ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชายแดนแม่สาย แหล่งท่องเที่ยวดังของเชียงรายเข้าสู่เกณฑ์อันตรายแล้ว หลังระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน พุ่งทะลุกว่า 437 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ผู้ว่าฯสั่งดีเดย์งดเผาเด็ดขาด 3 วัน เริ่ม 12-14 มีนาฯนี้ ด้านชาวบ้านพื้นที่ชายแดนตากยิ้มออก หลังพายุฝนตกกระหน่ำหนัก ลดหมอกควัน และดับจุด Hotspots ในเขตอุทยานฯหลายแห่ง รอง ผวจ.ตาก ชี้สถานการณ์หมอกควันและอากาศเป็นพิษดีขึ้น ส่วนลำปางดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วานนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศจากบริเวณหน้าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย อ.เมือง พบฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศกว่า 290.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่หน้าสำนักงานสาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย ชายแดนไทย-พม่า พุ่งทะลุขึ้นไปถึงระดับ 437.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภาคเหนือ และกรมควบคุมมลพิษถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตราย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หมอกควันฝุ่นละอองในช่วงบ่ายวานนี้ (11 มี.ค.) ได้ลดระดับความรุนแรงลงมาบ้างแล้ว โดยในเขต อ.เมือง เหลือ 157.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.แม่สาย เหลือ 329.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกันช่วงหัวค่ำวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาพบมีลมพัดมาเล็กน้อย และสภาพอากาศมือครึ้มคล้ายจะเกิดฝนตก แต่ท้ายที่สุดฝนก็ไม่มีฝนตกลงมา คาดว่า สภาพมืดครึ้มเกิดจากหมอกควันที่เกาะกลุ่มกันแน่นกว่าทุกวันที่ผ่านมา
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้จังหวัดได้เร่งหยุดยั้งหรือบล็อคการเผาป่าและวัชพืชอื่นๆ ทั้งจังหวัดอย่างเด็ดขาดเป็นเวลา 3 วันนั้น
ล่าสุดได้มีการแจ้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานข้างเคียง ฯลฯ นำคำสั่งดังกล่าวไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 10-11 มี.ค.55 แล้ว จากนั้นจะดำเนินการหยุดเผาทั้งจังหวัดอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 12-14 มี.ค.เป็นต้นไป ประชาชนทั่วไปพบเห็นการเผาสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบดำเนินการได้ทันที
ด้านนายโสภณ ชุ่มชูจันทร์ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาฝุ่นละอองได้ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้ เข้าใจ ในการป้องกันตนเองเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากกิจกรรมเดินรณรงค์เมื่อวันที่ 10 มี.ค.55 ที่ผ่านมาโดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ทางอำเภอ ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ไปยังตำบล หมู่บ้าน ชุมชน และลงสู่โรงเรียน รวมทั้งจัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำรถน้ำทำการฉีดพ่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมต.สำนักงานนายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมเดินรณรงค์ตามโครงการรณรงค์ "หยุดเผาเพื่อลมหายใจ" ที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย และประชุมมอบนโยบายหยุดเผา 3 วัน โดยระบุว่าฝุ่นละอองเคยเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.และจะส่งผลกระทบหนักช่วงเดือน เม.ย.55 ก่อนที่ฝนจะตกลงมาและทำให้ฝุ่นละอองหายไป แต่ปีนี้กลับพบเกิดปัญหาหนักตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.และคาดว่าจะรุนแรงไปถึงเดือน เม.ย.เช่นกัน
โดยเฉพาะช่วงเดือน มี.ค.55 กลับมีปริมาณฝุ่นละอองเกิน 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงคาดว่าเดือนเมษายน อาจรุนแรงขึ้นอีก เพราะวันที่ 11 มี.ค. ค่าฝุ่นละอองกลับพุ่งสูงเกินกว่าที่คำนวณเอาไว้เสียอีก คือ ขึ้นถึง 437.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นและมีการเผาอย่างต่อเนื่องรวมทั้งไม่มีฝนตกลงมาอาจสูงกว่านี้แน่นอน
สำหรับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่า ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกจังหวัดในภาคเหนือ ยกเว้น จ.ลำปาง แม่ฮ่องสอน และแพร่
**ฝนกระหน่ำชายแดนตากล้างหมอกควัน
รายงานข่าวจาก จ.ตาก แจ้งวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า จากการที่ได้เกิดพายุฝนกระหน่ำตกอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดตาก โดยเฉพาะ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า (อ.แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด-ท่าสองยาง และ อ.อุ้มผาง) ส่งผลทำให้ปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทั้งฝั่งไทยและพม่า รวมทั้งการจุดเผาที่ดินเพื่อทำการเกษตรได้ลดลงทันที นอกจากนี้น้ำฝนยังดับจุด Hotspots ตามเขตอุทยานแห่งชาติ และจุดอื่นๆ โดยเฉพาะ 3 จุด Hotspots ใหญ่ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อุทยานแห่งชาติพาเจริญและอุทยานแห่งชาติแม่เมย ก็ดับลงแล้วเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีอย่างมาก
ประกอบกับทางนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ได้ติดตั้งและใช้เครื่องพ่นฉีดไอน้ำ ฉีดละอองไอน้ำขึ้นฟ้าลดมลภาวะเป็นพิษและหมอกควันทำให้สถานการณ์และปัญหาหมอกควันจากไฟป่าลดลง
นายวุฒิ สิทธิสุราษฏร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบหมายให้ตนเองลงพื้นที่ติดตามและแก้ไขปัญหาปัญหาภัยแล้งและหมอกควัน ล่าสุดพบว่าปัญหาได้บรรเทาเบาบางและลดลงอย่างมากจากการที่ฝนตกหนักและฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลนครแม่สอด ได้ติดตั้งเครื่องพ่นฉีดน้ำสร้างละอองไอน้ำขึ้นในอากาศช่วยอีกทางหนึ่งด้วย
**ฝนล้างหมอกควันลำปาง-ทำฟ้าโล่ง
ที่ จ.ลำปาง หลังจากที่มีพายุฝน ลม ตกกระหน่ำอย่างหนัก ในพื้นที่ลำปางตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงวานนี้ (11 มี.ค.) ที่ยังคงมีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่องในบางพื้นที่และจะยังมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ทำให้อากาศในพื้นที่ลำปางสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ท้องฟ้ารอบนอกตัวเมืองลำปาง จะยังมีหมอกควันสีขาวอยู่ก็ตาม แต่ทัศนวิสัยการมองเห็นได้เพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว
ส่วนสถานการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่ จ.ลำปาง ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ค่า PM10 ทั้ง 4 สถานี มีปริมาณที่ลดลง กลับเข้าสู่สภาวะปกติ คือ ที่สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จากเดิมมีค่าสูงสุด วันนี้วัดได้ 56.38 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 68.21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสบป้าด วัดได้ 51.63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สำนักงานประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ วัดได้ 67.79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าทั้งหมดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติและต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดให้ค่าฝุ่นละอองต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ได้รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ จังหวัดลำปาง ในช่วงนี้ว่า จะยังมีกลุ่มเมฆฝนปกคลุมอยู่ ทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้ม และอาจเกิดลมกระโชกแรงและฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ และอาจจะมีลูกเห็บตก ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด.
วานนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศจากบริเวณหน้าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย อ.เมือง พบฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศกว่า 290.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่หน้าสำนักงานสาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย ชายแดนไทย-พม่า พุ่งทะลุขึ้นไปถึงระดับ 437.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภาคเหนือ และกรมควบคุมมลพิษถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตราย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หมอกควันฝุ่นละอองในช่วงบ่ายวานนี้ (11 มี.ค.) ได้ลดระดับความรุนแรงลงมาบ้างแล้ว โดยในเขต อ.เมือง เหลือ 157.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.แม่สาย เหลือ 329.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกันช่วงหัวค่ำวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาพบมีลมพัดมาเล็กน้อย และสภาพอากาศมือครึ้มคล้ายจะเกิดฝนตก แต่ท้ายที่สุดฝนก็ไม่มีฝนตกลงมา คาดว่า สภาพมืดครึ้มเกิดจากหมอกควันที่เกาะกลุ่มกันแน่นกว่าทุกวันที่ผ่านมา
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้จังหวัดได้เร่งหยุดยั้งหรือบล็อคการเผาป่าและวัชพืชอื่นๆ ทั้งจังหวัดอย่างเด็ดขาดเป็นเวลา 3 วันนั้น
ล่าสุดได้มีการแจ้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานข้างเคียง ฯลฯ นำคำสั่งดังกล่าวไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 10-11 มี.ค.55 แล้ว จากนั้นจะดำเนินการหยุดเผาทั้งจังหวัดอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 12-14 มี.ค.เป็นต้นไป ประชาชนทั่วไปพบเห็นการเผาสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบดำเนินการได้ทันที
