ASTVผู้จัดการรายวัน-ลุ้น 9 มี.ค. พิจารณาลับ ถอดถอน “ภักดี โพธิศิริ”พ้น ปปช. เผยก่อนประชุมวุฒิสภา ประท้วงวุ่น! หลังพบ มี ทหารอากาศยศ นอ. แจกเอกสารลับ ทั่วสภาฯ
วานนี้(6มี.ค.55)ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 14 สมัยสามัญนิติบัญญัติ (พิเศษ) โดยมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ที่ประชุมได้แถลงปิดคำร้องและคำโต้แย้งคำร้องด้วยวาจากรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและคณะในฐานะผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วุฒิสภามีมติให้นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้ถูกร้องพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 248 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา หารือว่า การทำหน้าที่ของวุฒิสภา เหมือนคณะลูกขุนที่ต้องพิจารณา การให้ข้อมูลใดๆ กับคดีดังกล่าวจะกระทำไม่ได้ แต่ขณะนี้มีการนำเอกสาร ซึ่งตามข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการได้ อ้างว่าเป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาลงมติถอดถอนนายภักดี ซึ่งตนอยากสอบถามว่าประธานได้อนุญาตให้แจกเอกสารดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้การแจกเอกสารดังกล่าว ถือว่าขัดต่อขั้นตอนการปฏิบัติว่าด้วยการถอดถอนนายภักดี ขอให้พิจารณาหากเป็นเอกสารที่ขัดขอให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาดำเนินคดี
"เอกสารนี้มีบุคคลมาแจกที่บริเวณอาคารรัฐสภา 2 เป็นข้อความต่างๆ เข้าใจว่าไม่ได้อยู่ในเอกสารสำนวนที่กรรมาธิการวุฒิสภาตั้งขึ้นและได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่ต้น อยากให้ประธานวินิจฉัย" นายสมชายกล่าว
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. หารือว่า ตนได้รับเอกสารเช่นเดียวกัน ซึ่งตนได้สอบถามชื่อของบุคคลที่มาแจก คือ น.อ.กิตติทัศน์ นาเจริญ ทั้งนี้ ตนอยากให้ประธาน สอบถามผู้ร้องว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ เพราะมียศ น.อ.เหมือนกัน การแจกลักษณะดังกล่าวเชื่อว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเอกสารเป็นเอกสารที่คล้ายคลึงกับเอกสารของผู้ร้อง
พล.อ.ธีรเดชได้วินิจฉัยว่า จะให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาตรวจสอบ ทั้งนี้ การแจกเอกสารดังกล่าว ถือว่าแจกนอกห้องประชุม คงอยู่ในดุลพินิจของสมาชิกที่จะพิจารณาทำให้ น.ส.รสนากล่าวว่า ตนได้รับการเปิดเผยจาก ส.ว.ที่ไม่อยากเปิดเผยชื่อว่ามีพยานของฝ่ายผู้ร้องคนหนึ่ง ติดต่อกับ ส.ว.คนดังกล่าว ขอให้เป็นผู้รวบรวมเชิญ ส.ว.ไปรับประทานอาหารที่บ้านของพยานของฝ่ายผู้ร้องคนนั้น ส่วนตัวมองว่ากระบวนการที่ทำนั้นไม่ถูกต้องขอฝากไว้เป็นข้อมูลด้วย
หลังจากเกิดการโต้แย้งของ ส.ว.ในประเด็นดังกล่าว โดยนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอให้ผู้ร้องแถลงก่อนที่จะแถลงปิดคำร้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาแจกเอกสารหรือไม่ และขอให้ประธานวุฒิสภา สั่งเก็บเอกสารทั้งหมดโดยทันที เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุผลและความเป็นธรรม ทำให้นายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องเอกสาร เพราะปกติการรับเอกสารในที่ประชุมถือว่าเป็นการรับพยานเอกสารโดยชอบ ส่วนการแจกเอกสารภายนอกห้องประชุมนั้น ไม่ใช่การนำส่งเอกสารโดยชอบตามระเบียบขั้นตอนไม่มีการรับเอกสาร เพราะการประชุมครั้งนี้เป็นเพียงการรับฟังแถลงคำปิดคดีเท่านั้น ดังนั้นหากใครนำส่งเอกสารภายนอกนั้น และจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับใครหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้อง หรือนำเข้าสู่สำนวนไม่ต้องสนใจใดๆ
