลาง ชั้น 3 ห้องพิจารณา 7

หากท่านรู้ความหมายของอนุสาวรีย์ จะเห็นได้ว่าไม่มีส่วนใดเลยที่บ่งบอกแฝงนัยเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยไว้เลย

- ครีบ 4 ด้าน สูงจากแท่นพื้น 24 เมตร มีรัศมียาว 24 เมตร หมายถึง วันที่ 24 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง

- พานรัฐธรรมนูญซึ่งตั้งอยู่บนยอดป้อมกลางตัวอนุสาวรีย์ สูง 3 เมตร หมายถึง เดือน 3 หรือเดือนเมษายน ตรงกับเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองสมัยนั้น และหมายถึงอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ภายใต้รัฐธรรมนูญ (นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ)

- ปืนใหญ่จำนวน 75 กระบอก (ปากกระบอกปืนฝังลงดิน)โดยรอบฐานของอนุสาวรีย์ที่มีโซ่เหล็กร้อยไว้ หมายถึงปีที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (เลข 75 เป็นเลขท้ายสองหลักของปี พ.ศ.2475 ) ส่วนโซ่ที่ร้อยไว้ด้วยกันหมายถึงความสามัคคีพร้อมเพรียงของคณะปฏิวัติ

- ลายปั้นนูนที่ฐานครีบทั้ง 4 เน้นถึงเรื่องราวการดำเนินงานของคณะราษฎรตอนที่นัดหมายและแยกย้ายกันก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475

- พระขรรค์ 6 เล่ม ที่รายล้อมรอบป้อมกลางตัวอนุสาวรีย์ หมายถึง หลัก 6 ประการของคณะราษฎร (ก็ไม่ใช่หลักการปกครองแบบประชิปไตย)

จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมเผด็จการ สั่งให้กรมศิลปากรดำเนินการก่อสร้าง โดย ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นผู้ออกแบบร่วมกับศิษย์ ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 อนุสาวรีย์แห่งนี้ออกแบบโดยแฝงความหมายของการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คือทำรัฐประหารอยากได้ “ธรรมนูญการปกครอง” เท่านั้น

แก่นสารที่สำคัญของการสร้างอนุสาวรีย์ คือ (1) เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นของชาติ (2) เพื่อระลึกถึงบุคคลสำคัญยิ่งยวดของชาติ เช่น พระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องเป็นมหาราชหรือ บุคคลผู้กู้ชาติ (3) ต้องตั้งชื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของอนุสาวรีย์นั้นๆ เช่น อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ซึ่งมีลักษณะรูปร่างหน้าตาบ่งบอกว่าเป็นสมเด็จพระนเรศวร อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็ทำนองเดียวกัน อนุสาวรีย์มีลักษณะเช่นไร ควรตั้งชื่อเช่นนั้นหรือเหตุการณ์นั้นๆ

อนุสาวรีย์ซึ่งอยู่บนถนนราชดำเนิน และเป็นจุดเริ่มนับกิโลเมตรแรกที่จะไปเหนือ อีสาน ใต้ ฯลฯ มีรูปร่างหน้าตาและความหมายบ่งบอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญ หากเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้องตรงตามความหมายของคณะราษฎร ที่มีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ รัฐประหารเพื่อ “ธรรมนูญการปกครอง” ดังนั้น การเปลี่ยนชื่อเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ จึงเป็นการถูกต้องที่สุด

หากถามใครๆ ที่ไม่รู้จักชื่ออนุสาวรีย์แห่งนี้ อนุสาวรีย์ที่มีลักษณะอย่างนี้ (ตามภาพ) ควรจะชื่อว่าอะไร ต่างก็ตอบว่าอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ

อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญแต่ดันไปตั้งชื่อว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียหายมากมายนักนับแต่สร้างอนุสาวรีย์นี้เสร็จ รัฐบาลจอมพล ป. (หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร) มีความเห็นผิดอย่างร้ายแรงมาก ที่เห็นว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” เสียหายร้ายแรงสืบทอดกันมาคือได้ครอบงำทำให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจผิดว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” เช่น นักศึกษา ปี 14 ปี 16 ปี 19 อยากได้ประชาธิปไตยแต่ดันไปเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ถามว่าใครสอน ก็คณาจารย์ของพวกเขาใน ม.ธรรมศาสตร์ นั่นเอง

ในแต่ละยุค ในแต่ละรัฐบาล ประชาชนต้องการประชาธิปไตย แต่ดันไปแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญ เช่น รัฐบาลบรรหาร รัฐบาลสุรยุทธ์ เป็นต้น ถึงยุคปัจจุบัน เสื้อแดงเป็นใหญ่ มีรัฐบาล (ปู) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนอมินีของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อเหลือเกินว่าอยากได้ประชาธิปไตยแต่ดันไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อยากบอกว่าพวกเธอโง่สุดๆ เห็นผิดสุดๆ แสดงว่าโง่กันทั้งรัฐบาล ผลก็คือทำลายประเทศชาติและประชาชน

เพราะความเห็นผิดว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย จึงทำให้ผู้ที่เห็นถูก เห็นว่าควรเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์เสียใหม่เป็น “อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ” เพราะไม่อยากให้ประชาชนเห็นผิดตามนักการเมืองบัดซบ โง่ ขี้โกงเหล่านั้น จึงมีคนประท้วงด้วยการปีนขึ้นไปเผ่าพานรัฐธรรมนูญ เอาสีทาทับชื่อ “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” คุณบุญสิน ถูกจับ ถูกปรับหลายต่อหลายครั้ง

ความโง่ที่เราเห็นกันมาไม่นาน พวกเสื้อแดงยึดเอาอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนะ แต่แท้ที่จริงพวกเขาเป็นพวกเผด็จการรัฐธรรมนูญทั้งนั้น ท่านทั้งหลายก็คงเห็นชัดว่าพวกเขาอยากได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่พวกเขาต้องการว่าคือประชาธิปไตย นี่คือความโง่ละ แน่จริงรัฐบาล “ปู” เปลี่ยนชื่อเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ ซิ

หากต้องการประชาธิปไตยจริงๆ ต้องทำให้ผู้คนเข้าใจถูกต้องว่า “จุดมุ่งหมายต้องมาก่อนวิธีการไปสู่จุดมุ่งหมาย ฉันใด” ระบอบ (หลักการปกครอง) ประชาธิปไตยนั้น ต้องสถาปนาขึ้นมาก่อน เกิดก่อนรัฐธรรมนูญ (วิธีการปกครอง) ฉันนั้น ระบอบประชาธิปไตยยังไม่เคยเกิดขึ้น

ใน พ.ศ.นี้ เชื่อว่าศาลปกครองเองก็ไม่เข้าใจได้ยังเชื่อตามๆ กันมา นายบุญสิน หยกทิพย์ และพวกก็ต้องพยายามต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น