ด้านนายโสภณ ชุ่มชูจันทร์ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาฝุ่นละอองได้ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้ เข้าใจ ในการป้องกันตนเองเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากกิจกรรมเดินรณรงค์เมื่อวันที่ 10 มี.ค.55 ที่ผ่านมาโดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ทางอำเภอ ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ไปยังตำบล หมู่บ้าน ชุมชน และลงสู่โรงเรียน รวมทั้งจัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำรถน้ำทำการฉีดพ่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมต.สำนักงานนายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมเดินรณรงค์ตามโครงการรณรงค์ "หยุดเผาเพื่อลมหายใจ" ที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย และประชุมมอบนโยบายหยุดเผา 3 วัน โดยระบุว่าฝุ่นละอองเคยเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.และจะส่งผลกระทบหนักช่วงเดือน เม.ย.55 ก่อนที่ฝนจะตกลงมาและทำให้ฝุ่นละอองหายไป แต่ปีนี้กลับพบเกิดปัญหาหนักตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.และคาดว่าจะรุนแรงไปถึงเดือน เม.ย.เช่นกัน
โดยเฉพาะช่วงเดือน มี.ค.55 กลับมีปริมาณฝุ่นละอองเกิน 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงคาดว่าเดือนเมษายน อาจรุนแรงขึ้นอีก เพราะวันที่ 11 มี.ค. ค่าฝุ่นละอองกลับพุ่งสูงเกินกว่าที่คำนวณเอาไว้เสียอีก คือ ขึ้นถึง 437.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นและมีการเผาอย่างต่อเนื่องรวมทั้งไม่มีฝนตกลงมาอาจสูงกว่านี้แน่นอน
สำหรับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่า ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกจังหวัดในภาคเหนือ ยกเว้น จ.ลำปาง แม่ฮ่องสอน และแพร่
**ฝนกระหน่ำชายแดนตากล้างหมอกควัน
รายงานข่าวจาก จ.ตาก แจ้งวานนี้ (11 มี.ค.) ว่า จากการที่ได้เกิดพายุฝนกระหน่ำตกอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดตาก โดยเฉพาะ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า (อ.แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด-ท่าสองยาง และ อ.อุ้มผาง) ส่งผลทำให้ปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณที่เกิดขึ้นจากไฟป่าทั้งฝั่งไทยและพม่า รวมทั้งการจุดเผาที่ดินเพื่อทำการเกษตรได้ลดลงทันที นอกจากนี้น้ำฝนยังดับจุด Hotspots ตามเขตอุทยานแห่งชาติ และจุดอื่นๆ โดยเฉพาะ 3 จุด Hotspots ใหญ่ที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อุทยานแห่งชาติพาเจริญและอุทยานแห่งชาติแม่เมย ก็ดับลงแล้วเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีอย่างมาก
ประกอบกับทางนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ได้ติดตั้งและใช้เครื่องพ่นฉีดไอน้ำ ฉีดละอองไอน้ำขึ้นฟ้าลดมลภาวะเป็นพิษและหมอกควันทำให้สถานการณ์และปัญหาหมอกควันจากไฟป่าลดลง
นายวุฒิ สิทธิสุราษฏร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบหมายให้ตนเองลงพื้นที่ติดตามและแก้ไขปัญหาปัญหาภัยแล้งและหมอกควัน ล่าสุดพบว่าปัญหาได้บรรเทาเบาบางและลดลงอย่างมากจากการที่ฝนตกหนักและฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลนครแม่สอด ได้ติดตั้งเครื่องพ่นฉีดน้ำสร้างละอองไอน้ำขึ้นในอากาศช่วยอีกทางหนึ่งด้วย
**ฝนล้างหมอกควันลำปาง-ทำฟ้าโล่ง
ที่ จ.ลำปาง หลังจากที่มีพายุฝน ลม ตกกระหน่ำอย่างหนัก ในพื้นที่ลำปางตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงวานนี้ (11 มี.ค.) ที่ยังคงมีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่องในบางพื้นที่และจะยังมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ทำให้อากาศในพื้นที่ลำปางสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ท้องฟ้ารอบนอกตัวเมืองลำปาง จะยังมีหมอกควันสีขาวอยู่ก็ตาม แต่ทัศนวิสัยการมองเห็นได้เพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว
ส่วนสถานการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่ จ.ลำปาง ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ค่า PM10 ทั้ง 4 สถานี มีปริมาณที่ลดลง กลับเข้าสู่สภาวะปกติ คือ ที่สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จากเดิมมีค่าสูงสุด วันนี้วัดได้ 56.38 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 68.21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสบป้าด วัดได้ 51.63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สำนักงานประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ วัดได้ 67.79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าทั้งหมดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติและต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดให้ค่าฝุ่นละอองต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ได้รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ จังหวัดลำปาง ในช่วงนี้ว่า จะยังมีกลุ่มเมฆฝนปกคลุมอยู่ ทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้ม และอาจเกิดลมกระโชกแรงและฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ และอาจจะมีลูกเห็บตก ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด.