xs
xsm
sm
md
lg

กลับบ้านหาลูก "น้ำตาเทพบุตรแรงงานฯ ผู้ปิดทองหลัง ศก.จีน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนงานชายคนหนึ่ง กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อกล่าวฝากความรักไปถึงครอบครัวที่รออยู่ที่บ้าน ขณะกำลังขึ้นรถกลับไปเยี่ยมฯ ในวันปีใหม่นี้ (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - สื่อออนไลน์จีน เผยคลิปน้ำตาลูกผู้ชาย คนงานอพยพผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจจีน พร้อมเผยภาพชีวิต ผู้ต้องจากบ้านพลัดครอบครัว มาเพื่อสร้างชีวิตและอนาคต กับความสุขใจในวันปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงของผู้ที่มีตั๋วโดยสารเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว

รายงานข่าวกล่าวว่า คลิปวิดีโอนี้ โพสต์อยู่ใน โย่วคู เว็บวิดีโอยักษ์ของจีน โดยมีคนคลิกเข้ามาชมเกือบครึ่งล้านในเวลาเพียง 7 ชั่วโมงแรกของการอัพโหลด ด้วยความรู้สึกตื้นตันกับหัวอกของคนงานอพยพที่ต้องต่อสู้กับความรู้สึกโดดเดี่ยวต่อสู้เพื่อครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง

คลิปวิดีโอ มีความยาว 5 นาทีนี้ เผยบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกของบรรดาคนงานฯ ที่กล่าวถึงความสุขในการจะได้กลับบ้านในวันตรุษจีนปีใหม่นี้ หลายคนขอบคุณทั้งผู้ว่าจ้าง รัฐบาล และสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจกับชีวิตของพวกเขา บางคนก็คุยเกี่ยวกับตั๋วโดยสารที่ซื้อหามาได้ แม้จะเป็นเพียงตั๋วยืนฯ ไม่มีเก้าอี้นั่ง เพราะต้องการรีบกลับบ้านไปใช้วันหยุดอันมีค่าอยู่กับครอบครัว จะเป็นตั๋วอะไรก็ได้

คนงานฯ เหล่านี้ ยังได้พูดถึงภรรยา ลูกๆ และพ่อแม่ของพวกเขา และเมื่อผู้สื่อข่าวขอให้เขาพูดกับครอบครัวผ่านกล้องบันทึกวิดีโอ คนงานชาย ก็เริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทั้งความรู้สึกตื้นตันที่จะได้เจอครอบครัวพร้อมหน้า และรู้สึกดีใจที่สามารถนำเงินสะสมมานานปี จากหยาดเหงื่อเลือดเนื้อทำงานหนัก ไปให้ครอบครัวที่รักรอคอยเขาอยู่เสมอ

"หนึ่งครอบครัว สองภูมิลำเนา"

เช่นเดียวกับคลิปวิดีโอฯ นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวซินหวา ได้เสนอข่าวการจัดนิทรรศการภาพ "หนึ่งครอบครัว สองภูมิลำเนา" เพื่อสะท้อนปรากฎการณ์สังคมเกี่ยวกับแรงงานอพยพฯ ซึ่งสถิติตัวเลขพบว่า ปัจจุบัน ในจีน มีเด็กๆ ราว 58 ล้านคน ที่ต้องห่างจากพ่อแม่ซึ่งออกจากบ้านหางานทำในที่ห่างไกล และปัญหาเกี่ยวกับทะเบียนสำมะโนครัวการย้ายภูมิลำเนาตามบิดามารดา

ทั้งนี้ ตลอดเวลา 11 วัน ของเทศกาลปีใหม่ซึ่งกำลังจะมาถึงนี้ ผู้คนต่างพูดกันแต่เรื่องว่าจะหาตั๋วกลับบ้านได้อย่างไร มีเว็บไซต์ตั๋วราคาถูกที่ไหน ทั้งคนต่างถิ่นที่เข้ามาทำงานในเมือง นักเรียนนักศึกษา และคนทำมาค้าขายที่จากบ้านไกล รวมกันแล้วนับร้อยๆ ล้านคนในแต่ละปี ใครๆ จึงพากันเรียกว่า นี่เป็น "มหกรรมการเดินทางกลับบ้าน" ที่ใหญ่โตมโหฬารที่สุดในโลก ซึ่งมีรากฐานมาจากคำสั้นๆ ว่า "ครอบครัว"


จาง เจียนฟาง กับภรรยา ได้ออกจากบ้านมาหางานทำในเมืองเซินเจิ้น นานกว่า 10 ปีแล้ว ด้วยความลำบากต่างๆ ทำให้ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้ กลับบ้านไปหาลูก 2 คนเพียง 4 ครั้งเท่านั้น (ภาพซินหวา)
หวัง เจียนจุน มีลูกสาวคนเดียว ... หลายปีแล้วที่ เขาต้องจากลูกและภรรยา ตระเวนรับจ้างทำงานตามไซต์ก่อสร้าง ไปทั่วจีน โดยมีความหวังว่าสักวันจะเก็บเงินให้ลูกได้เรียนมหาวิทยาลัย (ภาพซินหวา)
หวัง ไต้เฉิง ขณะพักมานั่งสูบบุหรี่ ข้างๆ เป็นรูปลูกชายของเขา ที่ห่างกันมานานกว่า 9 ปี เพื่อทำงานก่อสร้างในเฉิงตู (ภาพซินหวา)
ต่ง เวินจง และภรรยา ทั้งคู่ออกมาทำงานในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่เฉิงตู โดยทิ้งลูกชายไว้กับแม่เฒ่า ... ลูกของเขา ต้องเดินไปกลับ  โรงเรียนวันละ 3 ชั่วโมง ตอนพักกลางวัน เพื่อกลับมาดูแลยายผู้ชรา  (ภาพซินหวา)
คนงานในเฉิงตู อีกคน กับภาพลูกชายของเขา (ภาพซินหวา)
เผิง เสี่ยวหรง พูดว่าใจเธอสั่นทุกครั้ง เมื่อเห็นลูกสาวมักจะวิ่งหลบไปร้องไห้ใต้ผ้าห่ม ตอนเธอต้องออกจากบ้านไปทำงานในร้าน  ขายเนื้อ ที่เฉิงตู  (ภาพซินหวา)
หวัง เจิงหวา เป็นอีกคนที่ปล่อยลูกสาวไว้กับแม่เฒ่า เพื่อตระเวนทำงานในเมืองใหญ่ ต่างๆ ทั้งปักกิ่ง เฉิงตู โดยไม่ได้เห็นหน้าทั้ง  สองนานกว่าปีแล้ว (ภาพซินหวา)
กาน เซินหยง คนงานในโรงงานอิเลกทรอนิกส์ ที่เฉิงตู กับภาพลูกสาว ที่บ้านเกิด (ภาพซินหวา)
กำลังโหลดความคิดเห็น