xs
xsm
sm
md
lg

การบริหารด้วยการเล่นลิ้น ตอนผีปอบและเปรตกินเงินสำรองของชาติ

เผยแพร่:   โดย: ไสว บุญมา

ตามที่สัญญาไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน วันนี้จะพูดถึงตอนผีปอบและเปรตกินเงินสำรองของชาติ ต้องพูดถึงเรื่องนี้เพราะมันมีความสำคัญมากเนื่องจากพวกเมธีบริกรอ้าปากให้เห็นลิ้นไก่ไม่กี่วันหลังรัฐบาลนี้เข้าสู่อำนาจ วิธีของพวกเมธีคือการกรุยทางให้นักการเมืองเข้าถึงทุนสำรองของชาติทั้งที่ในยุคโลกาภิวัตน์นี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีทุนสำรองจำนวนมากเนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ เทคโนโลยีดิจิตอลเป็นหัวจักรใหญ่ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากมันเอื้อให้การติดต่อสื่อสาร การค้าขายและการโยกย้ายเงินตราสามารถทำได้ในพริบตา

ความสะดวกของการค้าขายเอื้อให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากพวกเขาสามารถผลิตสินค้าได้ในราคาต่ำกว่าประเทศก้าวหน้า การขยายตัวในอัตราสูงมานับสิบปีทำให้ตอนนี้จีน บราซิล และอินเดียมีเศรษฐกิจรวมกันกว่าครึ่งโลก ในขณะเดียวกัน สินค้าราคาถูกก็เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้การบริโภคในประเทศก้าวหน้าขยายตัวอย่างรวดเร็วจนส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นขาดดุลการค้าในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง การขาดดุลนั้นนำไปสู่การกู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาลจนทำให้สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนสถานะจากการเป็นเจ้าหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเป็นลูกหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การโยกย้ายเงินตราได้ภายในพริบตาเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เกิดกองทุนเพื่อเก็งกำไรขนาดใหญ่ กองทุนพวกนี้ไม่มีประโยชน์ต่อด้านการผลิตในเศรษฐกิจมากนักเนื่องจากเป็นเพียงกิจการปั่นตัวเลขเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มันทำให้ผู้ปั่นร่ำรวยและมีบทบาทสูง ข้อมูลบ่งว่าในช่วงเวลาสามทศวรรษที่ผ่านมา กองทุนเพื่อเก็งกำไรมีส่วนผลักดันให้ภาคการเงินมีบทบาทสูงขึ้นมากในเศรษฐกิจ ในสหรัฐอเมริกาบทบาทนั้นเพิ่มเป็นสองเท่าจากราว 4% เป็น 8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ

ความสะดวกทางด้านการค้าขายและโยกย้ายเงินตรามีผลทำให้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศหนึ่งขยายไปถึงประเทศอื่นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว วิกฤตในเมืองไทยเมื่อปี 2540 จึงลุกลามไปถึงประเทศอื่นอย่างกว้างขวางและวิกฤตในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2551 ก็ลุกลามไปถึงประเทศอื่นอย่างรวดเร็ว ในสภาพการณ์เช่นนี้ ประเทศที่อาศัยการค้าขายต่างประเทศเป็นหัวจักรใหญ่ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจเช่นไทยควรเก็บทุนสำรองไว้ในระดับสูงกว่าอัตราที่เคยคิดว่าเพียงพอ นั่นคือ เท่ากับค่าสินค้านำเข้าราว 3 เดือน

