ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นับวันคุณภาพอากาศชายแดนแม่สายยิ่งวิกฤตหนักขึ้นต่อเนื่อง สุดสัปดาห์นี้พบค่าฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มขึ้นถึง 356 ไมโครกรัม/ลบ.ม. คุณภาพอากาศถึงขั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนมาก
วันนี้ (4 มี.ค.) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ของกรมควบคุมมลพิษ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 19.5-327.0 ไมโครกรัม/ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่พบระดับฝุ่นละออง สูงสุดในวันนี้ถึง 327.0 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลังจากที่วันก่อนหน้า (3 มี.ค.) สถานีที่สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ตรวจพบฝุ่นละอองพุ่งขึ้นไปสูงถึง 356.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม. อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก และคุณภาพอากาศ (AQI) ก็สูงกว่ามาตรฐานกว่า 1 เท่าตัว ไปอยู่ที่ระดับ 209 (มาตรฐานไม่เกิน 100)
ส่วนในตัวเมืองเชียงราย วันนี้ก็ยังคงมีฝุ่นละอองในอากาศสูงเกินมาตรฐานต่อเนื่อง โดยตรวจพบมากถึง 221.38 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
นอกจากนี้ จังหวัดลำปางก็เป็นอีกท้องที่หนึ่งที่ยังคงผจญกับปัญหาฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่สถานี รพ.สต.ท่าสี อ.แม่เมาะ วันนี้วัดค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ได้ 247.21 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 130.54 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปรากฏว่า วันนี้มีระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก อยู่ที่ 169.67 ไมโครกรัม/ลบ.ม., เมืองน่าน ที่สถานีตรวจวัดเทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 178.50 ไมโครกรัม/ลบ.ม., จังหวัดพะเยา ณ อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 155.46 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยา จังหวัดแพร่ วัดได้ 150.71 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน เป็น 2 จังหวัดที่ผลการตรวจวัดระดับฝุ่นละอองไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันนี้ ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลังจากที่ทั้ง 2 จังหวัดนี้ ก็ตกอยู่ใต้ปัญหาหมอกควันมาต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 55 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
วันนี้ (4 มี.ค.) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ของกรมควบคุมมลพิษ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 19.5-327.0 ไมโครกรัม/ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่พบระดับฝุ่นละออง สูงสุดในวันนี้ถึง 327.0 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลังจากที่วันก่อนหน้า (3 มี.ค.) สถานีที่สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ตรวจพบฝุ่นละอองพุ่งขึ้นไปสูงถึง 356.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม. อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก และคุณภาพอากาศ (AQI) ก็สูงกว่ามาตรฐานกว่า 1 เท่าตัว ไปอยู่ที่ระดับ 209 (มาตรฐานไม่เกิน 100)
ส่วนในตัวเมืองเชียงราย วันนี้ก็ยังคงมีฝุ่นละอองในอากาศสูงเกินมาตรฐานต่อเนื่อง โดยตรวจพบมากถึง 221.38 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
นอกจากนี้ จังหวัดลำปางก็เป็นอีกท้องที่หนึ่งที่ยังคงผจญกับปัญหาฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่สถานี รพ.สต.ท่าสี อ.แม่เมาะ วันนี้วัดค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ได้ 247.21 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 130.54 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปรากฏว่า วันนี้มีระดับฝุ่นละอองขนาดเล็ก อยู่ที่ 169.67 ไมโครกรัม/ลบ.ม., เมืองน่าน ที่สถานีตรวจวัดเทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 178.50 ไมโครกรัม/ลบ.ม., จังหวัดพะเยา ณ อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 155.46 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยา จังหวัดแพร่ วัดได้ 150.71 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน เป็น 2 จังหวัดที่ผลการตรวจวัดระดับฝุ่นละอองไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันนี้ ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลังจากที่ทั้ง 2 จังหวัดนี้ ก็ตกอยู่ใต้ปัญหาหมอกควันมาต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ 55 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น