ทำให้นายมหรรณพแย้งว่า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะปล่อยให้ผ่านไปได้ง่ายๆ เพราะมี ส.ว.ได้ชี้แจงแล้วว่าเอกสารดังกล่าวนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบการพิจารณา ผู้ที่เข้ามาแจกไม่ได้มาแจกนอกรัฐสภา แต่เข้ามาถึงหน้าอาคารรัฐสภา 2 ซึ่งเป็นที่ทำการของวุฒิสภา ปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไรขอให้สั่งเก็บเอกสารทันที เพราะเป็นเอกสารที่ไม่ชอบ หรือท่านประธานคิดว่าเอกสารนั้นชอบแล้ว
ด้านนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร หารือว่า ตนอยู่ในสภามา 4 ปี เอกสารที่แจกนอกห้องประชุมนั้นตนรับมาเยอะ ตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มเสื้อแดงมาปิดล้อมหน้ารัฐสภา การแจกเอกสารนอกห้องประชุมไม่น่าจะเกี่ยวข้องใดๆ ขอให้เดินหน้าการประชุมต่อไป กับเรื่องเล็กๆ ที่เคยเกิด และในอนาคตก็จะเกิดอีก ซึ่งประธานในที่ประชุมต้องมาพิจารณาอีก จากนั้น พล.อ.ธีรเดชได้เดินหน้าพิจารณาไปตามระเบียบวาระ โดยไม่มีการสั่งเก็บเอกสารหรือสอบถามคำถามใดๆ กับผู้ร้อง
จากนั้นน.อ.อนุดิษฐ์ ได้แถลงการณ์ปิดคำร้องด้วยวาจาของผู้ร้อง และนายภักดี ในฐานะผู้ถูกร้อง ได้โต้แย้งคำร้อง
ก่อนมีการลงมติ กรณีการร้องให้วุฒิสภา พิจารณาถอดถอนนายภักดี จะมีการลงคะแนนลับในวันที่ 9 มีนาคม โดยจะใช้เกณฑ์เสียง 3 ใน 4 หรือประมาณ 112 เสียงของสมาชิกวุฒิสภา จึงจะถอดถอนนายภักดีพ้นจากตำแหน่งได้
วานนี้(6มี.ค.55)ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 14 สมัยสามัญนิติบัญญัติ (พิเศษ) โดยมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน ที่ประชุมได้แถลงปิดคำร้องและคำโต้แย้งคำร้องด้วยวาจากรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและคณะในฐานะผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วุฒิสภามีมติให้นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้ถูกร้องพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 248 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา หารือว่า การทำหน้าที่ของวุฒิสภา เหมือนคณะลูกขุนที่ต้องพิจารณา การให้ข้อมูลใดๆ กับคดีดังกล่าวจะกระทำไม่ได้ แต่ขณะนี้มีการนำเอกสาร ซึ่งตามข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการได้ อ้างว่าเป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาลงมติถอดถอนนายภักดี ซึ่งตนอยากสอบถามว่าประธานได้อนุญาตให้แจกเอกสารดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้การแจกเอกสารดังกล่าว ถือว่าขัดต่อขั้นตอนการปฏิบัติว่าด้วยการถอดถอนนายภักดี ขอให้พิจารณาหากเป็นเอกสารที่ขัดขอให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาดำเนินคดี
"เอกสารนี้มีบุคคลมาแจกที่บริเวณอาคารรัฐสภา 2 เป็นข้อความต่างๆ เข้าใจว่าไม่ได้อยู่ในเอกสารสำนวนที่กรรมาธิการวุฒิสภาตั้งขึ้นและได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่ต้น อยากให้ประธานวินิจฉัย" นายสมชายกล่าว
