ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบนยังคงเจอกับปัญหาฝุ่นควันปกคลุมไม่หยุด ล่าสุด PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงที่เชียงราย สูงสุด ขณะที่กว๊านพะเยายังติดอันดับ 2 ส่วนลำปาง แพร่ น่าน ก็อ่วมไม่แพ้กัน แต่ที่เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน ฟ้าโล่งบ้างแล้ว
กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือวันนี้ (29 ก.พ.) ว่า พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 60.7-295.8 ไมโครกรัม/ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบทุกสถานี โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง และแพร่ ที่พบฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในตัวเมืองเชียงราย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ได้ 213.00 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งเชียงรายวันนี้ (29 ก.พ.) ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองสูงที่สุด
ส่วนจังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดที่มีระดับฝุ่นละออง มากเป็นอันดับ 2 โดยสถานีอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 191.08 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เมตร
สำหรับจังหวัดลำปาง ซึ่งมีสถานีตรวจวัด 4 สถานี ปรากฏว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. 3 สถานี คือ สถานีศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 178.21 ไมโครกรัม/ลบ.ม. สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ 182.79 ไมโครกรัม/ลบ.ม. สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 149.13 ไมโครกรัม/ลบ.ม. แต่ที่สถานีสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค แม่เมาะ มีค่าฝุ่นละอองลดลงเหลือ 117.79 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่จังหวัดแพร่ก็ยังคงมีฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเกินค่ามาตรฐานอยู่ โดยสถานีตรวจวัดที่อุตุนิยมวิทยาจังหวัดฯ วัดค่าได้ 135.92 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เช่นเดียวกับจังหวัดน่าน ที่พบค่าฝุ่นละออง ณ สถานีเทศบาลเมืองน่าน อยู่ในระดับ 120.04 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ในวันนี้ พื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐานอีกวันหนึ่งคือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน หลังจากก่อนหน้านี้ทั้ง 3 จังหวัดก็ประสบปัญหาค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานมาโดยตลอดเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษยังคงประกาศขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือวันนี้ (29 ก.พ.) ว่า พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 60.7-295.8 ไมโครกรัม/ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบทุกสถานี โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง และแพร่ ที่พบฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในตัวเมืองเชียงราย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ได้ 213.00 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งเชียงรายวันนี้ (29 ก.พ.) ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองสูงที่สุด
ส่วนจังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดที่มีระดับฝุ่นละออง มากเป็นอันดับ 2 โดยสถานีอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 191.08 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เมตร
สำหรับจังหวัดลำปาง ซึ่งมีสถานีตรวจวัด 4 สถานี ปรากฏว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. 3 สถานี คือ สถานีศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 178.21 ไมโครกรัม/ลบ.ม. สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ 182.79 ไมโครกรัม/ลบ.ม. สถานีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 149.13 ไมโครกรัม/ลบ.ม. แต่ที่สถานีสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค แม่เมาะ มีค่าฝุ่นละอองลดลงเหลือ 117.79 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่จังหวัดแพร่ก็ยังคงมีฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเกินค่ามาตรฐานอยู่ โดยสถานีตรวจวัดที่อุตุนิยมวิทยาจังหวัดฯ วัดค่าได้ 135.92 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เช่นเดียวกับจังหวัดน่าน ที่พบค่าฝุ่นละออง ณ สถานีเทศบาลเมืองน่าน อยู่ในระดับ 120.04 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ในวันนี้ พื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐานอีกวันหนึ่งคือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน หลังจากก่อนหน้านี้ทั้ง 3 จังหวัดก็ประสบปัญหาค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานมาโดยตลอดเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษยังคงประกาศขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น