รอยเตอร์/เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ของจีน ตัดลดเป้าหมายอัตราเติบโตของจีดีพีแดนมังกรในปี 2012 นี้ ลงมาอยู่ที่ 7.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี ในการเสนอรายงานกิจการรัฐบาลประจำปีต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์(5) พร้อมกันนั้นเขาก็ประกาศด้วยว่าปีนี้จะให้ความสำคัญลำดับแรกสุดกับเรื่องการเพิ่มพูนอุปสงค์ของผู้บริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้นับว่าสอดคล้องกับสิ่งที่พวกนักวิเคราะห์จับตามองว่า ปักกิ่งกำลังพยายามหาทางทำให้เศรษฐกิจของตนพึ่งพาอาศัยการส่งออกและเงินทุนต่างประเทศให้น้อยลง
ระหว่างการเสนอรายงานกิจการรัฐบาล ต่อการประชุมเต็มคณะซึ่งปกติจัดขึ้นปีละครั้งของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน นายกฯเวินได้ลดเป้าหมายอัตราเติบโตของจีดีพีปีนี้ลงมาอยู่ที่ 7.5% หลังจากที่เคยยืนตัวเลขอยู่ที่ 8.0% มานานปี ความเคลื่อนไหวเช่นนี้เป็นไปตามที่พวกนักลงทุนคาดหมายกัน โดยพวกเขาคิดว่าปักกิ่งต้องการที่จะปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของตนเสียใหม่ รวมทั้งบรรเทาแรงกดดันด้านระดับราคาซึ่งก็คืออัตราเงินเฟ้อ ในจังหวะเวลาที่ประเทศกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงคณะผู้นำชุดใหม่ในตอนปลายปีนี้
อัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดต่ำลง จะเปิดทางให้ปักกิ่งสามารถทำการปฏิรูปมาตรการควบคุมด้านราคาตัวสำคัญๆ โดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งแรง ทั้งนี้จะได้สามารถเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสินเชื่อหมุนเวียนไปสู่พวกบริกษัทขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งรัฐบาลต้องการที่จะส่งเสริม
“เรามีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างสม่ำเสมอและแข็งแกร่ง, รักษาให้ระดับราคามีเสถียรภาพ, และป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงทางการเงิน ด้วยการรักษาให้ปริมาณเงินและปริมาณสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ถูกต้องเหมาะสม และใช้วิธีการที่ทั้งสุขุมรอบคอบและทั้งมีความยืดหยุ่น” เวินระบุในการกล่าวรายงานกิจการรัฐบาล
นายกฯจีนระบุว่า “การขยายอุปสงค์ของผู้บริโภค” คือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกสำหรับปี 2012 อันเป็นปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีกำหนดจะเปลี่ยนถ่ายอำนาจสู่ผู้นำรุ่นต่อไป โดยที่ เวิน และประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคอีก และจะเกษียณจากตำแหน่งของรัฐในปีหน้า
“เราจะปรับปรุงนโยบายต่างๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภค” เวินกล่าวต่อที่ประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจำนวนเกือบ 3,000 คน ซึ่งอยู่ในความควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างแน่นหนา
“เราจะกระตือรือร้นในการปรับปรุงเรื่องการกระจายรายได้, เพิ่มพูนรายได้ของกลุ่มที่มีรายได้ต่ำและรายได้ระดับกลาง, และกระตุ้นส่งเสริมความสามารถในการบริโภคของประชาชน” เขาบอก
เนื้อหารายงานกิจการประจำปีของประเทศของเขาคราวนี้ ยังเรียกร้องมุ่งแก้ไขอุปสรรคทั้งทางด้านสถาบันและทางด้านรายได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจจีนเกิดความสมดุลมากขึ้น โดยที่จะพึ่งพาการส่งออกน้อยลง และกระจายความร่ำรวยมั่งคั่งไปสู่เกษตรกรตลอดจนคนงานอพยพผู้ยากจนจำนวนหลายร้อยล้านคน ซึ่งลังเลไม่ค่อยอยากจะใช้จ่าย
ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของจีดีพีในปีนี้เอาไว้ที่ 7.5% แต่เป็นที่คาดหมายกันโดยทั่วไปว่าในทางปฏิบัติแดนมังกรจะทำได้สูงกว่านี้ เช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งจีนกำหนดเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% แต่ก็ทำได้เกินกว่านั้นอยู่ทุกปี แม้กระทั่งในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตภาคการเงินปี 2008-09 โดยที่ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนโตในอัตรา 9.2% ซึ่งก็ชะลอตัวลงมาแล้วจากที่พุ่งแรงถึง 10.4% ในปี 2010
นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจ รายงานกิจการรัฐบาลของเวินยังพูดถึงเรื่องอื่นๆ โดยที่ในด้านการทหารนั้น เขาระบุว่า กองทัพจีนควรต้องเพิ่มพูนความสามารถที่จะสู้รบใน “สงครามระดับท้องถิ่น ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ของยุคสารสนเทศ”
ระหว่างการเสนอรายงานกิจการรัฐบาล ต่อการประชุมเต็มคณะซึ่งปกติจัดขึ้นปีละครั้งของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน นายกฯเวินได้ลดเป้าหมายอัตราเติบโตของจีดีพีปีนี้ลงมาอยู่ที่ 7.5% หลังจากที่เคยยืนตัวเลขอยู่ที่ 8.0% มานานปี ความเคลื่อนไหวเช่นนี้เป็นไปตามที่พวกนักลงทุนคาดหมายกัน โดยพวกเขาคิดว่าปักกิ่งต้องการที่จะปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของตนเสียใหม่ รวมทั้งบรรเทาแรงกดดันด้านระดับราคาซึ่งก็คืออัตราเงินเฟ้อ ในจังหวะเวลาที่ประเทศกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงคณะผู้นำชุดใหม่ในตอนปลายปีนี้
อัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดต่ำลง จะเปิดทางให้ปักกิ่งสามารถทำการปฏิรูปมาตรการควบคุมด้านราคาตัวสำคัญๆ โดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งแรง ทั้งนี้จะได้สามารถเดินหน้านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายได้ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสินเชื่อหมุนเวียนไปสู่พวกบริกษัทขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งรัฐบาลต้องการที่จะส่งเสริม
“เรามีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างสม่ำเสมอและแข็งแกร่ง, รักษาให้ระดับราคามีเสถียรภาพ, และป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงทางการเงิน ด้วยการรักษาให้ปริมาณเงินและปริมาณสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ถูกต้องเหมาะสม และใช้วิธีการที่ทั้งสุขุมรอบคอบและทั้งมีความยืดหยุ่น” เวินระบุในการกล่าวรายงานกิจการรัฐบาล
นายกฯจีนระบุว่า “การขยายอุปสงค์ของผู้บริโภค” คือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกสำหรับปี 2012 อันเป็นปีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีกำหนดจะเปลี่ยนถ่ายอำนาจสู่ผู้นำรุ่นต่อไป โดยที่ เวิน และประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคอีก และจะเกษียณจากตำแหน่งของรัฐในปีหน้า
“เราจะปรับปรุงนโยบายต่างๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภค” เวินกล่าวต่อที่ประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจำนวนเกือบ 3,000 คน ซึ่งอยู่ในความควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างแน่นหนา
“เราจะกระตือรือร้นในการปรับปรุงเรื่องการกระจายรายได้, เพิ่มพูนรายได้ของกลุ่มที่มีรายได้ต่ำและรายได้ระดับกลาง, และกระตุ้นส่งเสริมความสามารถในการบริโภคของประชาชน” เขาบอก
เนื้อหารายงานกิจการประจำปีของประเทศของเขาคราวนี้ ยังเรียกร้องมุ่งแก้ไขอุปสรรคทั้งทางด้านสถาบันและทางด้านรายได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจจีนเกิดความสมดุลมากขึ้น โดยที่จะพึ่งพาการส่งออกน้อยลง และกระจายความร่ำรวยมั่งคั่งไปสู่เกษตรกรตลอดจนคนงานอพยพผู้ยากจนจำนวนหลายร้อยล้านคน ซึ่งลังเลไม่ค่อยอยากจะใช้จ่าย
ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของจีดีพีในปีนี้เอาไว้ที่ 7.5% แต่เป็นที่คาดหมายกันโดยทั่วไปว่าในทางปฏิบัติแดนมังกรจะทำได้สูงกว่านี้ เช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งจีนกำหนดเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% แต่ก็ทำได้เกินกว่านั้นอยู่ทุกปี แม้กระทั่งในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตภาคการเงินปี 2008-09 โดยที่ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนโตในอัตรา 9.2% ซึ่งก็ชะลอตัวลงมาแล้วจากที่พุ่งแรงถึง 10.4% ในปี 2010
นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจ รายงานกิจการรัฐบาลของเวินยังพูดถึงเรื่องอื่นๆ โดยที่ในด้านการทหารนั้น เขาระบุว่า กองทัพจีนควรต้องเพิ่มพูนความสามารถที่จะสู้รบใน “สงครามระดับท้องถิ่น ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ของยุคสารสนเทศ”