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. หารือว่า ตนได้รับเอกสารเช่นเดียวกัน ซึ่งตนได้สอบถามชื่อของบุคคลที่มาแจก คือ น.อ.กิตติทัศน์ นาเจริญ ทั้งนี้ ตนอยากให้ประธาน สอบถามผู้ร้องว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ เพราะมียศ น.อ.เหมือนกัน การแจกลักษณะดังกล่าวเชื่อว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเอกสารเป็นเอกสารที่คล้ายคลึงกับเอกสารของผู้ร้อง
พล.อ.ธีรเดชได้วินิจฉัยว่า จะให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาตรวจสอบ ทั้งนี้ การแจกเอกสารดังกล่าว ถือว่าแจกนอกห้องประชุม คงอยู่ในดุลพินิจของสมาชิกที่จะพิจารณาทำให้ น.ส.รสนากล่าวว่า ตนได้รับการเปิดเผยจาก ส.ว.ที่ไม่อยากเปิดเผยชื่อว่ามีพยานของฝ่ายผู้ร้องคนหนึ่ง ติดต่อกับ ส.ว.คนดังกล่าว ขอให้เป็นผู้รวบรวมเชิญ ส.ว.ไปรับประทานอาหารที่บ้านของพยานของฝ่ายผู้ร้องคนนั้น ส่วนตัวมองว่ากระบวนการที่ทำนั้นไม่ถูกต้องขอฝากไว้เป็นข้อมูลด้วย
หลังจากเกิดการโต้แย้งของ ส.ว.ในประเด็นดังกล่าว โดยนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอให้ผู้ร้องแถลงก่อนที่จะแถลงปิดคำร้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาแจกเอกสารหรือไม่ และขอให้ประธานวุฒิสภา สั่งเก็บเอกสารทั้งหมดโดยทันที เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุผลและความเป็นธรรม ทำให้นายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องเอกสาร เพราะปกติการรับเอกสารในที่ประชุมถือว่าเป็นการรับพยานเอกสารโดยชอบ ส่วนการแจกเอกสารภายนอกห้องประชุมนั้น ไม่ใช่การนำส่งเอกสารโดยชอบตามระเบียบขั้นตอนไม่มีการรับเอกสาร เพราะการประชุมครั้งนี้เป็นเพียงการรับฟังแถลงคำปิดคดีเท่านั้น ดังนั้นหากใครนำส่งเอกสารภายนอกนั้น และจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับใครหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้อง หรือนำเข้าสู่สำนวนไม่ต้องสนใจใดๆ
ทำให้นายมหรรณพแย้งว่า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะปล่อยให้ผ่านไปได้ง่ายๆ เพราะมี ส.ว.ได้ชี้แจงแล้วว่าเอกสารดังกล่าวนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบการพิจารณา ผู้ที่เข้ามาแจกไม่ได้มาแจกนอกรัฐสภา แต่เข้ามาถึงหน้าอาคารรัฐสภา 2 ซึ่งเป็นที่ทำการของวุฒิสภา ปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไรขอให้สั่งเก็บเอกสารทันที เพราะเป็นเอกสารที่ไม่ชอบ หรือท่านประธานคิดว่าเอกสารนั้นชอบแล้ว
ด้านนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร หารือว่า ตนอยู่ในสภามา 4 ปี เอกสารที่แจกนอกห้องประชุมนั้นตนรับมาเยอะ ตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มเสื้อแดงมาปิดล้อมหน้ารัฐสภา การแจกเอกสารนอกห้องประชุมไม่น่าจะเกี่ยวข้องใดๆ ขอให้เดินหน้าการประชุมต่อไป กับเรื่องเล็กๆ ที่เคยเกิด และในอนาคตก็จะเกิดอีก ซึ่งประธานในที่ประชุมต้องมาพิจารณาอีก จากนั้น พล.อ.ธีรเดชได้เดินหน้าพิจารณาไปตามระเบียบวาระ โดยไม่มีการสั่งเก็บเอกสารหรือสอบถามคำถามใดๆ กับผู้ร้อง
จากนั้นน.อ.อนุดิษฐ์ ได้แถลงการณ์ปิดคำร้องด้วยวาจาของผู้ร้อง และนายภักดี ในฐานะผู้ถูกร้อง ได้โต้แย้งคำร้อง
ก่อนมีการลงมติ กรณีการร้องให้วุฒิสภา พิจารณาถอดถอนนายภักดี จะมีการลงคะแนนลับในวันที่ 9 มีนาคม โดยจะใช้เกณฑ์เสียง 3 ใน 4 หรือประมาณ 112 เสียงของสมาชิกวุฒิสภา จึงจะถอดถอนนายภักดีพ้นจากตำแหน่งได้
