xs
xsm
sm
md
lg

ปูด “บัณฑูร” ทิ้งเก้าอี้ เหตุน้อยใจเป็นถึงเพื่อนซี้แม้ว ไม่ได้ดีเท่า “สุรนันทน์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัณฑูร สุภัควนิช (แฟ้มภาพ)
ตึกไทยร้าว “เพื่อนทักษิณ” ทิ้งเก้าอี้เลขาธิการนายกฯ หลังเกาเหลา “สุรนันทน์” เหตุยิ่งลักษณ์ให้ท้ายหญิงอ้อหนุนจนใหญ่คับทำเนียบ ด้าน “เจ๊หน่อย” เปิดบ้านถกการเมือง รุมต้าน “สุรนันทน์” คัมแบ็กรัฐมนตรี ส่วน “อนุสรณ์” กลบรอยร้าวอ้าง “บัณฑูร” มีปัญหาสุขภาพต้องการพักผ่อน ขณะที่แหล่งขาวอีกด้านชี้ถูกแรงบีบให้ลาออกเพราะขวางงบฯคนเพื่อไทย

วันที่ 28 ก.พ. แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงเบื้องหลังการลาออกของนายบัณฑูร สุภัควนิช จากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องดังกล่าวมีเบื้องหลังเกิดจากปัญหาการทำงานของทีมงานฝ่ายการเมืองรอบกาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ซึ่งเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีได้ดึงนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตโฆษกพรรคไทยรักไทยมาช่วยงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า หลังจากผ่านพ้นปัญหาวิกฤตน้ำท่วม โดยนายสุรนันทน์ทำหน้าที่เสมือนเลขาฯ ส่วนตัวนายกฯ นั่งทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า และคอยทำหน้าที่สกรีนงานต่างๆ ให้นายกฯ ทุกเรื่อง โดยเฉพาะงานด้านการเมือง และด้านสื่อสารมวลชน จนกระทั่งเข้าไปบริหารจัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ส่งผลให้นายสุรนันทน์มีบทบาทอย่างมากในทำเนียบรัฐบาล จนทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับทีมงานการเมืองของนายกรัฐมนตรีบางส่วน เช่น นายบัณฑูร ซึ่งแม้นายบัณฑูรจะเป็นเพื่อนสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยที่เรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกาด้วยกันทั้งคู่ จน พ.ต.ท.ทักษิณส่งนายบัณฑูรมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำให้นายบัณฑูรต้องลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย แต่นายสุรนันทน์ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ มากกว่า อีกทั้งมีกระแสข่าวจากเพื่อไทยบางส่วนว่านายสุรนันทน์ยังได้แรงหนุนจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ด้วย

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ปัญหาการทำงานของนายบัณฑูรกับนายกฯ เริ่มมีปัญหามากขึ้นในช่วงหลัง เพราะนายกฯ ไม่พอใจการทำงานของนายบัณฑูรบางเรื่อง เช่น การเตรียมเอกสารสุนทรพจน์ หรือสคริปต์ที่ให้นายกฯ กล่าวในงานต่างๆ ปรากฏว่าไม่เป็นที่พอใจแก่นายกฯ และทีมงาน จนบางครั้งนายกฯ ต้องทำการดึงเอกสารมาแก้ใหม่ สุดท้ายนายบัณฑูรจึงตัดสินใจลาออกในที่สุด

รายงานข่าวจากจากกลุ่มกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทยที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้ากลุ่ม ส.ส.กทม.ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ทางกลุ่มได้ทำการหารือกันถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่บ้านคุณหญิงสุดารัตน์ โดยวงประชุมดังกล่าวได้มีการหารือกันเรื่องการเมืองในพรรคเพื่อไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่กลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษทางการเมือง โดย ส.ส.ในกลุ่มได้รับสัญญาณว่าพวก 111 ไทยรักไทยจะยังไม่กลับมารับตำแหน่งการเมืองทันทีหลังเดือนมิถุนายน ยกเว้นเหตุจำเป็นจริงๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในพรรคได้แสดงฝีมือเต็มที่ ซึ่งที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงบทบาทของนายสุรนันทน์ที่เคยเป็นคนของคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย

แหล่งข่าวจากกลุ่มกรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ รวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ได้หารือกันถึงกระแสข่าวที่ว่านายสุรนันทน์จะกลับมารับตำแหน่งทางการเมือง ด้วยการเป็นรัฐมนตรีด้วยหากมีการปรับ ครม.ในอนาคต โดยคุณหญิงสุดารัตน์และกลุ่ม กทม.เห็นตรงกันตรงว่าไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมานายสุรนันทน์ทิ้ง พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคเพื่อไทยไป ในยามลำบากในช่วงหลัง 19 กันยายน 49 ไปร่วมก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดินแล้วก็ตั้งทีม

ผู้สมัคร ส.ส.กทม.แข่งกับพรรคพลังประชาชน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมาช่วยงานอะไรพรรคเพื่อไทย เพิ่งจะมาหลังพรรคชนะการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยก็แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย ในเรื่องที่จะให้นายสุรนันทน์มารับตำแหน่งการเมืองหลังเดือนมิถุนายน ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคุมสื่อ หรือเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเข้ามารับตำแหน่งเต็มตัวเพื่อแทน พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง ที่รักษาการเลขาธฺการนายกรัฐมนตรีขณะนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียม 10 และ นรต.รุ่น 26 กับทักษิณ

อย่างไรก็ตาม นายอนุสรณ์ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า นายบัณฑูรได้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าประชุม ครม.ว่าเนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ และคนในครอบครัวต้องการให้พักผ่อน เพราะที่ผ่านมาทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่ ผอ.สำนักงบประมาณ จนมาเล่นการเมือง ซึ่งนายกฯ แสดงความเสียดาย เพราะเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ทุ่มเททำงาน มาเช้ากลับดึก จึงขอต่อนายบัณฑูรว่าอยากให้อยู่ช่วยงานต่อ โดยขอให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งนายบัณฑูรตอบรับ จึงยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีความขัดแย้งอะไรกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันก็มีรายงานเพิ่มอีกด้านว่าสาเหตุที่ทำให้นายบัณฑูรลาออกจากเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพราะขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองในพรรคเพื่อไทยกรณีเรื่องการเสนอของบประมาณและโครงการต่างๆ ผ่านกระทรวงต่างๆ เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมครม.เนื่องจากนายบัณฑูรเคยเป็นผอ.สำนักงบประมาณมาก่อนจึงรู้ระบบงบประมาณเป็นอย่างดี จึงไม่ค่อยเห็นด้วยในบางเรื่องทำให้ฝ่ายการเมืองไม่พอใจ จนเกิดปัญหาการทำงานขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น