xs
xsm
sm
md
lg

“เฮียชู” ตวัดลิ้นแก้ตัว ยันทำธุรกิจไม่มีหมกเม็ดตั้งบริษัทฟอกเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชูวิทย์” ยันไม่มีอะไรในกอไผ่ ชี้ฝรั่งหอบเงินร่วมหุ้นซักรีด เพราะช่วงทำธุรกิจอ่างมีค่าซักผ้าเดือนละเป็นล้าน แต่ต่อมามีปัญหากับตำรวจเลยเลิกทำ ย้ำกิจการไม่ได้สลับซับซ้อนจนต้องตั้งบริษัทซักฟอกเงิน แขวะไม่ได้เป็น “ทักษิณ” จะได้ไปตั้งบริษัทซักรีดถึงเมืองนอก ตีชิ่งเรื่องแบบนี้น่าจะไปถามเจ้าสัวเจริญ-เฉลียว อยู่วิทยา มากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 19 ก.พ. สำนักข่าวอิศรา ได้สอบถามนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรครักประเทศไทย สื่บเนื่องจากกรณีพบพิรุธมีบริษัท SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ใช้ที่ตั้งเป็นเพียง “ตู้ไปรษณีย์” อยู่หมู่บนเกาะเล็กๆ ในช่องแคบอังกฤษ หอบเงินร่วมถือหุ้นในบริษัท ภาติฌาน จำกัด ซึ่งทำธุรกิจซักอบรีด ทั้งที่ผลประกอบการขาดทุนติดต่อกันทุกปี ก่อนจะถอนตัวอย่างไร้ร่องรอยนั้น นายชูวิทย์ยังเป็นเจ้าของบริษัท ภาติฌาน จำกัด อยู่หรือไม่ นายชูวิทย์ตอบว่า “ยังเป็นอยู่ บริษัทนี้ทำธุรกิจซักรีด แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว”

เมื่อถามว่า เลิกทำนานหรือยัง นายชูวิทย์ได้ถามกลับด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ทำไมหรือครับ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีการตรวจพบข้อมูลว่า SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD เข้ามาถือหุ้นอยู่ในบริษัท ภาติฌาน จำกัด หนึ่งในบริษัทของนายชูวิทย์ในช่วงเวลาสั้นๆ นายชูวิทย์ตอบทันทีว่า ข้อมูลที่มีการตรวจพบ คือ ในช่วงที่ตนยังทำธุรกิจอาบอบนวดอยู่ มีชาวต่างประเทศรายหนึ่งมาติดต่อขอร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย ตอนที่ทำอาบอบนวดมีผ้าขนหนูที่ใช้แล้วเยอะมาก แล้วก็มีฝรั่งคนหนึ่งอยากจะเอาเครื่องซักผ้ามาลง ตนก็ไม่มีเงิน ฝรั่งคนนี้ก็ยืนยันว่าจะเอาเครื่องมาลงให้จากเยอรมนี แล้วก็ขอหุ้นด้วย

นายชูวิทย์ยังอธิบายด้วยว่า ในช่วงที่ตนทำธุรกิจอาบอบนวดอยู่ 6-7 แห่ง ค่าซักผ้าที่ต้องจ่ายไปตกเดือนละเป็นล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตกลงกับชาวต่างชาติรายนี้ได้ไม่เท่าไร ในช่วงปี 2546-2547 ธุรกิจอาบอบนวดของตนมีปัญหาถูกจับถูกตรวจ มีเรื่องกับตำรวจ และเลิกทำไป ข้อตกลงการทำธุรกิจร่วมกับฝรั่งรายนี้ก็เลยไม่ได้ทำต่อ เมื่อไม่ได้ทำเขาก็ถอนเงินไปไม่มีอะไร ก็ชี้แจงได้แค่นี้

เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ตั้งอยู่ใน ชาแนลไอส์แลนด์ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสวรรค์ของนักเลี่ยงภาษี นายชูวิทย์ยืนยันว่า ตนไม่ทราบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้มากนัก

“เรื่องนี้ผมไม่ทราบนะครับ เพราะฝรั่งเขาเป็นคนเอามาลงหุ้นอย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ทราบ ตอนนั้นเขาบอกว่าจะหุ้นด้วย ผมไม่มีตังค์ เขาก็บอกว่าจะเอาหุ้นมาหุ้นให้ แล้วเอาเครื่องซักผ้ามาลงให้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนั้นใครๆ ก็รู้นิครับค่าซักผ้าผมเดือนละเป็นล้านสมัยก่อน”

เมื่อถามถึงขั้นตอนการเจรจาธุรกิจกับชาวต่างชาติรายนี้ นายชูวิทย์อธิบายว่า ฝรั่งรายนี้ที่มาติดต่อเป็นชาวเยอรมัน เป็นเยอรมันที่อยู่ในเมืองไทย ไม่ใช่เยอรมันนอก ช่วงที่มาติดต่อกัน เขาบอกว่าจะสั่งเครื่องซักผ้ามาลง ราคามันตั้ง 20-30 ล้านบาท ตนก็บอกเขาตอนนั้นว่าไม่มีเงิน เขาก็ยืนยันว่าเขาสนใจเพราะเห็นว่าผ้าขนหนูเยอะมาก ซักเดือนละเป็นล้าน เขาอยากหุ้นมาก เรื่องของเรื่องก็มีเท่านี้

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่าคุณชูวิทย์ไปแอบตั้ง SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD แล้วมาถือหุ้นแทนตัวเองในบริษัท ภาติฌาน จำกัด นายชูวิทย์ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้ง จะไปตั้งทำไม มันเป็นแค่บริษัทซักรีด ไม่ใช่ว่ามีรายได้อย่างทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ที่มีเป็นพันเป็นหมื่นล้าน “ปัดโธ่!! แค่บริษัทซักผ้า ผมจะไปตั้งที่เมืองนอกทำไม น่าจะอ่านออก ผมไม่ได้เป็นทักษิณนะคุณ จะได้ไปตั้งบริษัทซักรีดถึงเมืองนอก”

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงเอาหุ้นของตนเองไปฝากไว้ใน SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD แล้ว ที่ตั้งในเมืองนอกแล้ว เข้ามาถือหุ้นในบริษัทตัวเองอีกครั้ง นายชูวิทย์ตอบว่า มันเป็นแค่บริษัทซักรีดนะ คุณก็รู้ว่าบริษัทแห่งนี้ มันไม่ได้มีทรัพย์สินอะไร รับซักรีด ไปเปิดดูได้เลย ไม่มีรายได้อะไรอื่นนอกจากซักรีด

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าบริษัท ภาติฌาน จำกัด ขาดทุนติดต่อมาตลอด ทำไม่ SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ถึงกล้าเข้ามาลงทุนด้วย นายชูวิทย์ตอบว่า ก็เป็นบริษัทฝรั่ง ที่เขาอยากจะเอาเครื่องสักผ้ามาลงให้ ในระหว่างนั้นก็เกิดปัญหาขึ้นในปี 2546-2547 คุณดูได้เลย เพราะมีเรื่องกับตำรวจ ก็เลยทำให้ต้องขายกิจการอาบอบนวดทั้งหมด ฝรั่งเขาก็โอเค เลิกก็เลิกกันไป พอดีเครื่องก็ยังไม่ได้มา เรื่องก็มีอยู่แค่นี้

เมื่อถามย้ำว่า ช่วงที่ SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ถอนหุ้นออกไปแล้ว มีการนำหุ้นไปเพิ่มในสัดส่วนของลูกแทนหรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวย้ำว่า “บริษัท ภาติฌาน จำกัด เป็นบริษัทซักรีดไม่มีรายได้ อะไร หลังจากที่เขาถอนออกไป หุ้นก็ต้องคืนมา เขาก็ไม่ได้ทำ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเหมือนกัน”

เมื่อถามย้ำอีกว่า หุ้นของ SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ไม่ได้กระจายไปให้ลูกใช่ไหม นายชูวิทย์กล่าวว่า ไม่ได้กระจาย หุ้นส่วนนี้เขาก็ขายให้ตนมา เพราะตัวหุ้นยังไม่ได้อะไรนะ..เป็นหุ้นที่จดไว้เฉยๆ.. (หยุดคิดนิดหนึ่ง) “ยังไม่ได้จ่ายเงินหมด อ๋อใช่แล้วยังไม่ได้ชำระ ส่วนการกระจายหุ้นในกิจการต่างๆ ไปให้ลูกๆ ถือเป็นเรื่องปกติ ของคนที่มีลูกที่จะต้องโอนหุ้นไปให้ลูก ถ้าไม่โอนให้ลูกจะโอนไปให้ใครได้ล่ะ”

เมื่อถามว่า หุ้นที่ SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ถืออยู่ในบริษัท ภาติฌาน จำกัด 180,000 หุ้น มีราคาเท่าไร นายชูวิทย์ตอบว่า จำไม่ได้แล้ว มันตั้งเกือบ 10 ปี แต่จำได้ว่าค่าเครื่องประมาณ 20 ล้านบาท เขาก็แค่เอาหุ้นมาลง เหมือนมาหุ้นกับตน แล้วก็จะมาดำเนินการซักรีด มารับจ้างที่ตน แล้วจะไปรับจ้างที่อื่นด้วย ตามที่เขาวางแผนไว้ แต่เราก็ไม่ได้ทำไง คุณรู้ไหมผ้าขนหนูอาบอบนวดมันแพงแค่ไหน เดือนหนึ่งต้องจ่ายเป็นล้าน เราก็เลยคิดว่าทำเองดีไหม และบังเอิญฝรั่งคนนี้ก็สนใจ

เมื่อถามว่า ฝรั่งที่มาร่วมลงทุนด้วยชื่ออะไร นายชูวิทย์ตอบว่า จำได้แค่ชื่อมิสเตอร์วูล์ฟ เป็นคนเยอรมัน เขาสนใจ ก็มาหุ้นด้วย เมื่อมาหุ้นเขาก็เอาบริษัทเขามา

เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจสอบข้อมูล SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD ว่ามีตัวตนและทำธุรกิจจริงหรือไม่ ก่อนที่จะให้มาร่วมลงทุนด้วย นายชูวิทย์กล่าวว่า “ผมไม่รู้นะ เพราะว่าเขาเอาเครื่องซักผ้ามาลงให้ผม แต่ยังไม่ลง มีปัญหาก่อน และผมก็ขายอาบอบนวดทิ้งไปทั้งหมด ก็เลยยังไม่ได้ทำ”

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่อยู่ของ SUNSET INVESTMENT HOLDINGS CO.,LTD อาจเป็นเพียงตู้ ปณ.เท่านั้น นายชูวิทย์กล่าวว่า คือบริษัทฝรั่งตนไม่รู้หรอก ไม่รู้ว่าทำอะไร เขามาหุ้นกับตนก็ดีใจแล้ว เอาเครื่องมาลงให้โดยไม่ต้องเสียตังค์ แล้วก็มาแบ่งผลกำไรกัน เรื่องก็มีแค่นี้

เมื่อถามย้ำว่า มีความคิดเห็นอย่างไร ที่นักการเมืองมักจะไปตั้งบริษัทในต่างประเทศ ที่เป็นแห่งฟอกเงิน หรือเลี่ยงภาษี นายชูวิทย์ตอบว่า มันแล้วแต่คนคิด ตนไม่ทราบ แต่ว่าบริษัทนี้ ตนจะไปฟอกทำไมมันเป็นแค่บริษัทซักรีด ซึ่งฝรั่งมีความสนใจมาลงทุนเรื่องซักรีดก็มาลงทุนกับตน ตนจะไปมีปัญญารู้จักเกาะอะไรของคุณ จะไปรู้ได้อย่างไร กิจการก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรถึงขนาดต้องพึ่งต่างประเทศ ถ้ามีซื้อขายหุ้นในตลาดทรัพย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่บริษัทตนมันง่ายๆ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน คำถามแบบนี้น่าจะไปถามคุณเจริญ (สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง) กับคุณเฉลียว (อยู่วิทยา เจ้าของกระทิงแดง) มากกว่าเพราะบริษัทเขาใหญ่กว่า

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่จะถูกตรวจสอบเรื่องนี้ นายชูวิทย์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาที่จะมีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะเรื่องนี้เกิดมา 10 ปีแล้ว ตอนนั้นตนไม่ได้เป็นนักการเมือง จะมาตรวจสอบอะไรตนล่ะ

แหล่งที่มา : ข่าว “ชูวิทย์” ปัดตั้ง บ.บนเกาะ Channel Islands - ฉุนถูกคุ้ย ให้ถาม “เจ้าสัวเจริญ–เฉลียว” โดย สำนักข่าวอิศรา
กำลังโหลดความคิดเห็น