การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือว่ากันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ การฉีกรัฐธรรมนูญฉบับ พุทธศักราช 2550 ทิ้ง แล้วร่างขึ้นใหม่ยังคงเป็นประเด็นถกกันไม่จบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องพรรคเพื่อไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้นพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มติม ต้องกำหนดห้ามแตะต้องประเด็น
1. หมวดพระมหากษัตริย์
2. องค์กรอิสระ
3. แทรกแซงขบวนการยุติธรรมเพื่อหวังช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
คณะกรรมาธิการจะทำตามที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บอกว่ามาจากการเรียกร้องต้องการความเป็นประชาธิปไตยก็ดี เพื่อลบภาพความอัปลักษณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 ที่มาจากการยึดอำนาจของคณะทหารที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานก็ดี เนื้อแท้ก็เพื่อที่จะช่วย ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับประเทศไทยได้โดยพ้นไม่ต้องติดคุก ให้ได้ทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไปกลับคืน ให้คดีความต่างๆ ที่ค้างศาลอยู่หายไปจากสารบบศาล
นี่คือเป้าหมายที่ทักษิณต่อสู้ดิ้นรนตลอดมานับตั้งแต่ที่หมดอำนาจจากการยึดอำนาจของคณะทหารแล้วถูกตรวจสอบ ถูกดำเนินคดี ถูกศาลสั่งจำคุก ถูกศาลยึดทรัพย์
เพียงแต่จะเขียนเอาไว้ตรงไหนอย่างไร เหมือนอย่างที่นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเคยออกมาเสนอให้ยกเลิกองค์กรอิสระ ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะพูดก่อนหรือหลังสภารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นแนวคิด เป็นหนทางที่สอดรับกับการเคลื่อนไหวของทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ทั้งหลายต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สงกรานต์ปี 2552 และปี 2553 จนกระทั่งนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางจังหวัด
เรามักจะได้ยินวาทกรรมต่างๆ ที่ลดความน่าเชื่อถือของศาล เป็นต้น ศาลหมดความยุติธรรม ศาลสองมาตรฐาน ศาลสิ้นความเป็นธรรม เมียซื้อผัวติดคุก ทำกับข้าวก็พ้นจากตำแหน่งนายกฯ
แต่ไม่เอาเนื้อหาสาระ ไม่ได้พูดถึงเหตุและผลของคดี และไม่มองถึงความผิดของตัวเลยแม้แต่น้อย
มีการตั้งคำถามหลายครั้งหลายหนแล้วว่า นอกเหนือจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ว่ามาจากผู้ร่างฯ ที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งแล้ว ช่วยบอกหน่อยว่ามีจุดอ่อนที่ตรงไหนอีก จะแก้ไขตรงไหนอย่างไร ก็ไม่มีใครตอบได้ แต่กลับโยนให้ ส.ส.ร.ขณะเดียวกัน ก็มีการตีกรอบให้ ส.ส.ร.ต้องร่างรัฐธรรมนูญตามกรอบที่คณะกรรมาธิการกำหนด
แล้วทำไมคณะกรรมาธิการต้องมากำหนดกรอบ ถ้าหากเก่งขนาดนั้นก็ร่างเสียเองไม่ดีหรือจะได้ไม่ต้องเลือก ส.ส.ร.จะได้ไม่เปลืองงบประมาณ
หรือแท้จริงแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขมีอยู่แล้ว
เนื้อหาสาระก็อย่างที่พูดไว้แล้วคือทำอย่างไรจึงจะช่วยทักษิณได้?
ทักษิณสามารถกุมเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติไว้ได้แล้วหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม และเมื่อได้เสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติก็เป็นฝ่ายกุมอำนาจบริหารจัดตั้งรัฐบาลผ่านน้องสาวที่ยอมเป็นหุ่นให้ทักษิณเชิด
จุดอ่อนอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยจึงอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร แต่เป็นจุดแข็งของทักษิณ ขณะที่จุดอ่อนของทักษิณอยู่ที่อำนาจตุลาการ ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรม ศาลปกครอง หรือแม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ
จุดแข็งของทักษิณ คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารซึ่งยอมลดตัวเป็นขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณ ทักษิณเป็นฝ่ายกำหนดที่จะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระบบเขต หรือระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนฝ่ายบริหารนั้นก็ขึ้นอยู่กับทักษิณจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี เอาใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไหน และแม้กระทั่งจะเอาพรรคไหนมาร่วมรัฐบาล
ความเป็นจริงเหล่านี้ทักษิณพูดเอง
เป็นคำพูดที่ตบหน้าน้องสาวตัวเอง และบอกให้ชาวโลกรู้ว่า น้องสาวของตัวพูดไม่จริง โกหกหรือตอแหลที่บอกว่า เป็นคนกำหนดทุกอย่างเอง
ศาลยุติธรรมนั้นมีคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) กำหนด ตรวจสอบอยู่อย่างค่อนข้างเคร่งครัด ปีหนึ่งๆ ลงโทษตุลาการที่ออกนอกลู่นอกรอยมิใช่น้อย เป็นที่เกรงขามของตุลาการทั้งหลายที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ดำรงความยุติธรรมต่อประชาชน ให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ศาลปกครองก็เช่นเดียวกัน เป็นศาลที่พิจารณาข้อขัดแย้งของฝ่ายรัฐกับประชาชน ซึ่งเมื่อศาลให้ความยุติธรรมกับประชาชน ศาลปกครองก็ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐ
ผู้ที่กุมอำนาจรัฐจึงอยากจะเปลี่ยนแปลง
ส่วนศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้แตกต่างไปจากศาลรัฐธรรมนูญในคดีซุกหุ้น ยากที่ทักษิณจะเข้าไปแทรกแซง แม้จะมีบางคนในศาลรัฐธรรมนูญพยายามที่จะทำตัวเป็นขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยคลิป สร้างนิยายที่ดิสเครดิตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สำเร็จ จึงไม่แปลกที่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น อำนาจ โครงสร้าง หรือแม้แต่ตัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ประชาชนส่วนหนึ่งที่เขารู้ทันทักษิณจึงออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแท้จริงคือการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับทักษิณ ช่วยทักษิณขึ้นมาใหม่
การเคลื่อนไหวนี้จะค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้นๆ จนกระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ไม่ได้
สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เจอมาแล้ว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะเจอ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องพรรคเพื่อไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้นพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มติม ต้องกำหนดห้ามแตะต้องประเด็น
1. หมวดพระมหากษัตริย์
2. องค์กรอิสระ
3. แทรกแซงขบวนการยุติธรรมเพื่อหวังช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
คณะกรรมาธิการจะทำตามที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บอกว่ามาจากการเรียกร้องต้องการความเป็นประชาธิปไตยก็ดี เพื่อลบภาพความอัปลักษณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 ที่มาจากการยึดอำนาจของคณะทหารที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานก็ดี เนื้อแท้ก็เพื่อที่จะช่วย ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับประเทศไทยได้โดยพ้นไม่ต้องติดคุก ให้ได้ทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไปกลับคืน ให้คดีความต่างๆ ที่ค้างศาลอยู่หายไปจากสารบบศาล
นี่คือเป้าหมายที่ทักษิณต่อสู้ดิ้นรนตลอดมานับตั้งแต่ที่หมดอำนาจจากการยึดอำนาจของคณะทหารแล้วถูกตรวจสอบ ถูกดำเนินคดี ถูกศาลสั่งจำคุก ถูกศาลยึดทรัพย์