เราคงยังไม่ลืมกันว่าเมื่อก่อนปี 2540 เรามีทุนสำรองราวสองเท่าของอัตรานั้น แต่มันหมดไปในเวลาอันสั้นเมื่อเกิดวิกฤต ยิ่งกว่านั้น บางคนอาจจำกรณีของอาร์เจนตินาได้ (หากจำไม่ได้อาจไปเปิดอ่านหนังสือชื่อ "ประชานิยม : ทางสู่ความหายนะ") ย้อนไปก่อนวันที่ประธานาธิบดี ฮวน เปโรน จะเข้ารับตำแหน่ง อาร์เจนตินาค้าขายจนร่ำรวยและมีทุนสำรองสูงถึงราว 2.5 เท่าของค่าสินค้านำเข้าต่อปี หรือสามารถซื้อสินค้าได้ถึง 30 เดือน ฮวน เปโรน เป็นผีปอบประชานิยม หลังเข้าบริหารประเทศไม่นาน เขาก็ผลาญทุนสำรองก้อนใหญ่จนหมดสิ้น

ทั้งที่สภาพการณ์บ่งชี้ว่าควรเก็บทุนสำรองไว้ให้มากที่สุด แต่พอรัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ พวกเมธีบริกรก็เสนอให้นำทุนสำรองกองใหญ่ออกมาบริหารแทนธนาคารแห่งประเทศไทย สร้างความสงสัยว่าอะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริง พวกเขาให้เหตุผลว่า การนำทุนสำรองออกมาบริหารเช่นนั้นจะได้ค่าตอบแทนสูงกว่าอัตราที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทำได้อยู่ในปัจจุบัน แต่นั่นเป็นการพูดเพียงด้านเดียว อีกด้านหนึ่งซึ่งมีความสำคัญยิ่งได้แก่ความเสี่ยงต่อการขาดทุนซึ่งจะไม่เกิดขึ้นเมื่อเงินนั้นอยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนั้น ยังมีความเสี่ยงทางด้านการเข้าถึงเงินก้อนใหญ่ของนักการเมืองที่ไม่มีจรรยา หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นพวกผีปอบ พวกเขาจะหาโอกาสถลุงทุนสำรองของชาติ กระบวนการอาจเกิดดังนี้

พวกเขาจะตั้งพรรคพวกกันเองรวมทั้งเมธีบริกรขึ้นมาเป็นกรรมการกองทุนที่ตั้งขึ้นจากทุนสำรองด้วยค่าตอบแทนแสนสูง กรรมการจะนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในบริษัทที่นักการเมืองและพวกพ้องไปตั้งไว้ในต่างประเทศ บริษัทอาจเป็นทั้งจำพวกที่มีกิจการจริงและจำพวกผีที่มีเฉพาะตู้ไปรษณีย์ตามเกาะต่างๆ ซึ่งพวกอาชญากรนิยมทำ ไม่ว่าจะลงทุนในบริษัทชนิดไหน โอกาสที่จะขาดทุนและสูญเงินเกิดขึ้นได้สูงทั้งนั้น ในตอนต้นๆ บริษัทจะแต่งบัญชีให้ดูมีกำไร ต่อไปบริษัทก็จะขาดทุนส่งผลให้ทุนสำรองของชาติสูญหายกลายเป็นเงินของพวกผีปอบซึ่งอาจมองว่าเป็นผีเปรตด้วยก็ได้หากทุนสำรองที่สูญไปเป็นเงินที่ได้มาจากการทอดผ้าป่ากับหลวงตามหาบัว

ผู้ที่มองเห็นว่ารัฐบาลนี้มีผีปอบและผีเปรตแฝงอยู่ควรออกมาร่วมกระบวนการต่อต้านกับกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีอยู่หลายกลุ่ม ถ้าออกมาไม่ได้ก็ส่งปัจจัยไปช่วยเขา เมื่อไรการเคลื่อนไหวเหล่านี้มีการ "เป่านกหวีด" เพื่อสู้กับพวกผีที่ต้องการล้มล้างสถาบันและกินบ้านกินเมืองจนผอมเหลืองเจียนตาย อย่านิ่งดูดาย จงออกมาร่วม นี่คือวิธีรักษาทุนสำรองของชาติและบ้านเมืองไว้ให้ลูกหลาน
กำลังโหลดความคิดเห็น