xs
xsm
sm
md
lg

ขาดภาวะผู้นำจริยธรรมด้อย : เหตุให้รัฐบาลเสื่อม

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

ถ้านับเวลาตั้งแต่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 และมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบันจะได้เวลารวมประมาณ 7 เดือนกว่า

โดยปกติทั่วไปสำหรับการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลใหม่เวลา 7 เดือนถือได้ว่าไม่นาน เมื่อเทียบกับลักษณะและปริมาณงานที่ผู้เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศต้องทำ เพราะลำพังเพียงการนำนโยบายที่ปราศรัยหาเสียงไว้มาจัดทำเป็นแผน และส่งต่อให้ระดับปฏิบัติการในแต่ละกระทรวง ทบวง กรมไปดำเนินการ รวมทั้งประสานงานกับภาคเอกชนก็หมดเวลาแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องมีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมจากส่วนงานที่เป็นนโยบายแต่อย่างใด

ดังนั้นในช่วงเวลาประมาณนี้รัฐบาลไม่น่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบดังที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนี้ ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะพูดได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีที่มาค่อนข้างจะไม่ปกติ

อะไรคือมูลเหตุให้รัฐบาลชุดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบค่อนข้างจะมากผิดปกติ และอนาคตของรัฐบาลชุดนี้จะเป็นอย่างไร

เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้มองเห็นประเด็นแห่งปัญหาได้ชัดเจน และง่ายต่อการนำมาวิเคราะห์เพื่อหามูลเหตุที่ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นเหยื่อแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบมากและเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ผู้เขียนใคร่ขอให้ท่านผู้อ่านลองย้อนไปดูความเป็นมาทั้งของพรรคเพื่อไทย และตัวผู้นำรัฐบาล ก็พออนุมานเหตุที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ประสบปัญหาวิกฤตศรัทธาดังต่อไปนี้

1. ในส่วนที่มาของพรรคเพื่อไทย พรรคนี้ก็คือทายาททางการเมืองของพรรคไทยรักไทย ซึ่งอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ก่อตั้งขึ้นและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในปี 2544 และต่อมาถูกยุบเปลี่ยนมาเป็นพรรคพลังประชาชนในยุคของนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

ดังนั้น ในส่วนของความเป็นพรรคการเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีการสืบทอดแนวคิดทางการเมืองที่พรรคไทยรักไทยเคยมีและเคยเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดอันเป็นเหตุให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถูกโค่นล้มจากการทำรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อที่ว่าจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงของขบวนการเมืองนอกสภาฯ ที่สังคมส่วนหนึ่งเชื่อว่าเชื่อมโยงกับพรรคไทยรักไทยในยุคนั้น และยังเป็นข้อกังขาจนกระทั่งในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่หลายท่านในระดับแกนนำของพรรคได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนส่วนหนึ่งยังแคลงใจ จะเห็นได้จากการออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการอยู่ในขณะนี้

2. ในส่วนของผู้นำรัฐบาลซึ่งมีที่มาค่อนข้างจะไม่ปกติ เมื่อดูจากความเป็นมาในอดีตที่การเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคดำรงตำแหน่งนี้ แต่ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่มิได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงทำให้เป็นที่เข้าใจตรงกันใน 2 ประเด็น คือ ผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นเพียงคนดูแลกิจการของพรรค ไม่มีอำนาจใดๆ ในการบริหารพรรค และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือทายาททางการเมืองที่แท้จริงของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ด้วยเหตุนี้สังคมจึงมองเห็นผู้นำรัฐบาลเป็นเพียงนายกฯ เงาที่มีอดีตนายกฯ ทักษิณคอยบงการอยู่ข้างหลังในทุกเรื่อง จึงทำให้ภาวะผู้นำของนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สง่างามเพียงพอที่จะเป็นผู้บริหารประเทศ

นอกจากนี้ เมื่อเป็นผู้นำรัฐบาลได้ไม่นานก็แสดงให้เห็นถึงการขาดภาวะผู้นำที่ควรจะมี และควรจะเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรอบคอบ รอบรู้ในเรื่องงาน และเรื่องของบุคลากร จะเห็นได้จากการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ลองผิดลองถูกจนน้ำท่วมในหลายพื้นที่มากกว่าที่ควรจะมี และควรจะเป็นถ้าผู้นำรอบรู้ และใช้คนเป็น

อีกประการหนึ่ง ในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นในเวทีระดับชาติ เช่น ในคราวที่ต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าคำกล่าวต้อนรับ นางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งมีข้อความเพียงครึ่งหน้ากระดาษเอ 4 แต่มีจุดที่ฝรั่งบอกว่าฟังไม่เข้าใจถึง 10 กว่าจุด เป็นต้น

นอกจากมีปัญหาเรื่องการแสดงความคิดเห็นไม่เป็นที่ยอมรับของผู้รู้ทั้งหลายแล้ว ยังมีข้อกังขาเรื่องจริยธรรมของผู้นำดังที่เกิดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ จนกระทั่งบัดนี้ล่วงเลยมาเดือนหนึ่งแล้ว ยังไม่มีคำตอบให้ผู้คนหายกังขาว่าไปทำอะไร ไปพบใคร คุยกันเรื่องอะไร และทำไมไม่ให้มาพบที่ทำเนียบฯ ถ้าเป็นเรื่องราชการ เป็นต้น

นอกจากตัวผู้นำแล้ว รัฐมนตรีบางท่านในรัฐบาลชุดนี้ก็มีส่วนทำให้รัฐบาลพบวิกฤตศรัทธา เช่น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา รองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ตกเป็นข่าวเมาแล้วมาพูดในสภาฯ เป็นปัญหากับผู้ฟังทั้งในสภาฯ และคนฟังที่บ้านที่เห็นภาพแสดงออกในวันนั้น

แต่เรื่องนี้ดูเหมือนว่ารองนายกฯ เฉลิมได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ดื่มของมึนเมา แต่ที่หน้าแดงเพราะออกกำลังกายสุขภาพดี และที่เดินเซเพราะเป็นโรคเกี่ยวกับหู ฟังดูแล้วท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของศรัทธาในคำชี้แจง แต่ขอบอกไว้เป็นข้อคิดว่า ใครก็ตามถ้ามีทุนทางสังคมน้อยในบางครั้งพูดเรื่องจริงคนฟังยังบอกว่าเท็จ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเท็จด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวยากที่จะแก้ตัว

ด้วยเหตุที่รัฐบาลชุดนี้มีประเด็นที่สังคมกังขามาแต่ต้น ดังนั้นเมื่อมีอะไรมาทำให้เกิดข้อกังขาก็จะคิดทันทีว่าไม่น่าไว้ใจ ทางเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือ ปลูกฝังศรัทธาให้คนเชื่อและเข้าใจในสิ่งที่ทำ สังคมก็จะให้อภัยและให้โอกาสทำดีเพื่อแก้ตัว แต่อย่าแก้ต่างดังที่เป็นอยู่ ก็จะอยู่ต่อไปได้
เครือข่ายแม้วทำปืนลั่น เปลือยธาตุแท้ ย่ำยีศาล-ล้างผิดตามใจชอบ!!
เครือข่ายแม้วทำปืนลั่น เปลือยธาตุแท้ ย่ำยีศาล-ล้างผิดตามใจชอบ!!
อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้ทั้งในพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลต่างพยายามออกมา “เบรก”กันจนตัวโก่ง โดยเฉพาะ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องบอกว่านั่นเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค รวมทั้งพยายามดึงให้กลับมาสู่ “มายา” แบบเดิมคือ ให้เป็นเรื่องของ ส.ส.ร.ที่ไม่มีใครไปแทรกแซงได้ ที่สำคัญหนทางอีกยาวไกล ซึ่งหากมองอย่างรู้ทันก็คือใช้วิธีการแบบปิดลับไม่ให้เห็นร่องรอยตั้งแต่ต้น แต่จะใช้วิธีมา “เปิดเอาตอนจบ” เพราะเชื่อว่าถึงตอนนั้นไม่มีใครตั้งตัวทันแล้ว ต้องปล่อยเลยตามเลยประมาณนั้น เหมือนกับในช่วงที่ผ่านมาก็เก็บเงียบทำไม่รู้ไม่เห็นโยนไปที่สภาท่าเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น