เพียงแต่จะเขียนเอาไว้ตรงไหนอย่างไร เหมือนอย่างที่นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเคยออกมาเสนอให้ยกเลิกองค์กรอิสระ ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะพูดก่อนหรือหลังสภารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นแนวคิด เป็นหนทางที่สอดรับกับการเคลื่อนไหวของทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ทั้งหลายต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สงกรานต์ปี 2552 และปี 2553 จนกระทั่งนำไปสู่เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางจังหวัด
เรามักจะได้ยินวาทกรรมต่างๆ ที่ลดความน่าเชื่อถือของศาล เป็นต้น ศาลหมดความยุติธรรม ศาลสองมาตรฐาน ศาลสิ้นความเป็นธรรม เมียซื้อผัวติดคุก ทำกับข้าวก็พ้นจากตำแหน่งนายกฯ
แต่ไม่เอาเนื้อหาสาระ ไม่ได้พูดถึงเหตุและผลของคดี และไม่มองถึงความผิดของตัวเลยแม้แต่น้อย
มีการตั้งคำถามหลายครั้งหลายหนแล้วว่า นอกเหนือจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ว่ามาจากผู้ร่างฯ ที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งแล้ว ช่วยบอกหน่อยว่ามีจุดอ่อนที่ตรงไหนอีก จะแก้ไขตรงไหนอย่างไร ก็ไม่มีใครตอบได้ แต่กลับโยนให้ ส.ส.ร.ขณะเดียวกัน ก็มีการตีกรอบให้ ส.ส.ร.ต้องร่างรัฐธรรมนูญตามกรอบที่คณะกรรมาธิการกำหนด
แล้วทำไมคณะกรรมาธิการต้องมากำหนดกรอบ ถ้าหากเก่งขนาดนั้นก็ร่างเสียเองไม่ดีหรือจะได้ไม่ต้องเลือก ส.ส.ร.จะได้ไม่เปลืองงบประมาณ
หรือแท้จริงแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขมีอยู่แล้ว
เนื้อหาสาระก็อย่างที่พูดไว้แล้วคือทำอย่างไรจึงจะช่วยทักษิณได้?
ทักษิณสามารถกุมเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติไว้ได้แล้วหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม และเมื่อได้เสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติก็เป็นฝ่ายกุมอำนาจบริหารจัดตั้งรัฐบาลผ่านน้องสาวที่ยอมเป็นหุ่นให้ทักษิณเชิด
จุดอ่อนอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยจึงอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร แต่เป็นจุดแข็งของทักษิณ ขณะที่จุดอ่อนของทักษิณอยู่ที่อำนาจตุลาการ ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรม ศาลปกครอง หรือแม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ
จุดแข็งของทักษิณ คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารซึ่งยอมลดตัวเป็นขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณ ทักษิณเป็นฝ่ายกำหนดที่จะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระบบเขต หรือระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนฝ่ายบริหารนั้นก็ขึ้นอยู่กับทักษิณจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี เอาใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไหน และแม้กระทั่งจะเอาพรรคไหนมาร่วมรัฐบาล
ความเป็นจริงเหล่านี้ทักษิณพูดเอง
เป็นคำพูดที่ตบหน้าน้องสาวตัวเอง และบอกให้ชาวโลกรู้ว่า น้องสาวของตัวพูดไม่จริง โกหกหรือตอแหลที่บอกว่า เป็นคนกำหนดทุกอย่างเอง
ศาลยุติธรรมนั้นมีคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) กำหนด ตรวจสอบอยู่อย่างค่อนข้างเคร่งครัด ปีหนึ่งๆ ลงโทษตุลาการที่ออกนอกลู่นอกรอยมิใช่น้อย เป็นที่เกรงขามของตุลาการทั้งหลายที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้ดำรงความยุติธรรมต่อประชาชน ให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ศาลปกครองก็เช่นเดียวกัน เป็นศาลที่พิจารณาข้อขัดแย้งของฝ่ายรัฐกับประชาชน ซึ่งเมื่อศาลให้ความยุติธรรมกับประชาชน ศาลปกครองก็ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐ
ผู้ที่กุมอำนาจรัฐจึงอยากจะเปลี่ยนแปลง
ส่วนศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้แตกต่างไปจากศาลรัฐธรรมนูญในคดีซุกหุ้น ยากที่ทักษิณจะเข้าไปแทรกแซง แม้จะมีบางคนในศาลรัฐธรรมนูญพยายามที่จะทำตัวเป็นขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ปล่อยคลิป สร้างนิยายที่ดิสเครดิตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่สำเร็จ จึงไม่แปลกที่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น อำนาจ โครงสร้าง หรือแม้แต่ตัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ประชาชนส่วนหนึ่งที่เขารู้ทันทักษิณจึงออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแท้จริงคือการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับทักษิณ ช่วยทักษิณขึ้นมาใหม่
การเคลื่อนไหวนี้จะค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้นๆ จนกระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ไม่ได้
สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เจอมาแล้ว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะเจอ